ไม่ว่าจะอยู่สีลมหรือสุขุมวิท ร้าน 100 มหาเศรษฐ์สาขาสี่พระยาหรือเอกมัยก็ได้บรรยากาศเหมือนกัน แน่นอนว่าจะได้ชิมอาหารอีสานรสชาติปราณีต ปรุงด้วยวิธีการทันสมัย และเสิร์ฟแบบไฟไดน์นิ่ง ในคอนเซ๊ป “ Nose to tail “ ที่ไม่ทำให้ผิดหวัง บรรยากาศภายในร้านจัดตกแต่งด้วยผ้าและเครื่องจักสานให้ความรู้สึกเหมือนอีสานบ้านเฮา
เชฟชาลี การ์เดอร์ ผู้ปลุกปั้นร้านและแนวคิดบอกว่าวัตถุดิบในร้านยังใช้ของท้องถิ่นที่หาได้ในประเทศ ใช้เนื้อสัตว์ทุกส่วนตั้งแต่ลิ้น หัวใจ ตับ ไส้ มาปรุง และดัดแปลงของทุกอย่างมาใช้ให้เป็นประโยชน์ทิ้งให้น้อยที่สุด ซึ่งนับว่าท้าทายมาก เชฟบอกว่าสาขานี้จะเน้นเครื่องดื่มที่เป็นธรรมชาติมากขึ้น เช่น Natural Wine ไวน์ที่ไม่ใช้สารบ่ม สาโท รัม จากภูมิปัญญาไทยของบ้านเราเอง ที่น่าสนใจ คือ New Moon สาโทที่ผลิตจากข้าวออร์แกนิกสัญชาติไทย ร้านนี้จึงนั่งดื่มได้ชิวๆ กว่าที่สี่พระยา
ส่วนอาหารก็แหมือนที่ร้านสี่พระยา จานซึ่งกลายเป็นซิกเนเจอร์ไปแล้วคือ Bone Morrow หรือไขกระดูกงาขี้ม่อน ยังเป็นจานนิยมที่ไม่เปลี่ยนแปลง จานต่อมา ปีกไก่ยัดไส้ข้าวแหนม นำข้าวออร์แกนิกที่เหลือจากหมักแนมมายัดไส้ปีกไก่แล้วย่างให้กรอบ เหมือนกินไส้กรอกอีสานรสเปรี้ยวๆ ไก่ย่างส้มตำ ซึ่งเชฟบอกว่ามะละกอไม่จำเป็นต้องมาเป็นเส้นก็น่าจะได้จึงหั่นเป็นแผ่นกลมบาง แล้วไปทำให้มะละกอได้รสส้มตำปลาร้า เสิร์ฟคู่กับไก่ย่าง เป็นการกินไก่ย่างส้มตำในประสบการ์ใหม่ที่จัดอย่างปราณีตมาก
ที่ไม่ควรพลาดคือ ยำสับปะรดหอยแครง สับปะรดภูแลรสหวานฉ่ำผ่านเครื่อง vaccum ให้รสปลาร้าซึมเข้าเนื้อ กินกับหอยแครงลวกสุก เหมือนกินตำสับปะรดหอยแครง รสชาตินุ่มอร่อยแต่ยังคงความเป็นอีสาน จัดมาอย่าสวยงาม กินได้อย่างสบายใจ ยิ่งกินยิ่งอร่อย
ลิ้นวัว Dry Aged นำลิ้นตัดโคนตัดปลายออกไปทำอย่างอื่น เนื้อส่วนลิ้นตุ๋นแล้วเอจให้เนื้อนุ่มลง เนื้อนุ่ม หอม จัดเสิร์ฟมาเป็นชิ้นบาง ถ้ายังไม่ได้ชิมอาจจะนึกไม่ออกว่าจะอร่อย อีกจานคือ เนื้อสันในย่างเสิร์ฟกับแกงขี้เหล็ก เนื้อเทนเดอร์ลอยจากวัวที่เลี้ยงในบ้านเราย่างด้วยถ่านไม้ลำไยซึ่งมีกลิ่นหอมที่เป็นเอกลักษณ์ เนื้อนุ่มแต่มีเนื้อสัมผัสให้คี้ยว ราดซอสแกงขี้เหล็กสูตรอีสานที่ปั่นหนังวัวรวมไปด้วย
สำหรับคนชอบเนื้อชอบอาหารอีสานในรสนุ่มนวล แต่ยังเป็นอีสานอยู่ บอกได้เลยว่าไม่ควรพลาด
16/5 ซอยเอกมัย 21 (ซอยแจ่มจันทร์ )
Tag:
, อาหารไทย, ไฟน์ ไดน์นิ่ง,
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น