ขึ้นชื่อว่าอยู่บนชั้น 76 ของตึกระฟ้าที่โด่งดังที่สุดในกรุงเทพมหานคร แน่นอนว่าวิวของร้าน Ojo (โอโฮ) ของโรงแรม The Standard, Bangkok Mahanakhon จะต้องสร้างความประทับใจได้ตลอดมื้ออาหารอย่างแน่นอน
Ojo (โอโฮ) นั้นมาจากภาษาสเปนที่หมายถึงดวงตา เมื่อก้าวออกจากลิฟต์ความเร็วสูงที่พาเราขึ้นมาสู่ชั้น 76 ภายในเวลาชั่วพริบตาเดียว ร้านอาหารแห่งนี้ก็ต้อนรับเราด้วยอุโมงค์ประตูโค้งที่เรียงรายด้วยดวงตาสีทองอร่าม สร้างบรรยากาศที่หรูหรา โมเดิร์น ด้วยการจับคู่สีทองและชมพูไว้ด้วยกันอย่างลงตัว แฝงด้วยกลิ่นอายของหลากหลายวัฒนธรรมทั้งเม็กซิกันเอง ผสมผสานไปกับอเมริกัน รวมทั้งเอเชีย ที่น่าประทับใจคือโคมไฟที่ได้แรงบันดาลใจจากต้น Yucca brevifolia ซึ่งเป็นพืชทะเลทรายที่มีรูปร่างแปลกตา
เมนูอาหารเม็กซิกันของ Ojo (โอโฮ) รังสรรค์ภายใต้แนวคิดของความเป็นต้นตำรับแท้ ๆ คงวัฒนธรรมการกินอาหารจานใหญ่ กินแบบแชร์กันบนโต๊ะอาหาร แต่ก็มีการปรับให้หน้าตาโมเดิร์นขึ้นกว่าเดิมด้วยฝีมือของเชฟฟรานซิสโก ปาโก รูอาโน (Francisco Paco Ruano) ชาวเม็กซิกันขนานแท้
เริ่มต้นด้วยอาหารเรียกน้ำย่อยแบบเย็นจานแรก Ojo Guacamole กัวคาโมเล่แบบฉบับของโอโฮ แผ่นแป้งทอสทาด้าเสิร์ฟคู่กับกัวคาโมเล่ผสมเนื้อปูเน้น ๆ โปะหน้าด้วยไข่แซลมอน
ต่อด้วยอีกเมนูเพิ่มความสดชื่นกับ Coconut Ceviche จากที่มักจะคุ้นเคยกับเซบิเชที่ทำจากเนื้อปลา แต่เมนูนี้เลือกใช้เป็นเนื้อมะพร้าวอ่อนขูดชิ้นพอดีคำมาทดแทน ซึ่งแปลกใหม่และเข้ากับรสเปรี้ยวของน้ำยำตามแบบฉบับของเซบิเชเป็นอย่างดี และยังเหมาะกับผู้ที่รับประทานมังสวิรัติอีกด้วย
อีกจานที่สดชื่นไม่ต่างกันต้องยกให้กับ Aguachile กุ้งลายเสือในซอสแตงกวา เสิร์ฟพร้อมกับมะเขือเทศสีเขียว ผักชี พริก และแอปเปิ้ลเขียว
Chiang Mai Tomato Salad เป็นอีกจานที่ไม่ควรพลาดกับสลัดผักสีสันสดใส เพิ่มรสชาติเข้าไปด้วยชิลลี่มายองเนสและซอล์ทเต็ดเลม่อน
Esquites เป็นจานเรียกน้ำย่อยแบบร้อน มาในรูปแบบของข้าวโพดอ่อนย่างเสริมรสด้วยฆาลาเปญโญมายองเนส ท็อปด้วยเปโกรีโนชีส โดยมีแมคคาเดเมียและฟิงเกอร์ไลม์ซ่อนอยู่ใต้นี้ด้วย
อย่างที่บอกไปว่าแนวคิดของที่นี่คือการคงเอกลักษณ์วัฒนธรรมการกินแบบเม็กซิกันเอาไว้อย่างเหนียวแน่น อาหารจานหลักจึงเสิร์ฟมาในรูปแบบจานใหญ่ เหมาะสำหรับแบ่งกันกิน เริ่มด้วย Pescado Zarandeado ปลากะพงจากฝรั่งเศสย่างเตาถ่าน ในจานเดียวกันนั้นมาคู่กับสลัด ผักดอง และอโวคาโด วิธีการกินเริ่มต้นจากการบีบเลมอนลงไปที่เนื้อปลาก่อน จากนั้นห่อด้วยแป้งตอร์ติญาพร้อมเครื่องเคียงอย่างถั่วบดละเอียด ราดด้วยซัลซ่า 3 รสชาติพิเศษของทางร้าน และสามารถเพิ่มความเผ็ดได้ด้วยพริกคั่วแห้ง หรือถ้าอยากได้กลิ่นอายบ้านเราก็มีข้าวเหนียวเป็นอีกตัวเลือกให้ลิ้มลองคู่กันได้ด้วย
อีกหนึ่งจานหลักที่ควรค่าแก่การลองไม่แพ้กันก็คือ Carnitas ซี่โครงหมูอบจนเนื้อเปื่อยนุ่ม ที่สามารถกินแบบเดียว Pescado Zarandeado ได้เลย
ปิดท้ายด้วยของหวาน 2 เมนู ได้แก่ Arroz Con Leche ข้าวในครีมวานิลลาเสิร์ฟคู่กับไอศกรีมซินนามอน ท็อปด้วยแผ่นนมถั่วเหลืองกรอบและข้าวพอง และ Mexican Dark Chocolate Tamal แป้งข้าวโพดนึ่งกับดาร์กช็อกโกแลตและไวต์ช็อกโกแลต เสิร์ฟคู่ไอศกรีมใบเตย ท็อปด้วยใบเมี่ยงทอดกรอบและแผ่นดาร์กช็อกโกแลตกรอบ
มาถึงร้านอาหารที่วิวอลังการขนาดนี้ทั้งที อย่าลืมสั่งเครื่องดื่มมาเพิ่มบรรยากาศให้ดื่มด่ำกว่าเดิม สำหรับเครื่องดื่มไร้แอลกอฮอล์ที่เป็นไฮไลต์ของที่นี่ก็มีทั้ง Pineapple & Chili ม็อกเทลที่ได้รสชาติหวานและเปรี้ยวจสกสับปะรดเคล้ามากับรสเผ็ดนิด ๆ จากพริก Tangerine & Yuzu ก็ให้อีกมุมของความสดชื่นจากส้มเข้าคู่กับรสชาติและกลิ่นหอมที่เป็นเอกลักษณ์ของยูซุ แต่ถ้าอยากลองเครื่องดื่มพื้นเมืองเม็กซิกัน Horchata น้ำนมข้าวหอมซินนามอนและวานิลลานับเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด
76 โรงแรม The Standard Bangkok Mahanakhon 114 ถนน นราธิวาสราชนครินทร์ แขวง สีลม เขตบางรัก กรุงเทพฯ
11.30-14.30 น. และ 17.30-23.30 น.
Tag:
อาหารเม็กซิกัน
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น