ใครที่ชอบบรรยากาศกิน-ดื่มสไตล์ญี่ปุ่นตอนนี้ร้านซูม่า (Zuma) เขามีเมนูใหม่มาให้ลอง เสิร์ฟเมนูสไตล์ “อิซากายะ” เป็นการรับประทานอาหารแบบง่ายๆ ไม่ทางการ อาหารมีความหลากหลายทั้งซูชิ ซาชิมิ และเมนูปิ้งย่าง จึงเหมาะกับการกินคู่กับเครื่องดื่ม
ซูม่านี้เป็นร้านดังที่มีสาขาทั่วโลกโดยเริ่มจาก เรนเนอร์ เบคเคอร์ (Rainer Becker) และ อาจุน วานี (Arjun Waney) เปิดสาขาแรกที่ไนท์สบริดจ์ ลอนดอน เมื่อปี 2545 และประสบความสำเร็จอย่างมากจนขยายสาขาไปเมืองต่างๆ ทั่วโลก เช่น ฮ่องกง ดูไบ อิสตันบูล ไมอามี คาบสมุทรดาซ่า อาบูดาบี นิวยอร์ก โรม ลาสเวกัส บอสตัน โดยซูม่า กรุงเทพฯ เปิดบริการเมื่อปี 2554
เชฟเรนเนอร์ได้รับแรงบันดาลใจจากการได้ทำงานในประเทศญี่ปุ่น และได้นำปรัชญาการทำอาหารสมัยใหม่มาใช้กับอาหารสไตล์อิซากายะ เมนูอาหารของซูม่าจึงมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวและไม่ถูกจัดว่าเป็นอาหารญี่ปุ่นแบบต้นตำรับ แบ่งครัวเป็นสามส่วน คือ ครัวหลักที่ปรุงเมนูอาหารญี่ปุ่นร่วมสมัย ซูชิบาร์ที่ดูแลโดยเชฟซูชิโดยเฉพาะ และเตาโรบาตะ ซึ่งเป็นการปรุงอาหารปิ้งย่างจากถ่านไม้ มาจากวิธีการทำครัวของชาวประมงในภาคเหนือของประเทศญี่ปุ่น
ร้านซูม่าสาขากรุงเทพฯ เปิดมาครบ 10 ปีแล้ว มีทั้งเมนูใหม่และเมนูดั้งเดิมที่ยังเป็นที่นิยมอยู่ เราเริ่มต้นมื้อด้วยเมนูเบาๆ อย่างสลัดและปลาดิบกันก่อน จานที่เราชอบคือ Salmon and tuna tartare with rice crackers (680 บาท) ทาร์ทาร์ปลาทูน่าและปลาแซลมอนสับมาเนื้อละเอียด ปรุงรสกลมกล่อมเค็มและมีกลิ่นหอมกินกับแครกเกอร์ข้าวกรอบๆ
Thinly sliced sea bass with yuzu, truffle oil and salmon roe (390 บาท) ปลากะพงขาวแล่บางๆ เนื้อนุ่มนวลของปลาดิบเข้ากับกลิ่นสดชื่นของซอสยูซุ และเพิ่มความหอมยิ่งขึ้นด้วยน้ำมันเห็ดทรัฟเฟิล
Sashimi salad with Japanese plum and wafu dressing (480 บาท) เนื้อปลาซาชิมิแล่บางม้วนกับผักสลัดมิซูน่าสดกรอบ ราดซอสวาฟูรสเค็มเปรี้ยว
Zuma salad with seasonal vegetables and barley miso dressing (320 บาท) สลัดซูม่าผักรวมคลุกน้ำสลัดมิโซะและข้าวบาร์เลย์
chef's selection of sashimi ปลาดิบรวมคัดสรรโดยเชฟวางบนน้ำแข็งมาอย่างสวยงาม
ส่วนจานที่เข้ากับเครื่องดื่มเย็นๆ ได้ดีคือ Crispy fried squid with green chilli and lime (340 บาท) ปลาหมึกหั่นชิ้นพอคำคลุกแป้งแล้วทอดกรอบ ตัดเลี่ยนด้วยด้วยพริกสดสไลด์บางเสิร์ฟพร้อมมะนาว บีบแล้วให้กลิ่นหอมสดชื่น
black cod and prawn gyoza with spicy ponzu sauce (450 บาท) เกี๊ยวซ่าไส้ปลาค้อดดำและกุ้ง
มาถึงเมนูย่างที่มีเมนูดังขึ้นชื่อของซูม่าทั่วโลกอย่าง Miso marinated black cod wrapped in hoba leaf (1,520 บาท) ปลาค้อดดำเนื้อนุ่มหมักกับมิโซะรสหวาน ย่างบนเตาถ่านโรบาตะจนมีกลิ่นหอมเสิร์ฟบนใบโฮบะหรือใบสักทองที่มีกลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์
Grilled tofu with spicy miso and mushroom tentsuyu sauce (390 บาท) เต้าหู้รมควันนำมาย่างราดด้วยมิโซะรสเผ็ดและซอสเท็นซุยุ
จานที่โชว์ความอร่อยจากเตาย่างโรบาตะได้ดีคือ Spicy beef tenderloin, sesame, red chilli and sweet soy (1,340 บาท) เนื้อสันในย่างนุ่มๆ หอมกลิ่นเตาถ่านราดซอสรสเผ็ดหวาน และโรยด้วยต้นหอม
Spiced lamb chops with hatcho miso tofu (620 บาท) ซี่โครงแกะหมักซอสมิโซะแดงรสเข้มข้นเสิร์ฟพร้อมซอสเต้าหู้ กินแล้วเข้ากัน
นอกจากนี้ซูม่ายังมีเครื่องดื่มมากมายไว้บริการคู่กับอาหาร และยังเป็นร้านอาหารแห่งแรกที่มี “สาเกซอมเมลิเยร์” ไว้คอยแนะนำสาเกให้เข้ากับอาหารอีกด้วย สาเกเด่นๆ ได้แก่ สาเก บิวะ โน โชจู ของทางร้านที่ทำขึ้นเพื่อเครือร้านอาหารซูม่าโดยเฉพาะ โดยใช้น้ำจากทะเลสาบบิวะในจังหวัดชิกะ ประเทศญี่ปุ่น โดยทะเลสาบบิวะนี้เป็นแหล่งน้ำแร่ธรรมชาติที่ขึ้นชื่อของญี่ปุ่นจากการสนับสนุนของโชกุน โทคุกาวะ โยชิโร ในสมัยศตวรรษที่ 15 ซึ่งเป็นผู้ออกกฎระเบียบว่าด้วยการทำอาหารสไตล์ญี่ปุ่น และพิธีชงชาที่ยังคงใช้สืบต่อกันมาถึงปัจจุบัน
ซูม่ายังมีอีกหลายเมนูให้ลิ้มลอง เลิกงานแล้วรีบไปจับจองที่ได้
เปิดบริการ :
- มื้อเที่ยง จันทร์-เสาร์ 11:30 – 15:00
- มื้อเย็น จันทร์-อาทิตย์ 18:00 – 23:00
- บรันช์ ทุกวันอาทิตย์ 11:00 – 15:00
- บาร์ จันทร์-อาทิตย์ 11:30 – 23:00
Zuma เดอะ เซนต์ รีจิส กรุงเทพฯ BTS ราชดำริ
อีเมล์ : reservations@zumarestaurant.co.th
ไลน์ : @zumabangkok
Tag:
อาหารญี่ปุ่น, อิซากายะ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น