Na café คาเฟ่ในคฤหาสถ์สไตล์ยุโรป ซึ่งเคยเป็นที่พำนักของเจ้าพระยาธรรมศักดิ์มนตรี ที่มีอายุ 120 ปีผ่านไปหมาดๆ ตึกเก่าในย่านเก่าบนถนนนครสวรรค์ บรรยากาศร่มรื่น หลังตึกปลูกสวนครัวเล็กๆ ชวนให้แวะไปเดินเล่น ชิมกาแฟ และหลายคนอาจจะไม่รู้ว่ายังมีอาหารไทยในรสชาติดั้งเดิมให้ชิมอีกด้วย
ปัจจุบันตึกนี้แปรเปลี่ยนเป็นศูนย์เรียนรู้ทางศิลปวัฒนธรรม และเป็นที่พักของศิลปิน คาเฟ่แห่งนี้ก็มีเป้าหมายร่วมกันเพราะอยากให้คาเฟ่นี้เป็นสถานที่แลกเปลี่ยนวัฒนธรรมอาหาร จึงมีอาหารต่างชาติหมุนเวียนกันไปในรูปแบบต่างๆ เช่น มีอาหารเปรูจากเชฟเปรูที่แวะเวียนมาและได้ปรุงอาหารเปรูให้คนไทยได้ชิม ทางคาเฟ่ยังได้ทำงานกับองค์กรผู้ลี้ภัย จึงได้จัดอาหารจากผู้ลี้ภัยโดยเชิญผู้ลี้ภัยจากประเทศต่างๆ มาปรุงอาหาร เช่น อาหารโซมาเลีย อาหารปากีสถาน อาหารอาฟกานิสถาน เป็นต้น เพื่อให้คนไทยรู้จักผู้คนเหล่านี้โดยผ่านอาหาร
นอกจากนี้ยังมีอาหารไทยจากแต่ละภูมิภาค อาหารเพื่อนบ้าน ที่ใครสนใจอยากจะแลกเปลี่ยนและเรียนรู้ทางคาเฟ่ก็ยินดี ส่วนอาหารไทยที่มีประจำคืออาหารไทยรสชาติดั้งเดิมหรืออาหารโบราณ โบราณตามที่คุณทวด คุณย่า คุณยาย ได้จดบันทึกไว้ในตำราอาหารเก่า ซึ่งเชฟหนุ่มธัชพงศ์ ก้อนทอง เป็นผู้แกะรอยหารสชาติ เชฟบอกว่าตนเองสนใจเป็นพิเศษว่าอาหารโบราณนั้นรสชาติเป็นอย่างไร และได้ฝึกปรือกับรุ่นพี่หลายคนที่สนใจทำอาหารตามตำรับนี้ก่อนมาทำที่ Na Café ซึ่งก็สอดคล้องไปกับแนวคิดของผู้จัดการร้านที่อยากสร้างย่านเก่าบนถนนนครสวรรค์ให้กลับมาคึกคักเหมือนในอดีต
อาหารไทยของที่นี่ เช่น เมี่ยงไหลบัว ที่นำผักสวนครัวซึ่งปลูกไว้หลังบ้าน เช่น สับปะรด ไหลบัว ตะลิงปลิง หรือผลไม้รสเปรี้ยวตามฤดูกาลมาทำเป็นเมี่ยง ราดด้วยน้ำเมี่ยงที่ทำจากน้ำตาลโตนดกับกะปิเคี่ยวรวมกัน
ขนมจีนรักษา อาหารมังสวิรัติที่มีเส้นขนมจีนกับผัก สมนุนไพรต่างๆ นำมาซอย เช่น ข่าอ่อน มะม่วงเปรี้ยว แตงกวา มันแกว ถั่วพู และผสมกะทิกับน้ำพริกเผา น้ำปลา น้ำตาล ปรุงรสราดและคลุกให้เข้ากันก่อนรับประทาน จัดเป็นอาหารสุขภาพทั้งในยุคโน้นและยุคนี้ แกงเผ็ดคอหมูย่างสับปะรดกับกล้วยดิบ คนโบราณชอบนำกล้วยดิบมาทำแกงรสชาติจะมันๆ เหมือนมันเทศ แต่เชฟเลือกใช้กล้วยไข่ห่ามเพือ่ให้มีรสหวานธรรมชาติ และมีรสเปรี้ยวๆ หวานๆ จากสับปะรด แกงเผ็ดที่รสเปรี้ยวหวานกลมกล่อม
ฉู่ฉี่เมืองปราณ เมนูนี้นำมาจากหนังสือตำรับสายเยาวภาของพระองค์เจ้าเยาวภาสนิทวงศ์ พิมพ์ในปี 2478 เชฟบอกว่าแปลกดีเพราะฉู่ฉี่มักจะนึกถึงปลาทูกับกะทิ แต่เมนูนี้เป็นปลาหมึกอาจจะเป็นเพราะมาจากเมืองปราณที่มีปลาหมึกมาก ผัดกับพริกชี้ฟ้า กระเทียม หอมแดง ตำรวมกัน และปรุงรสด้วยน้ำส้มสายชู น้ำตาล น้ำปลา ผัดขลุกขลิก รสไม่เผ็ด แต่เปรี้ยว หวานกำลังอร่อย กินกับข้าวหมดออย่างไม่รู้ตัว
นอกจากนี้ยังมีเมนูอื่นๆ เช่น ยำ 3 ชี ยำผลไม้ตามฤดูกาล ปีกไก่ทอดซอสน้ำปลา เรียกได้ว่าไม่ผิดหวังแน่ หรือแม้แต่ไปจิบกาแฟในบ้านหลังงามที่พาเราย้อนกลับในอดีตกว่า 100 ปีนี้ ก็อิ่มเอมใจ
134 ถนนนครสวรรค์ แขวงวัดโสมนัส เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย (บ้านเจ้าพระยาธรรมศักดิ์มนตรี)
Tag:
, คาเฟ่, อาหารไทย,
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น