Elements, inspired by Ciel Bleu ห้องอาหารระดับ 1 ดาวมิชลิน ที่ โรงแรม ดิ โอกุระ เพรสทีจ กรุงเทพฯ เปิดตัว Chef de Cuisine คนใหม่ เชฟ Gerard Villaret Horcajo เชฟหนุ่มชาวสเปนซึ่งเคยร่วมงานกับร้าน Ciel Bleu ระดับ 2 ดาวมิชลินที่เมืองอัมสเตอร์ดัม พร้อมนำเสนอคอร์สเมนูใหม่ที่ยังคงผสมผสานอาหารฝรั่งเศสเข้ากับกลิ่นอายของอาหารญี่ปุ่นอย่างลงตัวและน่าค้นหา "Spring Guestronomic Journey" ชูรสชาติสดชื่นดั่งสายลมฤดูใบไม้ผลิที่พัดพาความสุขมาตั้งแต่จานแรกจนจานสุดท้าย แพร์ริ่งกับไวน์หรือ Home-Brew Kombucha เครื่องดื่มสำหรับคนรักสุขภาพซึ่งผสมผสานรสชาติขึ้นอย่างมีอย่างมีเอกลักษณ์
คอร์สเมนูใหม่โดยเชฟเจอร์ราดปรุงด้วยแนวคิด from nose to tail ที่ให้ความสำคัญกับการใช้วัตถุดิบอย่างคุ้มค่า เชฟเริ่มเสิร์ฟอามูสบุช (amuse-bouche) ที่ผสมผสานวัตดุดิบญี่ปุ่นกับการปรุงแบบฝรั่งเศส อาทิ มาการองแบบญี่ปุ่นทอปด้วยหนังปลากรอบหอมกลิ่นสโมค และ Pommes Soufflées มันฝรั่งบางกรอบทอปด้วยเนื้อกุ้งหวานและกุ้งแห้ง ก่อนเข้าสู่เมนูแรกในวันนี้คือจานเรียกน้ำย่อย Hamachi มาในสีเขียวสดใสสมกับธีมฤดูใบไม้ผลิจากถั่วสวีทพีที่ให้รสหวานมัน ตัวเอกคือซาชิมิเนื้อปลาฮะมะจิรสหวานอูมามิ เพิ่มความหวานมันด้วยหอยนางรมที่ซ่อนอยู่ ตัดรสด้วยสตรอว์เบอร์รี่ขาวดองฝานเคี้ยวกรุบ เป็นจานแรกที่ชวนว้าวไม่เบา
จานต่อมา Blue Lobster ที่ทำให้สุกกำลังดีเนื้อหวานเด้ง เคียงด้วยสมุนไพรสดจากไร่ที่เชียงใหม่ พูเร่แครอต เสริมรสด้วยเพิร์ลมะเขือเทศเพิ่มความสดชื่น จานนี้จับคู่กับ Sakura Royale คอมบุฉะสีชมพูเปล่งประกายที่มีเบสเป็นชาเขียวลูสลีฟจากทางเหนือของไทย ผสมผสานด้วยน้ำผึ้งป่า น้ำเมลอนญี่ปุ่น ชาไฮบิสคัส และซากุระ เอ็กซ์แทร็กกลิ่นหอมละมุน
คอร์สต่อมาเป็นจานปลา Norwegian Wild Cod เนื้อสัมผัสนุ่มนวล เสิร์ฟกับซอสเวลูเต้ใส่ไข่ปลาคาเวียร์ Kaviari Kristal ให้รสชาติเข้มข้นเค็มมัน เพิ่มสัมผัสเคี้ยวสนุกด้วยหน่อไม้ฝรั่งขาวและหน่อไม้ญี่ปุ่น จานเคียงเป็นหนังปลาค็อดทอดกรอบเคี้ยวเพลินเสิร์ฟมาบนก้างปลาค็อดที่ใช้ปรุงอาหาร
Karifurawa เป็นเสียงอ่านเรียกดอกกะหล่ำ (Cauliflower) แบบญี่ปุ่นซึ่งเป็นวัตถุดิบหลัก ปรุงรสด้วยมิโสะแดงรสออกหวาน ทอปด้วย Périgord Truffle ถึงจะเลยฤดูกาลมาแล้วแต่เชฟใช้วิธีดองในน้ำมันเพื่อนำมาเพิ่มกลิ่นและรสให้กับจานนี้
จานต่อมา Dry Aged Barbary Duck เนื้อเป็ดสายพันธุ์อเมริกันเลี้ยงที่ฟาร์มในจังหวัดนครราชสีมา เนื้อนุ่มแน่นไขมันน้อยแต่จุ๊ยซี่มากๆ เสิร์ฟกับพูเร่ข้าวโพดรสหวานเนียน เจลเซเลอรีดึงรสสดชื่น ปอเปียะสอดไส้หัวใจและกึ๋นเป็ดปรุงรสทอปด้วยโกะโบ ตามด้วยจานเคียงเป็นแป้งทอดสอดไส้มูสตับเป็ดและทอปด้วยลิ้นเป็ดเคี้ยวกรุบ ใช้ทุกส่วนของเป็ดให้ได้ประโยชน์เลยทีเดียว
เข้าสู่เมนคอร์ส Kagawa Olive-fed A5 Wagyu เนื้อวัววากิวที่เลี้ยงด้วยมะกอกซึ่งเลี้ยงจำกัดปีละ 2,500 ตัวเท่านั้น เนื้อมีลายไขมันแทรกคล้ายหินอ่อนเป็นชั้นละเอียดนุ่มละลายในปาก ตัดเลี่ยนด้วยวาซาบิสดขูดเพิ่มความจี๊ดจ๊าด เสิร์ฟกับ Red Banana Shallot หรือหอมแดงทรงยาวรีและเห็ดอะวาบิทาเคะปรุงรส จานเคียงคือ Pommes Dauphine มันฝรั่งบดทอดให้ผิวนอกกรอบ ทอปด้วยชิปส์กระเทียมดำรูปดอกไม้
จานคั่นก่อนของหวาน Elements Bubble Tea เอาใจคนรักชานมไข่มุกด้วยของหวานเบาๆ แต่ไม่ธรรมดาเพราะมีส่วนผสมของอะโลเวรา เพิร์ลคอมบุฉะ บัตเตอร์มิลค์ และแน่นอนว่ามีเนื้อไข่มุกเคี้ยวหนึบซ่อนอยู่
ตามด้วยของหวานหน้าตาเก๋ไก๋ Binchoton แปลว่าถ่านไม้ในภาษาญี่ปุ่น ซึ่งหน้าตาขนมก็ละม้ายคล้านถ่านจริงๆ เชฟรังสรรค์ขึ้นจากมูสช็อกโกแลตนม 43% สอดไส้ไอศกรีมซิตรัสรสเปรี้ยวสดชื่น ผสานรสลุ่มลึกขมนิดๆ ของเจลวิสกี้ญี่ปุ่น ของหวานจานนี้ล้อไปกับเมนคอร์สก่อนหน้าโดยสื่อว่าเป็นถ่านที่ใช้ในการย่างเนื้อนั่นเอง
แพร์ริ่งกับ Yuzu Koffucha หรือคอมบุฉะที่มีเบสจากกาแฟแบรนด์ดัง % Arabica Coffee ผสมผสานด้วยบราวน์ ชูการ์ น้ำส้มยูสุ และน้ำแอปเปิลแกรนนีสมิธ ออกมาเป็นรสชาติที่ลึกล้ำผสานรสขมและรสเปรี้ยวสดชื่นอย่างลงตัว ปิดท้ายด้วย Okashi หรือชุดของหวาน Petit Fours สไตล์ฝรั่งเศสกลิ่นอายญี่ปุ่น อาทิ มาเดลีนส้มยูสุ และช็อกโกแลตมัตฉะ
เป็นอันจบคอร์สที่เหมือนพาเราเดินเล่นลิ้มรสความอร่อยที่มาพร้อมกับฤดูใบไม้ผลิ เป็นอีกมื้อที่น่าประทับใจจนอยากชวนให้มาลิ้มรสฝีมือเชฟเจอร์ราดกันด้วยตัวเองกับ Spring Guestronomic Journey ซึ่งมีให้เลือก 3 คอร์สเมนูด้วยกัน
- Ku-Ki จำนวน 5 คอร์ส ราคา 3,800++
- Chikyu จำนวน 7 คอร์ส ราคา 4,600++
- Mizu จำนวน 9 คอร์ส 5,900++ บาท
ทุกคอร์สสามารถเพิ่มการแพร์ริ่งกับเครื่องดื่ม Home-Brewed Kombucha หรือแพร์ริ่งกับไวน์ซึ่งคัดสรรโดยซอมเมอลิเยร์ได้ โดยราคาการแพร์ริ่งเครื่องดื่มจะต่างกันตามคอร์สที่เลือก
ชั้น 25 โรงแรม ดิ โอกุระ เพรสทีจ กรุงเทพฯ 57 ถนนวิทยุ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ 10330
02 687 9000 (กรุณาจองล่วงหน้า 24 ชั่วโมง)
วันพุธ – วันอาทิตย์ เวลา 18.00 – 22.30น.
Tag:
มิชลินสตาร์, โรงแรม ดิ โอกุระ เพรสทีจ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น