บทเพลงไทยยุค 90 ดังคลอมาเข้ากับบรรยากาศภายในร้าน Ohh คุณพระ ผสมผสานไปกับทั้งกลิ่นอายของตึกแถวโบราณบนถนนมหาราช ย่านท่าเตียน และงานดอกไม้ประดิษฐ์ที่แทรกซึมอยู่ในทุกอณู บริเวณชั้น 1 ของร้านนั้นเปิดโล่งรับลมสบาย ๆ โดยมีฉากด้านหน้าเป็นวัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร และผู้คนเดินผ่านไปมาตลอดทั้งวันไม่มีเงียบเหงา หากได้น้ำสมุนไพรไทยเย็น ๆ อย่างกระเจี๊ยบหรือน้ำอัญชันมะนาวมาจิบสักแก้วเพื่อคลายร้อนก็คงจะเข้ากับบรรยากาศไม่น้อย
Ohh คุณพระ เกิดขึ้นจากความรักและไม่อยากให้อาหารไทยโบราณสูญหายไปตามกาลเวลาของคุณจ้า-ชัชวาลย์ วรวิทย์สัตถญาณ ผู้เริ่มต้นจากการทำอาหารให้ครอบครัวสู่การทำอาหารจัดเลี้ยง จนมีชื่อเสียงที่ใครต่อใครต่างบอกต่อ สุดท้ายจึงเกิดเป็นร้านอาหารไทยน้องใหม่ ที่ชูจุดเด่นด้วยสูตรอาหารแสนหวงแหนจากวังต่าง ๆ ทั่วกรุงเทพมหานคร
ประเดิมด้วยของว่างไทยโบราณเมนูแรก กระทงทอง ที่บรรจงรังสรรค์ตั้งแต่การทอดกระทงให้กรอบนาน แต่ยังแฝงความนุ่มนวล ไม่อมน้ำมัน ส่วนไส้นั้นประกอบไปด้วยไก่และกุ้งมีรสชาติเข้มข้น
หมี่กรอบทรงเครื่อง รสชาติหวานอมเปรี้ยวจากน้ำส้มซ่าและกระเทียมดอง ได้สัมผัสเหนียวแต่ไม่แข็งเหมือนหมี่กรอบทั่วไปเพราะใช้เวลาเคี่ยวน้ำตาลกว่า 5 ชั่วโมง
นอกจากบรรดาอาหารจานเดียวแล้วยังมีสำรับอาหารที่แบ่งเป็นสำรับด้วย เหมาะมาก ๆ สำหรับใครที่อยากลิ้มลองอาหารหลาย ๆ เมนูในคราวเดียว เริ่มต้นที่ สำรับกรุงเทพ ประกอบไปด้วย แกงรัญจวน กระดูกหมูแก้ว กลิ่นหอมรัญจวนสมชื่อ ปูจ๋าในกระดองปูเล็ก แกงมัสมั่นสันคอหมูย่าง เพิ่มความพิเศษโดยการใช้เม็ดบัวแทนถั่วให้รสชาติมันกว่าแถมเนื้อไม่เละ เพิ่มมันเทศไข่ ผักดอง กับไข่เค็มมาเสริมรสชาติให้เข้มข้นกลมกล่อมมากยิ่งขึ้น และแสร้งว่ากุ้งนาง ครบเครื่องสมุนไพร กินพร้อมกับปลาดุกฟูและผักสด
อีกสำรับหนึ่งเป็นอาหารใต้รสชาติเผ็ดร้อน ได้แก่ คั่วกลิ้งสมุนไพรไก่ มีกลิ่นหอมต่างจากคั่วกลิ้งที่เคยลิ้มรสด้วยข่าและพริกแกงทำเอง น้ำพริกไตปลาพริกสด ก็แสนเข้มข้นทั้งเนื้อสัมผัสและรสชาติ ส่วนแกงเหลืองสับปะรดกุ้งสด ก็กินง่ายไม่เผ็ดจนเกินไปแถมยังได้รสชาติเปรี้ยวนิด ๆ จากสับปะรดเข้ากันได้ดีกับเครื่องพริกแกง จากนั้นมาตัดความเผ็ดด้วย หมูหวานน้ำตาลสด ชวนประทับใจทั้งความนุ่มของเนื้อหมูในน้ำหวานขลุกขลิก เหมาะจะจับคู่กินกับน้ำพริกหรือกินกับข้าวสวยร้อน ๆ สักจาน
จบมื้ออาหารนี้ด้วยของหวานไทยโบราณอย่างแรก ส้มฉุน หรือที่เรียกง่าย ๆ ว่าลิ้นจี่ลอยแก้ว ซึ่งความไม่ธรรมดานั้นอยู่ที่เครื่องเคียงซึ่งฟังดูแล้วไม่เข้ากันอย่าง ขิงซอย หอมเจียว น้ำส้มซ่า ถั่วลิสง และมะม่วงเปรี้ยว แต่รสชาตินั้นกลับกลมกลืนกันดีอย่างน่าประหลาด อีกหนึ่งเมนูของหวานของร้านที่พลาดไม่ได้คือ มะกรูดลอยแก้ว รสชาติหวานอมเปรี้ยวแต่ไม่ขมด้วยกรรมวิธีการเตรียมมะกรูดสุดพิถีพิถัน เพิ่มความสดชื่นได้เป็นอย่างดี
โชคดีมากที่คนรุ่นใหม่ยังมีโอกาสได้ลิ้มลองอาหารไทยสูตรโบราณขนานแท้
312-314 ถนนมหาราช แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร
Tag:
, พระนคร, อาหารไทย,
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น