เจลาโต ต่างกับไอศกรีมทั่วไปยังไง? อธิบายง่ายๆ ก็เป็นไอศกรีมสไตล์อิตาเลียนที่มีอากาศอยู่ในเนื้อไอศกรีมน้อยกว่าไอศกรีมทั่วไปทำให้เนื้อแน่นกว่า และยังมีส่วนประกอบของไขมันน้อยกว่า และเสิร์ฟที่อุณหภูมิสูงกว่า (ถ้าเย็นมากไปจะแข็งจนตักไม่ได้) เวลาเสิร์ฟก็ไม่ต้องตักเป็นลูกๆ แต่ใช้ไม้พายตักซ้อนกันเป็นชั้นๆ ได้เลย ด้วยคุณสมบัติเหล่านี้ เวลาที่เราทานเจลาโตจึงได้รสชาติเข้มข้นเต็มรสและรสสัมผสที่แน่นเต็มคำ ถูกใจใครหลายๆ คน
ร้าน Ampersand ก็เป็นร้านเจลาโตที่เราติดตามมาตั้งแต่เปิดสาขาแรก ด้วยรสชาติที่เข้มข้นถึงใจ และคุณยิ้ม เจ้าของร้านยังชอบคิดรสชาติแปลกๆ ใหม่ๆ ออกมาให้ลิ้มลองอยู่เรื่อยๆ หลายๆ รสก็กลายมาเป็นรสยอดนิยม ทั้งรสดาร์ค ช็อกโกแลต, ซอร์เบต์ รสส้มยูสุ, รสสตรอว์เบอร์รี่ชีสเค้ก หรือรสเครื่องดื่มหรือดอกไม้ต่างๆ อาทิ รสโอวัลติน, รสชาเอิร์ล เกรย์ และรสลาเวนเดอร์ ก่อนจะย้ายมาอยู่ที่เซ็นทรัลเวิล์ด ชั้น 7
จนตอนนี้ก็ได้โอกาสขยับขยายเพิ่มสาขามาเอาใจคนรักเจลาโตย่านทองหล่อกันบ้าง และร้านนี้ก็จะกลายมาเป็นสาขาแฟล็กชิพด้วย โดยร้านแห่งใหม่นี้สวยงามน่าเช็คอินมากๆ ด้วยบรรยากาศสีขาว–ทอง แซมน้ำเงิน มีรูปไอศกรีมซ่อนอยู่ทุกที่ ตั้งแต่บนกระเบื้องพื้นนำเข้าร้าน บนประตูกระจกที่เปิดสู่ซอยทองหล่อ 13 และเครื่องหมาย & ที่เป็นสัญลักษณ์ของแบรนด์ก็ถูกนำมาตกแต่งอย่างน่ารัก มีเมนูอื่นๆ นอกจากเจลาโต ได้แก่ Gelato Shake ซึ่งเราสามารถเลือกเจลาโตรสที่ชอบมาปั่นกับนมเป็นเครื่องดื่มรสเข้มข้นได้ หรือเมนู Frappe ก็มีให้เลือกหลายรสชาติ ทั้งส้มยูสุ สตรอว์เบอร์รี่ มัทฉะ
ด้านเจลาโตที่เป็นตัวเอกของร้าน เคล็ดลับของเนื้อเนียนแน่นและรสชาติที่เข้มข้นคือทำจากนมออร์แกนิกและส่วนผสมจากธรรมชาติทั้งหมด ไม่แต่งกลิ่นหรือสี ส่วนรสพิเศษๆ ที่มีมาแล้วทำไมหมดเร็วจัง อย่าง 2 รสพิเศษที่ออกมาในโอกาสเปิดสาขาทองหล่อนี้ Rose และ Sakura & Sake ก็หมดเร็วมากๆ นั่นเพราะใช้วัตถุดิบจากต่างประเทศที่คุณยิ้มพบตอนเดินทางแล้วหิ้วกลับมาเอง หรือฝากเพื่อนๆ หิ้วมาให้ ซึ่งหากหมดแล้วก็หมดเลย เพราะงั้นขอแนะนำว่าถ้าเจอรสพิเศษที่ถูกใจ ไม่ต้องลังเล ซื้อเป็นควอตซ์กลับมากินต่อที่บ้านด้วยเลยดีที่สุด
Tag:
, ร้านไอศกรีม, ไอศกรีมเจลาโต,
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น