ถูกใจสายหวานกันอีกแล้วสำหรับ 9 สูตรขนมหวานจากผลไม้ มีทั้งเบเกอรี วุ้น ขนมไทย ที่รังสรรค์จากผลไม้ ให้รสหวานธรรมชาติฟินๆ ดีต่อใจมากมาย

★1. ทาร์ตพานนาคอตตาแอปเปิล ทอปด้วยเจลลีราสป์เบอร์รีสีแดงสดใส★

ครัมเบิ้ลกรุบกรอบ กินพร้อมพานาคอตต้าเนื้อนุ่มเด้ง ท็อปด้วยเจลลีราสป์เบอร์รีรสหวานอมเปรี้ยว

ส่วนผสมแป้งทาร์ต (สำหรับ 6-8 ที่)

• แป้งสาลีอเนกประสงค์ 180 กรัม
• อัลมอนด์ป่น 25 กรัม
• น้ำตาลไอซิง 60 กรัม
• เกลือ 1/4 ช้อนชา
• เนยจืด 100 กรัม
• ไข่ไก่ 40 กรัม
• ดาร์กช็อกโกแลตละลาย 1/3 ถ้วย
• ไข่ไก่สำหรับทาแป้งทาร์ตเล็กน้อย

วิธีทำ

1. ผสมทั้งหมดเข้าด้วยกัน (ยกเว้นดาร์กช็อกโกแลตและไข่ไก่) ใช้ Pastry Cutter ผสมให้เข้ากันจนเป็นเม็ดทราย
2. ใส่ไข่ไก่ผสมให้เข้ากัน ห่อด้วยพลาสติกแร็ป นำเข้าตู้เย็นประมาณ 1 ชั่วโมง
3. นำออกมารีดเป็นแผ่น กรุใส่พิมพ์ขนาด 8 นิ้ว ตัดขอบส่วนเกินออก ใช้ส้อมจิ้มใแป้งทาร์ตห้ทั่ว วางกระดาษไข และใส่ถั่วสำหรับถ่วง (Baking Beans) เพื่อไม่ให้แป้งฟู นำเข้าเตาอบอุณหภูมิ 170 องศาเซลเซียส นาน 15-20 นาที นำออกมาทาไข่เล็กน้อย อบต่อประมาณ 5 นาที นำออกมาพักให้เย็นบนตะแกรง
4. ทาดาร์กช็อกโกแลตละลายให้ทั่วแป้งทาร์ต นำเข้าตู้เย็นพักให้เซ็ตตัว

ส่วนผสมพานนาคอตตา

• ครีมสด 1 1/2 ถ้วย
• นมจืด 1 ถ้วย
• เจลาติน 2 แผ่น
• น้ำตาลทราย 1/2 ถ้วย
• กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา

วิธีทำ

1. ตั้งหม้อใส่ครีม นม น้ำตาลทราย กลิ่นวานิลลา และเจลาติน (แช่น้ำเย็นจนนุ่ม) ใช้ไฟกลางต้มพออุ่น และเจลาตินละลาย พักให้เย็นลง เทใส่แป้งทาร์ตแล้วนำเข้าตู้เย็นให้เซ็ตตัว

ส่วนผสมเจลลีราสป์เบอร์รี

• ราสป์เบอร์รีแช่แข็ง 1 ถ้วย
• น้ำเปล่า 1 ถ้วย
• น้ำตาลทราย 1/2 ถ้วย
• เจลาติน 2 แผ่น
• ผลไม้สำหรับตกแต่ง เช่น แอปเปิลแดง ราสป์เบอร์รี  เมล็ดทับทิม และไมโครเฮิร์บ

วิธีทำเจลลีราสป์เบอร์รี

1. ปั่นราสป์เบอร์รีแช่แข็งกับน้ำเปล่าให้ละเอียดแล้วกรองออกด้วยผ้าขาวบาง ให้ได้ประมาณ 1 ถ้วย เทใส่หม้อ ใส่น้ำตาลทราย และเจลาติน (แช่น้ำเย็นจนนุ่ม) คนผสมเข้ากันและเจลาตินละลาย พักให้เย็น
2. เทลงบนพานนาคอตตา นำเข้าตู้เย็นประมาณ 10-20 นาที จนเซ็ตตัว ตกแต่งหน้าด้วยผลไม้ต่างๆ ให้สวยงาม

★2. เค้กครีมมะยงชิด เมนูเค้กจากผลไม้หน้าร้อน เปรี้ยวหวานอร่อยนุ่มฟู★

เค้กเนื้อนุ่มฟูสลับชั้นกับครีมสดและพระเอกอย่าง มะยงชิด รสเปรี้ยวอมหวาน

ส่วนผสมเค้ก

• แป้งเค้ก 1 1/4 ถ้วย
• ผงฟู 2 ช้อนชา
• ไข่ไก่เบอร์หนึ่ง 4 ฟอง
• น้ำตาลทราย 3/4 ถ้วย
• เกลือป่น 1/4 ช้อนชา
• ครีมออฟทาร์ทาร์ 1/2 ช้อนชา
• น้ำมันคาโนล่า 1/2 ถ้วย
• ผงวานิลลา 1 ช้อนชา
• มะยงชิดหั่นเป็นชิ้น 10 ผล

ส่วนผสมครีม

• เนยสดเค็มอุณหภูมิห้อง 150 กรัม
• วิปปิงครีมสำเร็จรูป 2 ถ้วย

วิธีทำ

1. ตีไข่กับครีมออฟทาร์ทาร์เข้าด้วยกัน ค่อยๆ ใส่น้ำตาลทราย ตีต่อจนเป็นครีมข้นๆ
2. ค่อยๆ ใส่น้ำมันคาโนล่า ตีต่อให้เข้ากัน
3. ใส่แป้งเค้ก ผงฟู เกลือป่น และผงวานิลลา ตะล่อมเบาๆ ให้เข้ากัน
4. เทใส่พิมพ์สี่เหลี่ยมขนาด 8x8x1 นิ้ว นำเข้าเตาอบที่อุณหภูมิ 170 องศาเซลเซียส เวลา 35-40 นาที จนเค้กสุกเหลือง ยกออกจากเตา พักไว้ให้เย็น
5. เตรียมครีมโดยตีเนยสดให้ขึ้นฟู ใส่วิปปิงครีมสำเร็จรูป ตีเข้าด้วยกันจนขึ้นฟูเป็นครีม พักไว้
6. นำเค้กมาตัดตามขวางเป็น 3 ชิ้น นำชิ้นที่ 1 วางบนถาด ทาครีมที่ตีไว้ วางเนื้อมะยงชิด ใส่ครีมอีกครั้งปาดให้เรียบ วางเค้กชิ้นที่ 2 ทำเหมือนชั้นที่ 1 ปิดด้วยเค้กชิ้นที่ 3 ทาครีมให้ทั่ว วางเนื้อมะยงชิด แช่เย็นไว้ให้ครีมอยู่ตัว
7. นำเค้กออกมาตัดเป็นชิ้น จัดเสิร์ฟ

★3. วุ้นเค้กมะม่วงมะพร้าวสดคลายร้อน แสนอร่อย★

วุ้นมะม่วงสุกเนื้อนุ่มเด้งรสหวานฉ่ำ เสิร์ฟมาในรูปแบบเค้กสวยงาม กินกับวุ้นกะทิรสหอมมัน

ส่วนผสมวุ้นมะม่วง

• มะม่วงสุก 3 ผล
• น้ำตาลทราย 1 ถ้วย
• ผงวุ้น 1 1/4 ช้อนโต๊ะ
• น้ำเปล่า 6 1/2 ถ้วย

ส่วนผสมวุ้นมะพร้าวกะทิ

• มะพร้าวอ่อน 1 ผล
• กะทิ 1 ถ้วย
• น้ำตาลทราย 1/3 ถ้วย
• เกลือป่น 1/4 ช้อนชา
• ผงวุ้น 2 ช้อนชา
• น้ำเปล่า 3/4 ถ้วย

วิธีทำ

1. ทำวุ้นมะม่วงโดยหั่นมะม่วงเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมลูกเต๋า เตรียมไว้
2. เตรียมหม้อใส่น้ำ ใส่ผงวุ้น ตั้งไฟให้พอเดือด เคี่ยวจนผงวุ้นละลายหมด ใส่น้ำตาลทราย คนให้ละลาย ยกลง คนน้ำวุ้นให้พอคลายความร้อน
3. ใส่เนื้อมะม่วงที่หั่นไว้ลงในพิมพ์ขนาด 3 ปอนด์ ค่อยๆ ตักน้ำวุ้นใส่พิมพ์จนหมด พักไว้ให้วุ้นอยู่ตัว แช่เย็นไว้
4. ทำวุ้นมะพร้าวกะทิโดยใส่เนื้อมะพร้าวอ่อน น้ำมะพร้าว และกะทิลงในโถปั่น ปั่นเข้าด้วยกันจนละเอียด พักไว้ 
5. ต้มน้ำกับผงวุ้นด้วยไฟอ่อนจนผงวุ้นละลายหมด ใส่ส่วนผสมมะพร้าวที่ปั่นไว้ลงไป คนให้เข้ากัน
6. เติมน้ำตาลทรายและเกลือ คนต่อจนละลายหมด ตักใส่พิมพ์รูปดอกไม้ พักไว้จนวุ้นแข็งตัว
7. นำวุ้นมะม่วงออกจากพิมพ์ใส่จาน นำวุ้นมะพร้าวเรียงให้สวยงาม แช่เย็นไว้ก่อนเสิร์ฟ  

★4. Nuts Vegan Cheesecake ชีสเค้กบลูเบอร์รีและถั่วสูตรวีแกน อร่อยแถมดีต่อสุขภาพ★

ใช้วอลนัท อัลมอนด์ มะพร้าวป่น และอินทผลัมเป็นฐานล่าง ให้สัมผัสกรุบกรอบ ท็อปด้วยเม็ดมะม่วงหิมพานต์และนมมะพร้าวแทนครีมชีส อร่อยฟินได้เหมือนกัน

ส่วนผสม

• เม็ดมะม่วงหิมพานต์  200 กรัม
• น้ำเปล่า 1 1/4 ถ้วย
• วอลนัต 30 กรัม
• อินทผลัม 100 กรัม
• อัลมอนด์อบ 50 กรัม     
• มะพร้าวป่น 50 กรัม
• นมมะพร้าว 3/4 ถ้วย
• เมเปิลไซรัป 3 ช้อนโต๊ะ
• น้ำมันมะพร้าว 1 ช้อนโต๊ะ
• บลูเบอร์รีสด 1/2 ถ้วย
• เจลาตินละลาย 3 ช้อนโต๊ะ
• (ผงเจลาติน 2 ช้อนชา แช่น้ำ 3 ช้อนโต๊ะ)

วิธีทำ

1. ต้มเม็ดมะม่วงหิมพานต์กับน้ำให้สุกนุ่ม พักไว้
2. บดวอลนัต อัลมอนด์ มะพร้าวป่น และอินทผลัมให้ละเอียด ใส่ลงในพิมพ์ กดให้แน่น พักไว้
3. ใส่เม็ดมะม่วงหิมพานต์ต้มลงในโถปั่น ใส่นมมะพร้าว เมเปิลไซรัป น้ำมันมะพร้าว และเจลาตินละลาย ปั่นให้ละเอียด ตักแบ่งไว้ครึ่งหนึ่ง
4. ส่วนผสมที่เหลือในโถครึ่งหนึ่งในโถ ใส่บลูเบอร์รี ปั่นต่อให้ละเอียด เทใส่พิมพ์ที่กรุไว้ เหลือส่วนผสมไว้เล็กน้อย เกลี่ยให้ทั่ว
5. ใส่ส่วนผสมเม็ดมะม่วงหิมพานต์กับนมมะพร้าวที่แบ่งไว้ เกลี่ยให้ทั่ว ใส่ส่วนผสมเม็ดมะม่วงหิมพานต์กับบลูเบอร์รีที่เหลือ คนเบาๆ ด้วยไม้แหลมให้สวยงาม นำไปแช่เย็น 3-4 ชั่วโมง หรือข้ามคืน
6. ตัดเป็นชิ้น จัดใส่จานเสิร์ฟ  

★5. เค้กข้าวโอ๊ตกล้วยน้ำว้า เค้กไร้แป้งสำหรับสายคลีน กินได้ไม่กลัวอ้วน★

ขนมหวานของชาววีแกน โดนเด่นด้วยรสหวานธรรมชาติของกล้วยน้ำว้า น้ำมะพร้าวและน้ำผึ้ง

ส่วนผสม

• กล้วยน้ำว้าสุก 5 ผล
• น้ำมันมะพร้าว 1/4 ถ้วย
• น้ำผึ้ง 1/4 ถ้วย
• ไข่ไก่เบอร์หนึ่ง 2 ฟอง
• ข้าวโอ๊ต 1 ถ้วย
• อัลมอนด์ป่น 1/2 ถ้วย
• เบกกิงโซดา 1 ช้อนชา
• ผงฟู 1 ช้อนชา
• กล้วยน้ำว้าผ่าครึ่งสำหรับวางบนหน้าเค้ก
• เม็ดมะม่วงหิมพานต์ผ่าครึ่งซีก เมล็ดฟักทอง เมล็ดทานตะวัน และช็อกโกแลตชิปสำหรับโรยหน้า

วิธีทำ

1. บดกล้วยน้ำว้าให้ละเอียด ใส่ไข่ไก่ น้ำมันมะพร้าว และน้ำผึ้ง คนให้เข้ากัน
2. ใส่ข้าวโอ๊ต อัลมอนด์ป่น ผงฟู และเบกกิงโซดา คนให้เข้ากัน
3. ตักใส่พิมพ์ วางกล้วยน้ำว้าตรงกลาง โรยเม็ดมะม่วงหิมพานต์ เมล็ดฟักทอง เมล็ดทานตะวัน และช็อกโกแลตชิป
4. นำเข้าเตาอบที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส เวลา 30 นาทีจนสุกหอม ยกลง พักไว้ให้เย็น

★6. เค้กซาวาแรงองุ่นไชน์มัสแคต หวานหอมน้ำผึ้งและอบเชย★

เค้กแสนอร่อยจากประเทศโปแลนด์ เมื่ออบแล้วนำมาแช่ในน้ำเชื่อมผสมบรั่นดีและอบเชยจะได้รสหวานหอมจากน้ำผึ้ง ตกแต่งให้สวยงามด้วยองุ่นไชน์มัสแคต

ส่วนผสมแป้งเค้ก (สำหรับ 6-8 ที่)

• แป้งขนมปัง 375 กรัม
• ยีสต์ 10 กรัม
• น้ำตาลทราย 50 กรัม
• นมจืด 250 มิลลิลิตร
• เกลือ 1/4 ช้อนชา
• ไข่แดง 2 ฟอง
• ไข่ไก่ 1 ฟอง
• ผิวมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ
• เนยจืด 160 กรัม
• องุ่นไชน์มัสแคตหั่นครึ่งแล้วแช่ในน้ำเชื่อม
• ดอกไม้กินได้สำหรับตกแต่ง

ส่วนผสมทำน้ำเชื่อม

• น้ำเปล่า 250 ลิตร
• น้ำตาลทราย 60 กรัม
• น้ำผึ้ง 60 กรัม
• น้ำเลมอน 1 ผล
• น้ำส้ม 1 ผล
• เหล้าบรั่นดี 2 ช้อนโต๊ะ
• อบเชย 1 แท่ง

วิธีทำน้ำเชื่อม

1. ตั้งหม้อใส่ส่วนผสมทั้งหมด ต้มให้พอเดือด พักให้เย็น

วิธีทำ

1. ผสมไข่แดง ไข่ไก่ และนม เตรียมไว้
2. ใส่ส่วนผสมทั้งหมดลงในโถปั่น (ยกเว้นเนย) ปั่นทั้งหมดให้เข้ากัน ใส่นมที่เตรียมไว้ ตีต่อ 5 นาที จนเนื้อเนียน ใส่เนย ผสมให้เข้ากัน คลุมด้วยพลาสติกแร็ป พักให้แป้งขึ้นฟูประมาณ 1 ชั่วโมง
3. ทาเนยที่พิมพ์ขนาด 2 ปอนด์ โรยแป้งสาลีอเนกประสงค์เล็กน้อย เทแป้งเค้กประมาณ 1/2 ของพิมพ์ นำเข้าเตาอบอุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส นาน 10 นาที พักให้เย็น
4. ชุบเค้กด้วยน้ำเชื่อมที่เตรียมไว้ พักไว้บนตะแกรงสักครู่ ยกใส่จานเสิร์ฟ แล้ววางองุ่นให้เป็นวงกลมสวยงาม ตกแต่งด้วยดอกไม้กินได้และผงทอง

★7. ขนมชั้นแก้วมังกรแดง ขนมชั้นหอมหวานสีสันสดใส★

ขนมไทยสุดป็อป ที่ครั้งนี้พิเศษหน่อยเพราะเราใช้สีแดงสดจากแก้วมังกร เพิ่มความน่ากินมากขึ้น

ส่วนผสม

• แป้งมัน 2 1/2 ถ้วย
• แป้งข้าวเจ้า 1/2 ถ้วย
• แป้งเท้ายายม่อม 1 1/2 ช้อนโต๊ะ
• หัวกะทิ 2 1/4 ถ้วย
• น้ำตาลทราย 1 1/4 ถ้วย
• เกลือป่น 1/2 ช้อนชา
• แก้วมังกรเนื้อแดงบดละเอียด 1/2 ถ้วย

วิธีทำ

1. ต้มหัวกะทิ น้ำตาล เกลือให้ร้อน และน้ำตาลละลายหมด พักไว้ให้อุ่นๆ
2. ผสมแป้งมัน แป้งข้าวเจ้า แป้งเท้ายายม่อม คนให้เข้ากัน แบ่งน้ำเชื่อมกะทิไว้ 1/2 ถ้วย 
3. ค่อยๆ ใส่น้ำเชื่อมกะทิที่เหลือลงในแป้ง นวดให้เข้ากัน ค่อยๆ ใส่จนหมดน้ำเชื่อมกะทิ  
4. แบ่งส่วนผสมแป้งเป็น 2 ส่วน ส่วนที่ 1 ใส่แก้วมังกรเนื้อแดงบด คนให้เข้ากัน ส่วนที่ 2 ใส่น้ำเชื่อมกะทิที่แบ่งไว้ คนให้เข้ากัน
5. เรียงพิมพ์แล้วนึ่งให้ร้อน ลดไฟอ่อน ชั้นที่ 1 หยอดแป้งสีขาว และสีแดงพิมพ์ละ 1 สี นึ่ง 3 นาที หยอดแป้งสีแดงเป็นชั้นที่ 2 ในพิมพ์ที่หยอดแป้งสีขาวไว้ และหยอดแป้งสีขาวเป็นชั้นที่ 2 ในพิมพ์ที่หยอดแป้งสีแดงไว้ นึ่ง 4 นาที หยอดชั้นที่ 3 นึ่ง 5 นาที ชั้นที่ 4 นึ่ง 6 นาที และชั้นที่ 5 นึ่ง 7 นาที (ทำชั้นละสีสลับกันไป)
6. พักขนมให้เย็น แกะออกจากพิมพ์   

★8. วุ้นกุหลาบลิ้นจี่ น่ารักด้วยเทคนิคขึ้นรูปทรงหยดน้ำ★

วุ้นเด้งนุ่มเสิร์ฟเย็นๆ กินชื่นใจ ผสานกับรสลิ้นจี่หวานหอมยิ่งฟินเข้าไปใหญ่

ส่วนผสมวุ้นนม (สำหรับ 6 ที่)

• นมจืด 150 กรัม
• น้ำเชื่อมลิ้นจี่ 1/4 ถ้วย
• ผงวุ้นอะการ์-อะการ์ 1 ช้อนชา
• เนื้อลิ้นจี่ 6 ผล

วิธีทำ

1. เตรียมพิมพ์ซิลิโคนครึ่งวงกลมรองพลาสติกสำหรับห่ออาหาร (ความยาวให้พอห่อและผูกได้) เตรียมไว้
2. ตั้งหม้อใส่ส่วนผสมทั้งหมด (ยกเว้นลิ้นจี่) ต้มให้พอเดือด เทวุ้นนมใส่พิมพ์ที่เตรียมไว้ (ประมาณ 1/4 ของพิมพ์) พักให้พอเซ็ตตัวเล็กน้อย แล้ววางเนื้อลิ้นจี่ไว้ตรงกลาง

ส่วนผสมวุ้นกุหลาบลิ้นจี่

• น้ำลิ้นจี่ 1 ถ้วย
• น้ำเชื่อมลิ้นจี่ 1/3 ถ้วย
• ผงวุ้นอะการ์-อะการ์ 1 ช้อนชา
• กุหลาบแห้ง 1 ช้อนโต๊ะ
• แผ่นเงินเปลวสำหรับตกแต่งอาหาร
• เชือกสำหรับผูก

วิธีทำ

1. ใส่ส่วนผสมทั้งหมดลงในหม้อ ต้มให้พอเดือด ปิดไฟ กรองกุหลาบแห้งออก เทน้ำวุ้นลิ้นจี่ลงบนวุ้นนมที่เซ็ตตัวแล้ว ห่อให้เป็นทรงกลม
2. ผูกเชือกให้แน่นแล้วนำไปแขวน รอจนเย็น
3. แกะเชือกและพลาสติกออก วุ้นที่ได้จะเหมือนหยดน้ำหยดใหญ่ จัดใส่จาน ตกแต่งหน้าด้วยแผ่นเงินเปลวให้สวยงาม

★9. ทาร์ตข้าวโอ๊ตผลไม้สด เพิ่มคุณค่าทางอาหารด้วยธัญพืช★

ทาร์ตตัวนี้น่าสนใจเพราะรังสรรค์ด้วยกราโนลาผสมธัญพืช กินพร้อมผลไม้สดต่างๆ อย่าง กล้วยหอม สตรอว์เบอร์รี และกีวี

ส่วนผสมทาร์ตข้าวโอ๊ต (สำหรับ 15 ชิ้น)

• กราโนลาผสมธัญพืช 3 ถ้วย
• เมเปิลไซรัป 1/4 ถ้วย
• น้ำมันมะพร้าว 5 ช้อนโต๊ะ
• เกลือเล็กน้อย
• ผลไม้สำหรับตกแต่ง เช่น กล้วยหอม สตรอว์เบอร์รี และกีวี ตามชอบ

วิธีทำ

1. ปั่นกราโนลาพอหยาบใส่ชามผสม ใส่น้ำมันมะพร้าว เมเปิลไซรัป และเกลือ คลุกผสมให้เข้ากัน
2. กดใส่พิมพ์แล้วนำเข้าเตาอบอุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส นาน 10-15 นาทีจนสุกเหลือง พักให้เย็น

ส่วนผสมครีมกะทิ

• วิปปิงครีม 2 ถ้วย
• กะทิ 1/2 ถ้วย
• น้ำตาลไอซิง 2 ช้อนโต๊ะ
• น้ำผึ้งสำหรับโรยหน้าเล็กน้อย
• ดอกไม้กินได้สำหรับตกแต่ง

วิธีทำ

1. ตีวิปปิงครีมกับน้ำตาลไอซิงให้ขึ้นฟูตั้งยอดปานกลาง ใส่กะทิแล้วตีต่อประมาณ 5 นาทีให้ส่วนผสมเข้ากัน ตักใส่ถุงบีบพักไว้ในตู้เย็น
2. บีบครีมกะทิใส่ทาร์ตข้าวโอ๊ต วางผลไม้สดที่หั่นเตรียมไว้ ราดน้ำผึ้งเล็กน้อย ตกแต่งด้วยดอกไม้ให้สวยงาม จัดเสิร์ฟ

Tag : ขนมหวาน, ผลไม้, รวมสูตรอร่อย