Terroir ร้านอาหารญี่ปุ่นแนว ไคเซกิ โพรเกรสซีฟ บนชั้น 2 ของโครงการ Acmen Complex เอกมัย ซึ่งต่อยอดจาก Terroir Expression ไวน์บาร์ที่อยู่ชั้นล่าง
คำว่า Terroir เป็นศัพท์ภาษาฝรั่งเศส ซึ่งไม่ได้มีความหมายตรงตัว แต่แปลได้คร่าวๆ คือ ดิน ฟ้า อากาศ ที่เป็นปัจจัยสำคัญต่อคุณภาพไวน์หรือแชมเปญ ซึ่งตรงกับคอนเซ็ปต์ของร้านคือ ไวน์และวัตถุดิบต่างๆ ที่ใช้นั้นจะคัดสรรจากแหล่งเพาะปลูกที่ดีที่สุด เพราะแม้จะเป็นสายพันธุ์เดียวกันแต่มาจากคนละแหล่งปลูก รสชาติที่ได้ก็ต่างกัน ตามสภาพดินฟ้าอากาศ สิ่งนี้จึงเป็นจุดเด่นที่ทำให้รสชาติอาหารและเครื่องดื่มของ Terroir แตกต่างจากร้านอื่น และกลายเป็นแนวคิดในการตั้งชื่อร้านด้วย
ก่อนจะถึงเวลาอาหารมื้อค่ำ แนะนำให้แวะมาเรียกน้ำย่อยกันที่ Terroir Expression ซึ่งอยู่ชั้นล่างของอาคารเดียวกัน ผลักประตูซุ้มโค้งบานใหญ่เข้าไปจะพบบรรยากาศคลังเก็บไวน์ขนาดย่อม ให้เลือกดื่มด่ำไปกับไวน์หลากสัญชาติจากทั่วโลก
เรียกน้ำย่อยกันพอประมาณก็ถึงเวลามื้ออร่อยที่ Terroir ซึ่งอยู่บนชั้น 2 ภายในร้านตกแต่งสไตล์มินิมอล เรียบ สะอาด และอบอุ่น ครัวเปิดโล่งร้อยเปอร์เซ็นต์ ให้บรรยากาศเป็นกันเองราวกับมากินอาหารที่บ้านเชฟ เชฟรังสรรค์ทุกเมนูโดยใช้วัตถุดิบอย่างคุ้มค่า ให้เหลือเศษอาหารทิ้งน้อยที่สุด เช่น นำส่วนที่ไม่ใช้ไปหมักดองหรือดัดแปลงให้เป็นวัตถุดิบและเครื่องปรุงใหม่ นอกจากนั้นเชฟยังทำงานควบคู่กับซอมเมอลิเยร์ คิดค้นสูตรอาหารให้เข้ากับไวน์ เพื่อสร้างประสบการณ์พิเศษให้ทุกคนที่มาได้สัมผัส
ขอแนะนำจานแรกด้วยซิกเนเจอร์อย่าง Tomato จานนี้ทั้งรูปรสกลิ่นมีส่วนประกอบของมะเขือเทศทั้งหมด ใช้เปลือกมะเขือเทศทำเป็นเกลือ โรยบนตัวมะเขือเทศตรงกลาง ได้รสเค็มแต่อูมามิมาก น้ำซุปเป็นดาชิญี่ปุ่นมีคัตสึโอะบุชิ น้ำมันคอมบุและมะเขือเทศเป็นส่วนประกอบ มีรสเปรี้ยว ช่วยกระตุ้นให้อยากกินจานต่อไป
Eggplant นำมะเขือไปเผาให้มีกลิ่นหอมก่อนนำไปตุ๋นกับดาชิโฮมเมดที่ทำจากคอมบุฮอกไกโด เสิร์ฟในชามท็อปด้วยหอยฮามากุริจากชิบะและผิวยูซุ ถัดมาคือ Kinmedai เนื้อปลาคินเมะไดที่สุกกำลังดี มีเกล็ดปลาด้านบนเพิ่มความกรุบกรับในปาก แนมด้วยกระทงทองช่วยเพิ่มเท็กซ์เจอร์ในการกินที่ดีมาก
เมนูอาหารคาวจานสุดท้ายที่อยากแนะนำเป็น Abalone เสน่ห์ในจานนี้คือหอยเป๋าฮื้อจากชิบะตุ๋น แต่คงความเคี้ยวสนุกเนื้อเด้งสู้ฟัน ซอสทำจากตับเป๋าฮื้อ มีรสชาติเปรี้ยวไม่มาก ส่วนเครื่องเคียงจะเปลี่ยนตามฤดูกาล
ตบท้ายด้วย Aonori ใช้สาหร่ายอาโอโนริอินฟิวส์ในนมทำเป็นไอศกรีม เสิร์ฟคู่คอมบุออยและข้าวพอง ราดด้วยฟูจิมัตฉะจากเกียวโต
ถึงแม้ว่าการจัดจานจะดูมินิมอล แต่ทุกจานมีรายละเอียดแน่นมาก ตั้งแต่การเตรียมวัตถุดิบ กรรมวิธีการทํา จนถึงมือผู้กิน อีกจุดเด่นของร้านนี้ก็คือตลอด 20 คอร์ส ไม่มีความน่าเบื่อเลย ดึงจานร้อนสลับกลับมาเย็น ที่สำคัญแนะนำให้ดื่มไวน์ควบคู่ไปด้วย ไวน์จะช่วยชูรสชาติอาหารยิ่งขึ้น
ใครที่รับประทานอาหารเสร็จแล้ว อยากลงไปต่อไวน์บาร์ก็ได้เช่นกัน
โครงการ Acmen Complex เอกมัย กรุงเทพฯ
เวลา 18.30 น. ปิดวันจันทร์ (1รอบ 12ที่นั่ง)
ราคา 3900-4500 (20คอร์ส) รับบัตรเครดิต
Tag:
ร้านอาหารญี่ปุ่น, เอกมัย, ไคเซกิ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น