“สับปะรด” หนึ่งในผลไม้ทรอปิคอลยอดฮิตที่ใครๆ ต่างก็ชอบ ด้วยสัมผัสที่กรอบและรสหวานอมเปรี้ยวชื่นใจ (แค่กินเย็นๆ ก็ชื่นใจ) แต่นี่ยิ่งนำมาทำเป็นเมนูต่างๆ ทั้งสลัด ไอศกรีม ม็อกเทล ยิ่งเพิ่มความฟินเข้าไปใหญ่

★1. สลัดกุ้งกับสับปะรดย่าง เมนูสุขภาพชวนสดชื่นรับหน้าร้อน★

ผักสดกรุบกรอบๆ คลุกเคล้าสับปะรดหวานกรอบ เพิ่มโปรตีนด้วยกุ้งเนื้อหวานย่าง ราดน้ำสลัดสูตรเฉพาะ

ส่วนผสม

• กุ้งแชบ๊วยแกะเปลือก 8-10 ตัว       
• เนื้อสับปะรดหั่นชิ้นสามเหลี่ยมพอดีคำ 1/2 ถ้วย
• ผักสลัด ผักชี แตงกวา และผักแพว ตามชอบ
• เกลือทะเลและพริกไทยสำหรับปรุงรส

ส่วนผสมน้ำยำ

• น้ำส้มสายชูหมักจากข้าว 2 ช้อนโต๊ะ
• น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ
• กระเทียมสับ 1 ช้อนโต๊ะ
• พริกชี้ฟ้าตำ 2 เม็ด
• น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
• น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
• แครอตและหัวไชเท้าขูดอย่างละ 1/2 ถ้วย

วิธีทำ

1. ทำน้ำยำโดยใส่ส่วนผสมทั้งหมดลงในหม้อใบเล็ก (ยกเว้นแครอตกับหัวไชเท้า) นำขึ้นตั้งไฟต้มให้พอเดือด ปิดไฟ พักให้เย็น จากนั้นใส่แครอตซอยและหัวไชเท้าซอย
2. โรยเกลือและพริกไทยบนกุ้งให้ทั่ว พักไว้สักครู่ แล้วย่างบนกระทะด้วยไฟแรงให้สุก
3. ย่างสับปะรดบนกระทะย่างให้สีสวย ตักขึ้นพักไว้
4. จัดจานเสิร์ฟใส่ผักสลัด ผักชี แตงกวา ผักแพว สับปะรดย่าง และกุ้งย่างให้สวยงาม ราดน้ำยำ

★2. สับปะรดย่างกับซอสมะละกอ★

สับปะรดภูแลหั่นแว่น นำไปย่างให้หอม เข้าคู่ซอสที่ทำมาจากมะละกอกับน้ำแอปเปิล

ส่วนผสม (สำหรับ 2 ที่)

• สับปะรดภูแลหั่นแว่น 1-2 ผล
• เนยเล็กน้อย
• กรีกโยเกิร์ตปริมาณตามชอบ

ส่วนผสมซอสมะละกอ

• เนื้อมะละกอฮอลแลนด์หั่นชิ้นเล็ก 2 ถ้วย
• น้ำแอปเปิล 1/4 ถ้วย
• เกลือทะเลเล็กน้อย

ส่วนผสมน้ำเชื่อมขิง

• ขิงแก่ซอยเป็นเส้น (ขนาดเท่าไม้ขีดไฟ) 2 ช้อนโต๊ะ น้ำเปล่า 1 ถ้วย น้ำตาลทราย 1/2 ถ้วย

วิธีทำ

1. ทำน้ำเชื่อมขิงโดยต้มน้ำกับน้ำตาลจนน้ำตาลละลายและงวดลงเล็กน้อย ใส่ขิงลงต้มต่อสักครู่ ปิดไฟ พักไว้ให้เย็น เตรียมไว้
2. ปั่นมะละกอกับน้ำแอปเปิลและเกลือให้ละเอียด กรองผ่านที่กรองตาถี่ เตรียมไว้
3. ทาเนยบางๆ บนสับปะรด นำไปนาบกระทะสักครู่ จัดใส่จาน ราดน้ำเชื่อมขิงพร้อมเนื้อขิง ตักกรีกโยเกิร์ตวางบนหน้า ราดซอสมะละกอ 

★3. สับปะรดกับจิงเจอร์เอล★

ร้อนๆ แบบนี้อยากได้น้ำสับปะรดหวานฉ่ำ และความสดชื่นของจิงเจอร์เอลคงจะดีงามไม่น้อย

ส่วนผสม (สำหรับ 2 ที่)

• น้ำสับปะรด 1 ถ้วย
• จิงเจอร์เอล 1/2  ถ้วย
• น้ำมะนาว   2  ช้อนชา
• สะระแหน่และน้ำแข็งบดเล็กน้อย
• สับปะรดหั่นเสี้ยวเล็กย่างสำหรับตกแต่ง

ส่วนผสมและวิธีทำน้ำเชื่อม
น้ำตาลทรายชนิดไม่ฟอก 1/4 ถ้วย ต้มกับน้ำเปล่า 1/4 ถ้วยจนละลาย พักไว้ให้เย็น

วิธีทำ

1. ผสมน้ำสับปะรดกับน้ำเชื่อม 2-3 ช้อนโต๊ะ จิงเจอร์เอล น้ำมะนาว และสะระแหน่ เทใส่แก้วที่มีน้ำแข็งบด
2. ตกแต่งด้วยสับปะรดย่างและใบสะระแหน่

★4. พินาโคลาดาป๊อป★

หวานเย็นรสสับประรดและมะพร้าวรสหวานอมเปรี้ยว เพิ่มสัมผัสกรุบกรอบด้วยมะพร้าวขูดอีกที

ส่วนผสมรสกะทิ

• กะทิ 1/2 ถ้วย
• น้ำเชื่อมมะพร้าว (Coconut Syrup) 1/2 ถ้วย
• น้ำเปล่า 1 ถ้วย

ส่วนผสมรสสับปะรด

• น้ำสับปะรด 1 ถ้วย
• น้ำเชื่อมมะพร้าว (Coconut Syrup) 1/2  ถ้วย
• น้ำเลมอน 1 ช้อนโต๊ะ
• เกลือป่น 1/4 ช้อนชา
• มะพร้าวขูดคั่วสำหรับโรยหน้า

วิธีทำ

1. ผสมกะทิ น้ำเชื่อมมะพร้าว และน้ำเปล่าให้เข้ากัน เทใส่พิมพ์แก้วกระดาษ 1/4 ของแก้ว คลุมแก้วด้วยฟอยล์ เสียบไม้ไอศกรีมตรงกลาง จับให้ตั้งตรง แช่ในช่องแช่แข็งไว้จนแข็งตัว
2. ผสมน้ำสับปะรด น้ำเชื่อมมะพร้าว น้ำเลมอน และเกลือป่น คนให้เข้ากัน เทใส่แก้วให้เกือบเต็ม แช่ต่อจนแข็ง
3. แกะออกจากพิมพ์โดยใช้มือดันที่ปลายแก้วเบาๆ คลุกกับมะพร้าวขูดคั่วตามชอบ

★5. ไอศกรีมสับปะรด★

รสเปรี้ยวอมหวานของสับปะรด รวมกับความครีมมีของกะทิ และนมสด ทำให้ไอศกรีมสับปะรดนี้เหมาะจะเป็นของหวานคลายร้อนที่สุด

ส่วนผสม

• เนื้อสับปะรดสับเป็นชิ้นเล็ก 2 ถ้วย
• กะทิ 1 ถ้วย
• วิปปิ้งครีม 1 ถ้วย
• สับปะรดชิ้นในน้ำเชื่อม 1/2 ถ้วย
• น้ำตาลทราย 1/4 ถ้วย
• วิปครีมตามชอบ
• เชอร์รี่แดงสำหรับตกแต่ง
• สับปะรดผลเล็กทำเป็นภาชนะ
• ใบสะระแหน่สำหรับตกแต่ง

วิธีทำ

1. ผสมกะทิกับสับปะรด ใส่น้ำตาล คนให้เข้ากัน ชิมรส พักไว้ ตีวิปปิ้งครีมให้เป็นครีมข้นๆ ผสมกับส่วนผสมกะทิและสับปะรด เทใส่ภาชนะนำไปแช่ช่องแช่แข็ง 
2. วิธีจัดเสิร์ฟ ตักสับปะรดชิ้นในน้ำเชื่อมใส่ลงในภาชนะ ตักไอศกรีมใส่ บีบวิปครีมตามชอบ ตกแต่งด้วยเชอร์รี่และใบสะระแหน่

★6. Spiced Pineapple Cooler★

ม็อกเมลรสชื่นใจที่ทำจากน้ำสับปะรด อบเชยและกานพลู

ส่วนผสม

• น้ำสับปะรด 7 1/2 ถ้วย
• อบเชยแท่ง 4 แท่ง
• กานพลู 20 ดอก
• น้ำส้มคั้น 3 ถ้วย
• คลับโซดาแช่เย็น  4 1/2 ถ้วย
• น้ำแข็งป่น

วิธีทำ

1. ต้มน้ำสับปะรด อบเชย และกานพลูให้เดือด ปิดฝาหม้อไว้ หรี่ไฟให้อ่อนลงแล้วเคี่ยวไว้ 20 นาที
2. ปิดไฟ พักไว้ให้เย็น กรองเอากากออกให้หมด ตักแบ่งใส่เป็นแก้วๆ
3. เติมน้ำส้มคั้นแล้วปิดฝา นำไปแช่จนเย็นจัด
4. ก่อนเสิร์ฟเทคลับโซดาลงไป เติมน้ำแข็ง

★7. น้ำส้มสายชูหมักสับปะรดแบบธรรมชาติ★

น้ำส้มสายชูหมักแบบธรรมชาติ เต็มไปด้วยแบคทีเรียชนิดดีและมีสารต้านอนุมูลอิสระ แถมใส่น้ำแข็งแล้วดื่มชื่นใจ

เครื่องปรุง

• สับปะรดดิบ 1 ผล  
• น้ำตาลทรายขาว 2 ถ้วย
• น้ำเปล่า 6 ถ้วย

วิธีทำ

1. ต้มน้ำพอเดือด ใส่น้ำตาลลงไปคนให้ละลาย ปิดไฟ พักไว้จนเย็นสนิท
2. ล้างและปอกสับปะรด สับเป็นชิ้น ใส่เบลนเดอร์ ปั่นกับน้ำเชื่อมประมาณ 2 ถ้วย
3. ใส่สับปะรดปั่นลงในโถแก้วปากกว้าง เทน้ำเชื่อมที่เหลือลงไป (โถต้องใหญ่พอที่จะมีช่องว่างระหว่างของในโถและปากโถประมาณ 2 นิ้วนะคะ)
4. ปิดปากโถด้วยผ้าหรือกระดาษซับมันซ้อน 2-3 ชั้นให้ระบายอากาศได้ แบคทีเรียนิสัยดีที่จะมากินน้ำตาลต้องการอากาศหายใจ ถ้าตั้งในห้องที่ไม่มีแมลงก็แค่นี้พอ แต่ถ้ามีแมลงต้องหล่อน้ำและปิดฝาด้วยวัสดุที่มีเส้นใยถี่เช่นหมวกที่ใช้ในโรงงาน
5. เมื่อเริ่มจะมีฝ้าและราสีขาวซึ่งเป็นรานิสัยดีมีกลิ่นหอม ถ้ามีราเขียวหรือดำปรากฏให้เททิ้ง (ถ้าเห็นเงาดำๆ ให้ตักดูก่อน บางครั้งเกิดจากการสะท้อนแสง)
6. หมักไว้ประมาณ 2-3 สัปดาห์จะมีแผ่นแม่หรือวุ้นสับปะรดเกิดขึ้น หมักต่อประมาณ 4 สัปดาห์ก็ใช้ได้ กรองเอาน้ำส้มไว้ใช้ ทั้งจิบในตอนเช้าหรือทำอาหารแทนน้ำส้มสายชูที่ซื้อจากตลาด
7. ถ้าใส่ตู้เย็นก็ไม่ต้องต้มฆ่าเชื้อ (ถ้าอยากฆ่าเชื้อให้ต้มด้วยไฟอ่อน ระวังอย่าให้เดือด อุณหภูมิประมาณ80 องศาเซลเซียสจะกำลังดี ต้มประมาณ 10 นาทีก็พอ (คอยปิดเตาถ้าน้ำส้มจะเดือด) กรอกใส่ขวด ถ้าฆ่าเชื้อแล้วเก็บไว้นอกตู้เย็นได้
8. หั่นตัววุ้นสับปะรดเป็นชิ้นขนาดเต๋ากลาง นำไปดองกับน้ำผึ้งกินแก้ท้องอืด ท้องเสีย อาหารไม่ย่อย คลื่นไส้ แพ้อาหาร ยังมีสรรพคุณมากมายหาอ่านได้จากเว็บ Google เสิร์ช Benifits of mother of pineapple vinegar

Tag : รวมสูตรอร่อย, สับปะรด