ก่อนอื่น G&C ขอแสดงความยินดีกับร้าน Khao สาขาเอกมัย ที่รักษาดาวมิชลินไว้ได้ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 จากการประกาศผลรางวัลมิชลิน สตาร์ปี 2021 ซึ่งหลายคนอาจยังไม่รู้ว่าทางร้านได้เปิดสาขาที่ 2 แล้วด้วย กับร้าน Khao สาขาเพลินจิต ที่ Piya Place ซอยต้นสน (ที่ตั้งร้าน Gianni เก่า) ซึ่งให้บริการเมนูอาหารไทยไฟน์ไดนิ่งเช่นเดียวกับร้าน Khao สาขาเอกมัย โดยรักษามาตรฐานรสชาติไว้อย่างเคร่งครัด และในโอกาสที่เปิดสาขาใหม่ คุณตุ่น – ประดินันท์ อัครชิโนเรส เจ้าของร้านคนสวยจึงได้คิดเทสติ้งเมนูพิเศษเพิ่มขึ้นมาสำหรับให้บริการที่สาขานี้โดยเฉพาะ ด้วยความที่ปกติแล้วทางร้านจะเสิร์ฟเฉพาะเมนู Chef’s Table และ อะ ลา คาร์ต เท่านั้น ทำให้แขกที่มาเป็นกลุ่มเล็กๆ ไม่สามารถลิ้มลองเมนูแนะนำได้หมด “Khao Tasting Menu” จึงถูกออกแบบมาเพื่อให้ผู้มาเยือนได้ลิ้มรสเมนูขึ้นชื่อของทางร้านได้อย่างครบครันนั่นเอง
ร้านKhao (ข้าว) สาขาเพลินจิต
Khao Tasting Menu มีทั้งหมด 4 ชุด เริ่มตั้งแต่ชุดเล็ก 11 เมนู ราคาต่อท่าน 950 บาท ชุด 13 เมนู ราคา 1,350 บาท ชุด 15 เมนู ราคา 1,700 บาท ไปจนถึงชุดใหญ่ 17 เมนู ในราคา 2,300 บาท แต่ละชุดมีเมนูที่ต่างกันเล็กน้อย ทว่าทุกเมนูที่เลือกสรรมาบรรจุในเทสติ้งเมนูล้วนเป็นจานโปรดยอดนิยมของทางร้านที่คุณตุ่นรับประกันว่าไม่ควรพลาด
คุณตุ่น และเชฟสันติ Head Chef ประจำร้านสาขาเพลินจิต
อาทิ จานเรียกน้ำย่อย ขนมจีบไทยไส้ไก่ ปั้นสิบปลา และช่อม่วงไส้หมู ที่ห่ออย่างปราณีต ไส้เป็นเนื้อสัตว์ที่แตกต่างกันทั้งสามอย่าง หมี่กรอบ เส้นหมี่บางกรอบทอดจนเป็นสีเหลืองทองคลุกเคล้าเครื่องสูตรโบราณขนานแท้ ใส่น้ำส้มซ่าและผิวส้มซ่าเพิ่มกลิ่นหอมชวนกิน ทอดมันหินแกรนิต ทอดมันกุ้งสีดำเพราะผสมดีหมึกให้รสเข้มข้น ด้านในมีเนื้อหมึกหั่นเต๋าเพิ่มสัมผัสเคี้ยวสนุก ยำส้มโอกุ้ง เลือกใช้เนื้อส้มโอขาวน้ำผึ้งคัดพิเศษยำกับหัวกะทิได้ความมัน ท็อปด้วยกุ้งตัวโต และยำเนื้อย่างองุ่นแดงไร้เมล็ด มาจากแนวคิดว่าหากเนื้อเสต็กเข้ากับไวน์ ยำเนื้อก็น่าจะเข้ากับรสชาติขององุ่นแดงเช่นกัน น้ำยำรสเบาๆ ใส่ใบสะระแหน่เพิ่มกลิ่นหอมสดชื่นให้กับจานนี้ยิ่งขึ้นไปอีก
เมนูแกงมีให้เลือกหลายเมนู เราแนะนำ แกงส้มกุ้งแม่น้ำ เนื้อกุ้งแม่น้ำสดหวานและมันกลมกล่อมเข้ากับแกงส้มครบรส จากนั้นเข้าสู่สำรับจานหลัก อาทิ แกงปูใบชะพลู แกงรสเข้มข้นใส่เนื้อปูชิ้นใหญ่เต็มคำ มัสมั่นเนื้อน่องแกะ ที่เคี่ยวจนเนื้อแกะเปื่อยนุ่มเคี้ยวง่าย
ตามด้วย น้ำพริกไข่ปู ตัดรสชาติให้มีสีสัน เสิร์ฟพร้อมผักเคียงชุดใหญ่สลักเสลามาอย่างปราณีต ปลาหมึกทอดกระเทียม เนื้อนุ่มหนึบ และผักกาดตุ๋นเห็ดหอม ได้รสหวานจากผักที่ตุ๋นเป็นเวลานาน ผัดพริกขิงปลาดุกฟู เพิ่มสัมผัสเคี้ยวกรอบ เสิร์ฟกับข้าวพันธุ์พื้นเมืองปลอดสารจากบุรีรัมย์ ซึ่งเลือกได้ระหว่างข้าวขาว และข้าวแดง และน้ำปลาพริก
ปิดท้ายด้วยเซ็ตของหวานไทยทั้งแบบดั้งเดิมและแบบประยุกต์ อาทิ ข้าวฟ่างเปียกลำไย ข้าวฟ่างต้มในน้ำมะพร้าวอ่อนรสนุ่มนวลหอมมันกะทิ ลำไยที่นี่คว้านสด หยอดด้วยวุ้นหลากสีตรงกลางเพิ่มสัมผัสกรอบหยุ่นเวลาเคี้ยว หยกมณีสตรอว์เบอร์รี่ ของหวานโบราณอย่างหยกมณีเพิ่มรสชาติแบบร่วมสมัยด้วยสตรอว์เบอร์รีสดชิ้นโต และสังขยาน้ำตาลไหม้เสิร์ฟคู่หวานเย็นส้ม สังขยารสละมุนหอมน้ำตาลมะพร้าว จับคู่กับหวานเย็นส้มรสเปรี้ยวชวนชื่นใจ
ร้าน Khao สาขาเพลินจิต ให้บริการเมนูอาหารอื่นๆ ตามปกติด้วย ดังนั้นหากต้องการประสบการณ์ที่ดีที่สุดในการลิ้มรสเทสติ้งเมนูทั้ง 4 ชุดแล้วล่ะก็ เราแนะนำให้ทำการสำรองที่นั่งพร้อมทั้งแจ้งทางร้านว่าต้องการสั่ง Khao Tasting Menu ไว้ล่วงหน้า เพื่อความสะดวกและรวดเร็วในการบริการนั่นเอง
Piya Place 31/1 ซอยต้นสน ถนนเพลินจิต
12.00 – 14.00น. และ 18.00-22.00น.
Tag:
, มิชลินสตาร์, อาหารไทย, เพลินจิต,
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น