6 สูตรคัพเค้กน่ารักจากป้าเจี๊ยบ ทำง่าย อร่อยแบบเต็มคำ

วันที่ 12 ธันวาคม 2562  33,026 Views

ใกล้จะปีใหม่แล้วเพื่อนๆ ที่ยังไม่รู้จะทำขนมอะไรไว้แจกหรือจัดเลี้ยงลองทำคัปเค้กของป้าเจี๊ยบที่ลงใน G&C คัดเลือกมาให้ลองทำกัน 6 เมนู มีทั้งที่ใส่ผัก ผลไม้ และถั่ว   

★ 1. คัปเค้กแฟนซี (Fancy Cupcake) 

คัปเค้กแฟนซี (Fancy Cupcake)

คัปเค้กสูตรนี้จะตกแต่งด้วยลูกกวาดเม็ดเล็กๆ สีต่างๆ เจลลีบีน มาร์ชแมลโลว์ ถั่วเคลือบช็อกโกแลต

ส่วนผสม

  • แป้งสาลีอเนกประสงค์ 1 3/4 ถ้วย
  • ผงฟู 2 1/2 ช้อนชา
  • เกลือ 1/2 ช้อนชา
  • เนยสด 1/2 ถ้วย
  • น้ำตาลทราย 2/3 ถ้วย
  • ไข่ไก่ 1 ฟองใหญ่
  • นมข้นจืด 3/4 ถ้วย
  • ไข่ขาว 1 ฟอง
  • แยมสตรอว์เบอร์รี 1/2 ถ้วยตวง
  • น้ำตาลทรายทำหน้าเค้ก 2 ช้อนโต๊ะ
  • ครีมออฟทาร์ทาร์ 1/2 ช้อนชา
  • เจลลีบีน ช็อกโกแลตมินต์ ถั่วเคลือบช็อกโกแลต มาร์ชแมลโลว์ สำหรับตกแต่งหน้า

วิธีทำ

  1. ผสมแป้งสาลี ผงฟู และเกลือลงในชามผสม ใช้ตะกร้อมือคนส่วนผสมให้เข้ากัน พักไว้
  2. ตีเนยสดกับน้ำตาลด้วยเครื่องตีไฟฟ้าโดยใช้ความเร็วหมายเลข 3 ให้ขึ้นฟูและน้ำตาลละลายหมด
  3. ใส่ไข่ ตีให้เข้ากัน ใส่ส่วนผสมแป้งสลับกับกับนมข้นจืด ตีต่อให้เข้ากัน
  4. ตักส่วนผสมใส่ถ้วยกระดาษประมาณ 2/3 ถ้วย นำเข้าอบที่อุณหภูมิ 350 องศาฟาเรนไฮต์ประมาณ 30 นาที ยกออกจากเตา พักไว้
  5. ทำหน้าเค้กโดยใส่ไข่ขาวในชามแก้วทนไฟ ตามด้วยแยมสตรอว์เบอร์รี น้ำตาล ครีมออฟทาร์ทาร์ ยกชามวางซ้อนบนหม้อต้มน้ำเดือด (อย่าให้น้ำสัมผัสก้นชาม) ใช้เครื่องตีไฟฟ้าตีส่วนผสมไปเรื่อยๆ ประมาณ 10 นาทีก็จะได้ครีมเนื้อเบาฟูสีชมพูจางๆ
  6. พอยกออกจากเตาแล้วตีต่ออีกประมาณ 2 นาที ตักแบ่งใส่ถ้วยเล็กๆ 7 ถ้วย ใส่สีผสมอาหาร 7 สี คนให้เข้ากัน
  7. ตักครีมใส่ตรงกลางหน้าคัปเค้ก ตกแต่งด้วยเจลลีบีน ช็อกโกแลตมินต์ ช็อกโกแลตไส้ถั่ว มาร์ชแมลโลว์

★ 2. เค้กบีตรูต (Beetroot Cake) 

เค้กบีตรูต (Beetroot Cake)

เค้กสูตรนี้มีเนื้อสัมผัสคล้ายเค้กแครอต เพราะใส่ทั้งบีตรูต เนื้อสับปะรด และยังตกแต่งด้วยบีตรูตหั่นเป็นเส้นเชื่อมเพิ่มความอร่อย

ส่วนผสม

  • บีตรูตหั่นเส้นสับหยาบ 1 ถ้วย
  • สับปะรดกระป๋องสับละเอียด 1/2 ถ้วย
  • แป้งสาลีอเนกประสงค์ 1 1/2 ถ้วย
  • ผงฟู 1 ช้อนชา
  • โซดาไบคาร์บอเนต 1 ช้อนชา
  • เกลือป่น 1/2 ช้อนชา
  • อบเชยป่น 1 ช้อนชา
  • น้ำตาลทราย 1 ถ้วย
  • ไข่ไก่ 2 ฟอง
  • น้ำมันดอกทานตะวัน 1/2 ถ้วย

ส่วนผสมหน้าเค้ก

  • บีตรูตหั่นเป็นเส้นยาวฝอยๆ 1/2 ถ้วย
  • น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำเปล่า 4 ช้อนโต๊ะ
  • ครีมชีสขนาด 250 กรัม
  • นมข้นหวาน 1/3 ถ้วย
  • น้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ

  1. ผสมแป้งสาลี ผงฟู โซดาไบคาร์บอเนต เกลือ และอบเชยป่น ใช้ตะกร้อมือคนให้เข้ากัน พักไว้
  2. ตีไข่กับน้ำตาลด้วยเครื่องตีไข่ไฟฟ้าความเร็วปานกลางจนขึ้นฟูและน้ำตาลละลายหมด ค่อยๆ ใส่น้ำมันดอกทานตะวันจนส่วนผสมข้น
  3. ใส่บีทรูตสับ สับปะรดสับ และส่วนผสมแป้ง ตีด้วยความเร็วต่ำสุดประมาณ 2-3 นาทีจนส่วนผสมเข้ากันดี
  4. ตักใส่ถ้วยสำหรับอบ นำเข้าเตาอบที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส หรือ 350 องศาฟาเรนไฮต์นาน 35-40 นาที พักไว้ให้เย็น
  5. ขณะอบเค้กมาทำบีตรูตเชื่อมโดยใส่บีตรูต น้ำตาล และน้ำในชามแก้ว นำเข้าเตาไมโครเวฟด้วยไฟแรง 3 นาที นำมากรองแยกน้ำสีแดงไว้
  6. ทำหน้าครีมโดยตีครีมชีสกับนมข้นหวานเข้ากันจนเนียน ใส่น้ำมะนาวและน้ำเชื่อมบีตรูต ตีให้เข้ากัน
  7. ตักครีมใส่บนหน้าคัปเค้ก ตกแต่งด้วยบีตรูตเชื่อม

★ 3. เค้กกำมะหยี่เขียว (Green Velvet Cake) 

เค้กกำมะหยี่เขียว (Green Velvet Cake)

สูตรนี้เนื้อเค้กเป็นเนื้อเค้กบัตเตอร์ มีกลิ่นหอมๆ จากเนยสด สีเขียวจากสีผสมอาหาร แต่งหน้าเค้กด้วยครีมชีสที่ตีกับเนยสด เพิ่มความหอมเปรี้ยวกลมกล่อม 

ส่วนผสม

  • แป้งสาลีอเนกประสงค์ 1 1/2 ถ้วย
  • ผงฟู 2 ช้อนชา
  • เนยสดรสเค็ม 1/2 ก้อน (112  กรัม)
  • น้ำตาลทราย 2/3 ถ้วย
  • ไข่ไก่ 2 ฟอง
  • นมข้นจืด 2/3 ถ้วย 
  • สีผสมอาหารสีเขียวประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ

ส่วนผสมหน้าเค้กครีมชีส

  • ครีมชีส 1 ก้อน (250 กรัม)
  • เนยสดรสเค็ม 2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาลไอซิง 1 3/4 ถ้วย
  • น้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ

  1. เตรียมชามแห้งโดยผสมแป้งสาลีและผงฟูเข้าด้วยกัน พักไว้
  2. ตีเนยสดกับน้ำตาลด้วยเครื่องตีไฟฟ้าโดยใช้ความเร็วปานกลางจนเป็นครีมค่อนข้างขาวและน้ำตาลละลายหมด
  3. ใส่ไข่ทีละฟอง ตีให้เข้ากันจนไข่หมด
  4. ลดความเร็วเครื่องเป็นต่ำสุด ใส่ส่วนผสมแป้งครึ่งหนึ่งสลับกับนมข้นจืดอีกครึ่งหนึ่ง ตีให้เข้ากัน
  5. ใส่ส่วนผสมแป้งที่เหลือและนมข้นจืดที่เหลือ ตีต่อให้เข้ากัน ใส่สีผสมอาหารสีเขียว ตีให้เข้ากัน
  6. ตักส่วนผสมใส่พิมพ์ถ้วยสำหรับอบ นำไปอบที่อุณหภูมิ 350 องศาฟาเรนไฮต์ (180 องศาเซลเซียส) หรือจนสุก
  7. ขณะอบเค้กเตรียมครีมชีสโดยตีครีมชีสและเนยสดด้วยความเร็วปานกลางจนเป็นครีม ใส่น้ำตาลไอซิงและน้ำมะนาว ตีต่อให้เป็นเนื้อเดียวกัน แบ่งครีมมาเล็กน้อย ใส่สีผสมอาหารสีเขียวเล็กน้อย คนให้เข้ากันเป็นสีเขียวอ่อน แช่เย็นไว้
  8. เมื่อเค้กสุกยกออกจากพิมพ์ พักไว้ให้เย็น แต่งหน้าคัปเค้กด้วยครีมที่ตีไว้ และนำครีมสีเขียวมาแต่งให้สวยงาม

★ 4. เค้กมาซาลา (Masala Cake) 

เค้กมาซาลา (Masala Cake)

คัปเค้กอีกเมนูที่มีกลิ่นหอมอ่อนๆ ของเครื่องเทศอย่างมาซาลา กินคู่กับกาแฟ ชาร้อนก็เข้ากัน   

ส่วนผสม

  • แป้งสาลีอเนกประสงค์ 1 1/2 ถ้วย
  • ผงมาซาลา 2 ช้อนชา 
  • ผงฟู 2 ช้อนชา
  • เกลือป่น 1/2 ช้อนชา
  • เนยสด 1/2 ถ้วย
  • น้ำตาลทราย 1/2 ถ้วย
  • ไข่ไก่ 2 ฟอง
  • นมสด 2/3 ถ้วย
  • วอลนัตสับเป็นชิ้นเล็กๆ 1/2 ถ้วย

ส่วนผสมหน้าเค้ก

  • น้ำตาลทรายแดง 1/2 ถ้วย
  • เนยสด 1/4 ถ้วย
  • นมสด 2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาลป่น (ไอซิง) 1 1/2 ถ้วย
  • ผงมาซาลา 1 ช้อนชา
  • วอลนัตทั้งชิ้นสำหรับตกแต่ง

วิธีทำ

  1. ผสมผงมาซาลา แป้งสาลี ผงฟู และเกลือ ใช้ตะกร้อมือคนให้เข้ากัน พักไว้
  2. ตีเนยสดกับน้ำตาลด้วยเครื่องผสมอาหารไฟฟ้าโดยใช้ความเร็วปานกลางจนน้ำตาลละลายหมด 
  3. ใส่ไข่ทีละฟอง ตีต่อให้เข้ากัน ใส่จนครบ 2 ฟอง ใส่ส่วนผสมแป้งสลับกับนมสดทีละครึ่ง ตีให้เข้ากันด้วยความเร็วต่ำประมาณ 1 นาที ใส่วอลนัตสับ คนให้เข้ากัน
  4. ตักส่วนผสมใส่ถ้วยคัปเค้ก นำเข้าเตาอบที่อุณหภูมิ 175 องศาเซลเซียสด้วยไฟบน-ล่างประมาณ 30 นาทีหรือจนสุก
  5. ระหว่างที่รอเค้กสุก ทำหน้าเค้กโดยใส่น้ำตาลทรายแดงและเนยสดลงในหม้อเคลือบ ตั้งไฟปานกลาง  คนไปเรื่อยๆ จนส่วนผสมละลายเป็นเนื้อเดียวกัน ยกลง พักไว้ประมาณ 15 นาที
  6. ใส่นมสด น้ำตาลไอซิง และผงมาซาลา ใช้ตะกร้อมือตีจนส่วนผสมเป็นครีมข้นสีน้ำตาลอ่อน
  7. เมื่อเค้กยังอุ่นๆ อยู่ทาหน้าเค้กด้วยส่วนผสมหน้าเค้กที่ทำไว้ ตกแต่งด้วยวอลนัต

★ 5. มัฟฟินคัปบานาน่าช็อกนัตหน้าแตก (Banana Choc Nut Muffin Cup) 

มัฟฟินคัปบานาน่าช็อกนัตหน้าแตก (Banana Choc Nut Muffin Cup)

มัฟฟินเป็นขนมปังชนิดหนึ่ง แต่ไม่ต้องหมักเหมือนขนมปังปกติ และทำในรูปแบบใส่ถ้วยจะรับประทานสะดวก โรยชีสเชดดาร์ตอนขนมยังร้อนอยู่   

ส่วนผสม

  • ช็อกโกแลตคิส 1/4 ถ้วย
  • วอลนัตสับเป็นชิ้นเล็กๆ 1/2 ถ้วย
  • เนยแข็งเชดดาร์ขูดเป็นเส้นๆ 1 ถ้วย
  • กล้วยหอมบด 2/3 ถ้วย
  • นมข้นจืด 2/3 ถ้วย
  • น้ำส้มสายชู 2 ช้อนชา
  • เกลือป่น 1 ช้อนชา
  • แป้งสาลีอเนกประสงค์ 2 1/3 ถ้วย
  • ผงฟู 2 ช้อนชา
  • โซดาไบคาร์บอเนต 1 ช้อนชา
  • ไข่ไก่ 1 ฟอง
  • น้ำตาลทราย 1/2 ถ้วย
  • น้ำมันดอกทานตะวัน 2/3 ถ้วย

วิธีทำ

  1. ทำนมเปรี้ยวโดยผสมนมข้นจืดกับน้ำส้มสายชู คนให้เข้ากัน
  2. ใส่กล้วยหอมบดและเกลือ คนอีกครั้งให้เข้ากัน พักไว้
  3. ผสมแป้งสาลี ผงฟู  และโซดาไบคาร์บอเนต ใช้ตะกร้อมือคนให้เข้ากัน พักไว้
  4. ตีไข่กับน้ำตาลด้วยความเร็วปานกลางจนน้ำตาลละลายหมด ค่อยๆ ใส่น้ำมันดอกทานตะวันลงไปทีละนิดขณะที่ตีไปเรื่อยๆ จนกระทั่งเนียนเป็นครีมข้นๆ ก็หยุด
  5. ใส่ส่วนผสมกล้วยบด วอลนัต ช็อกโกแลตคิส และส่วนผสมแป้ง ใช้พายพลาสติกคนพอให้เข้าเป็นเนื้อเดียวกัน
  6. ตักส่วนผสมใส่ถ้วยกระดาษที่รองด้วยถ้วยอะลูมิเนียมแล้ววางเรียงในถาดอบ  ยกใส่เตาอบ ใช้ปุ่มไฟบน-ล่างที่อุณหภูมิ 225 องศาเซลเซียสประมาณ 15 นาที   
  7. วางมัฟฟินร้อนบนตะแกรง   โรยหน้าด้วยเนยแข็งขูด

★ 6. คัปเค้กชาเขียวหน้าเมอแรงก์ชมพู (Green Tea with Pink Meringue Cupcake) 

คัปเค้กชาเขียวหน้าเมอแรงก์ชมพู (Green Tea with Pink Meringue Cupcake)

คัปเค้กชาเขียว เค้กเนื้อนุ่มๆ กลิ่นชาเขียวอ่อนๆ แต่งหน้าด้วยเมอแรงก์สีชมพูจากน้ำเบอร์รี สีหวานน่ากิน

ส่วนผสม

  • ผงชาเขียว 2 ช้อนชา
  • นมสดอุ่นๆ 2 ช้อนโต๊ะ
  • แป้งสาลีอเนกประสงค์ 1/2 ถ้วย
  • ผงฟู 1 ช้อนชา
  • เกลือป่น 1/4 ช้อนชา
  • เนยจืด 1/4 ถ้วย
  • น้ำตาลทรายละเอียด 1/4 ถ้วย
  • ไข่ไก่เบอร์สอง 1 ฟอง

ส่วนผสมหน้าเมอแรงก์

  • ไข่ไก่เบอร์สอง 1 ฟอง
  • น้ำตาลทรายละเอียด 1/3 ถ้วย
  • ครีมออฟทาร์ทาร์ 1/4 ช้อนชา
  • เกลือป่น 1/8 ช้อนชา
  • น้ำเบอร์รีคั้น 3 ช้อนโต๊ะ
  • กลิ่นวานิลลา 1/2 ช้อนชา

วิธีทำ

  1. ผสมผงชาเขียวในถ้วยนมสดอุ่นๆ คนจนผงชาละลายรวมกับนม พักไว้
  2. ผสมแป้งสาลี ผงฟู และเกลือ ใช้ตะกร้อมือคนให้เข้ากัน เตรียมไว้
  3. ตีเนยกับน้ำตาลด้วยตะกร้อไฟฟ้าโดยใช้ความเร็วปานกลางจนเป็นครีมสีขาวนวล ใส่ไข่ ตีต่อให้ส่วนผสมเข้ากันดี
  4. ใส่ส่วนผสมแป้งและส่วนผสมชาเขียว ปรับเครื่องตีเป็นความเร็วต่ำ ตีให้เนียนเป็นเนื้อเดียวกัน
  5. ใช้ที่ตักไอศกรีมตักแป้งที่ผสมแล้วใส่ลงในถ้วยกระดาษที่วางในพิมพ์
  6. วางเรียงบนตะแกรงเตา ใช้อุณหภูมิ 170 องศาเซลเซียส ปุ่มไฟบนและล่างนาน 30 นาทีหรือจนสุก
  7. ทำหน้าคัปเค้กโดยแยกไข่ขาวใส่ในชามสเตนเลส ใส่น้ำตาล ครีมออฟทาร์ทาร์ เกลือ น้ำเบอร์รี และกลิ่นวานิลลา วางชามบนหม้อน้ำเดือด ใช้ตะกร้อไฟฟ้าตีด้วยความเร็วสูงสุดให้ส่วนผสมเข้ากันเป็นครีม
  8. พอเค้กเย็นลงใส่ส่วนผสมหน้าไข่ขาว โรยเกล็ดน้ำตาลเล็กน้อยเพื่อเป็นสีสัน

ความคิดเห็น

Editor’s Pick

Recent

Most Viewed