อะไรกันที่ดลจิตดลใจพาให้เราได้มารู้จักกับสถานที่แห่งนี้ Dhol Jai (ดลใจ) คาเฟ่ขนาดกะทัดรัดที่เต็มไปด้วยความสุขจากรอยยิ้มของ คุณเนย์ ชญานิต จีระวรารักษ์ เจ้าของร้านดลใจ ที่มีความชอบและแพสชันในการทำอาหาร สู่โปรเจ็กต์ร้านในฝันที่นำความอบอุ่นมาให้ชาวรัชดา 48
ก่อนจะกลายเป็นร้านมู้ดอบอุ่นนี้ คุณเนย์เล่าให้ฟังว่า ตัวเองเคยออกบูธขายขนมโตเกียวและข้าวกล่องมาก่อน แต่ด้วยฝีมือการทำอาหารสไตล์โฮมคุกที่ผนึกกำลังกับความตั้งใจอยากมีร้านของตัวเอง ทำให้โปรเจ็กต์ร้านดลใจก่อตัวขึ้นมาจนสานฝันให้เป็นจริงสำเร็จ ซึ่งทุกอย่างภายในร้านคุณเนย์เป็นคนออกแบบเองทั้งหมด ตั้งแต่ประตูทางเข้าที่มองเข้าไปเห็นบ้านทรงจั่วหลังสีขาวตัดกับสีไม้ ก็ชวนให้อยากเข้าไปด้านใน
ภายในร้านดีไซน์ด้วยคู่สีที่คุณเนย์ชอบทั้งสีส้มและสีเขียว มีหลายมุมให้ลูกค้าเลือกนั่งได้ตามใจชอบ (แต่มุมที่น่ารักที่สุดมีน้องฉลามตัวอ้วนกลมจองไว้แล้ว)
เมนูในร้านส่วนมากจะเป็นอาหารจานเดียว ดูเหมือนจะธรรมดา แต่จริงๆ แล้วรสชาตินั้นไม่ธรรมดา มีความจัดจ้าน เข้มข้น ซึ่งเป็นสูตรของทางครอบครัวเจ้าของร้านนั่นเอง
เมนูทั้งหมดในวันนี้ยกให้เป็นซิกเนเจอร์ของร้าน อาทิ ข้าวกุ้งผัดพริกขี้หนู ไข่ข้น (142 บาท) เป็นกุ้งผัดพริกขี้หนูสูตรของคุณแม่เจ้าของร้าน ได้รสเค็มๆ หวานๆ และเผ็ดร้อนจากพริกขี้หนูสด กินคู่กับข้าวสวยร้อนๆ พร้อมไข่ข้นรสกลมกล่อม ช่วยตัดความจัดจ้านให้จานนี้ได้ดี
ข้าวคลุกพริกน้ำปลา หมูทอดดลใจ (128 บาท) ข้าวสวยมีความนัวและเค็มเล็กน้อยจากพริกน้ำปลาที่ทางร้านแอบคลุกมาให้ เพิ่มรสชาติด้วยเครื่องเคียงต่างๆ ทั้งกระเทียม หอมแดง แตงกวา พริกขี้หนูซอย และสันนอกหมูหมักนมฮอกไกโดทอด เวลารับประทานจะคลุกรวมกันหรือตักแยกเป็นคำๆ ก็อร่อยลงตัว หรือถ้าใครอยากเพิ่มความแซ่บจี๊ดจ๊าดขึ้นอีกนิด แนะนำให้ตักพริกน้ำปลาราด รับรองอร่อยเหาะ
มาต่อกันที่ สปาเก็ตตีซอสดลใจหมูสับ ไข่ออนเซ็น (118 บาท) เส้นสปาเก็ตตีสุกกำลังดี ราดมาด้วยหมูสับซอสดลใจสูตรเฉพาะของร้าน เป็นซอสจากวัตถุดิบ 7 ชนิดที่นำมาเคี่ยวรวมกัน มีกลิ่นหอมของสมุนไพรและเนยฝรั่งเศสชัดเจน ออนท็อปด้วยไข่ออนเซ็นช่วยเพิ่มความนัวละมุนลิ้นได้ดี
ในกระเพาะยังมีที่สำหรับขนมเสมออย่าง เซ็ตโตเกียวดลใจ (120 บาท/5 ชิ้น) ที่ทำสดๆ หน้าร้านกลิ่นหอมฟุ้งชวนหิว มีให้ลิ้มลองทั้งหมด 10 ไส้ทั้งคาว-หวาน เราเลือกหมูสับไข่ ไส้กรอกราดซอสสูตรลับ ครีมข้าวโพด คัสตาร์ดใบเตยและคัสตาร์ดครีม เป็นโตเกียวชิ้นโต เซ็ตนี้บอกเลยอิ่มจุกๆ
เครื่องดื่มก็มีทั้งเมนู Coffee อย่าง Iced Americano Strawberry (75 บาท) ด้านล่างคือ Strawberry Puree มีเนื้อสตรอว์เบอร์รีให้เคี้ยว ได้ความเปรี้ยวหวานเล็กน้อยที่ตัดรสกับอเมริกาโนรสเข้มได้ดี
ส่วน Non-Coffee เราแนะนำเป็น Iced Honey Lemon (70 บาท) ได้รสหวานและหอมของน้ำผึ้ง มีความอมเปรี้ยวนิดๆ จากน้ำมะนาวสด เนื่องจากเราไปช่วงเดือนกุมภาพันธ์พอดี ทางร้านออกเมนูใหม่อย่าง All White Heart มาให้ลิ้มรส เป็นน้ำลิ้นจี่ผสมเลมอน มีความหอมหวานละมุนจากลิ้นจี่ ด้านล่างมีวุ้นลิ้นจี่ให้เคี้ยวเล่นเพลินๆ ดื่มแล้วสดชื่นมาก
เป็นคาเฟ่ที่โดนใจสุดๆ
รัชดา 48 (ซ.พหลโยธิน 35 แยก 5-2 เขต จตุจักร กทม.)
เปิดบริการ 10.30 - 20.00 น. / เสาร์ - อาทิตย์ 10.30 - 18.30 น. (ปิดวันจันทร์)
ราคา 50-300 ไม่รับบัตรเครดิต (รับสแกนจ่าย)
Tag:
Comfort Food, คอมฟอร์ดฟู้ด, คาเฟ่กรุงเทพ, อาหารจานเดียว, อาหารโฮมเมด, อาหารไทย, เมนูไข่
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น