Front Room ฟร้อนท์ รูม ร้านอาหารบรรยากาศดีตั้งอยู่บริเวณด้านหน้าของโรงแรมวอลดอร์ฟ แอสโทเรีย กรุงเทพ ปรับเมนูจากนอร์ดิค-ไทย มาเป็นอาหารไทยรสมือแม่ให้เราได้ตามไปกินได้บ่อยขึ้น
คอนเซ็ปต์ใหม่ของฟร้อนท์ รูม นำเสน่ห์ของอาหารไทยผ่านการปรุงที่ใส่ใจ ปราณีตในแบบรสมือแม่ โดยได้อาจารย์หนิง-ดร. นิพัทธ์ชนก, เชฟแอน-ศุภณัฐ และเชฟบัว-สโรชา ร่วมมือกันออกแบบเมนูที่ดึง 8 รสชาติของอาหารไทย ได้แก่ เผ็ด เปรี้ยว หวาน เค็ม ขม มัน ปร่า(ฝาด) และจืด มารวมกันได้อย่างลงตัว
เริ่มจากเมนูกินเล่นอย่าง ข้าวเกรียบกุยช่าย ของกินเล่นที่เสิร์ฟให้ทุกโต๊ะ ที่ใช้กุยช่ายปั่นเป็นน้ำสีเขียวเข้มใส่แป้งและทำให้เป็นแผ่นบาง ทอดกรอบ จิ้มกับน้ำจิ้มซีอิ๊วดำ ได้รสอร่อยเหมือนกินขนมกุยช่ายเลย
กุ้งแพพริกแกงกับอาจาด (280 บาท) อาหารเรียกน้ำย่อยที่ใช้กุ้งตัวเล็กกินได้ทั้งเปลือก ใส่แป้งทอดกรอบที่ผสมน้ำพริกแกง ทอดเป็นแพบาง มีกลิ่นหอม กรอบ รสออกเค็มและเผ็ดนิดๆ
พล่าไหลบัว (280 บาท) ไหลบัวก้านสีขาวนวล เคล้ากับเครื่องพล่าที่ใส่ทั้งสมุนไพรของไทย ส้มโอและปาท่องโก๋ตัวเล็ก เคี้ยวแล้วได้ทั้งความกรอบและสดชื่นเข้ากัน เป็นอีกเมนู Plant Based ที่อร่อยโดยไม่ต้องกินเนื้อสัตว์เลย
เสือร้องไห้ (740 บาท) เนื้อวัววากิวหมัก ย่างด้วยถ่านจนมีกลิ่นหอมและเนื้อนุ่ม สไลด์เป็นชิ้นบางกำลังดี โรยข้าวคั่วและพริกป่นให้มีรสแซ่บ เสิร์ฟกับน้ำจิ้มแจ่วและผักดองที่เชฟทำเอง
หมูทอดมะแขว่น (400 บาท) ใช้คอหมูดำคุโรบุตะหมักกับมะแขว่นหรือพริกไทยหอมของทางภาคเหนือ นำไปทอดจนผิวนอกกรอบ เนื้อในนุ่ม เสิร์ฟกับซอสพริกทำเอง เป็นอีกจานที่ทำได้อร่อยและกินได้ทั้งครอบครัว
ซอร์เบต์ส้มซ่า (120 บาท) ซอร์เบต์ทำจากน้ำส้มซ่า ให้รสเปรี้ยวหวานปนขมนิดๆ โรยผิวส้มซ่าซอย ขิงซอย และหอมเจียว กินแล้วหอมชื่นใจ
มะพร้าวชีสเค้ก (280 บาท) ชีสเค้กเสิร์ฟมาในกะลามะพร้าวอ่อน มีกลิ่นหอมของมะพร้าว แต่งหน้าด้วยเจลลี่มะพร้าวอ่อนและไวท์ช็อกโกแลตมูส รสเข้มข้น หวานมัน
เป็นเมนูอร่อยที่มากินได้ทุกวัน
โรงแรมวอลดอร์ฟ แอสโทเรีย กรุงเทพ 151 ถนนราชดำริ ลุมพินี ปทุมวัน กรุงเทพฯ 10330
วันอังคาร-วันเสาร์ 11.30-14.00 น. และ 17.30-21.30 น.
Tag:
, ราชดำริ, อาหารไทย,
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น