คลายลมหนาวด้วย 10 เมนูแกง อาหารคอมฟอร์ทฟู้ดของนักชิม

วันที่ 9 พฤศจิกายน 2565  1,497 Views (0 รีวิว)

จะมีอะไรดีไปกว่าการได้ซดน้ำแกงร้อนๆ ในช่วงฤดูหนาว ครั้งนี้ G&C เลยรวมสูตร 10 เมนูแกง อาหารประจำบ้านของสายกินมาไว้ให้แล้ว มีทั้งแกงอ่อม แกงขี้เหล็ก แกงเขียวหวาน เป็นไอเดียให้คนรักการทำอาหารได้มากมาย

1. แกงเขียวหวานเป็ดสด
​​เนื้อสะโพกเป็ดแน่นๆ ชิ้นพอดีคำ อยู่ในน้ำแกงเขียวหวานที่เรารัก

คลายลมหนาวด้วย 10 เมนูแกง อาหารคอมฟอร์ทฟู้ดของนักชิม

ส่วนผสมเครื่องแกงเขียวหวาน

  • เนื้อสะโพกเป็ดไม่มีกระดูก 1 กิโลกรัม
  • กะทิประมาณ 750 มิลลิลิตร
  • น้ำตาลทรายหรือน้ำตาลปี๊บประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ
  • เกลือและน้ำปลาสำหรับปรุงรส
  • มะเขือพวง ใบมะกรูด พริกเหลืองหั่นแฉลบ ใบโหระพา ถ้าชอบกระชายหั่นใส่ลงไปด้วย

ส่วนผสมเครื่องปรุงน้ำพริกแกงเขียวหวาน

  • พริกขี้หนูสวน 10 กรัม (ถ้าไม่กินเผ็ดอย่าใส่)
  • พริกขี้หนูเขียว 20 กรัม
  • เกลือ 5 กรัม
  • ข่าหนุ่ม 20 กรัม
  • ตะไคร้ 20 กรัม
  • กะปิ 20 กรัม
  • ผิวมะกรูด 10 กรัม
  • กระเทียม 70 กรัม
  • หอมแดง 60 กรัม
  • ลูกผักชี 1 ช้อนชา
  • ยี่หร่า 1/2 ช้อนชา
  • เมล็ดพริกไทย 1/2 ช้อนชา
  • รากผักชี 1 ราก

วิธีทำ

  1. ตำเมล็ดพริกไทยก่อน ตามด้วยข่า ตะไคร้ รากผักชี และเกลือ ตำให้ละเอียด แล้วจึงค่อยใส่ส่วนผสมที่เหลือ ตำต่อให้ละเอียด
  2. หมักเนื้อเป็ดกับน้ำปลาและน้ำมันหอยอย่างละเล็กน้อย พริกไทยป่นนิดหนึ่งด้วย หมักประมาณ 30 นาที วางด้านหนังเป็ดลงจี่ไฟอ่อนรวยรินจนหนังเป็ดมีรอยไหม้นิดๆ น้ำมันเป็ดใต้หนังถูกความร้อนรีดออกมาหมด หั่นเป็ดเป็นชิ้นพอดีคำค่อนข้างหนา
  3. เอาน้ำมันทอดเป็ดเล็กน้อยผสมหัวกะทิแค่พอผัดเครื่องแกง ใส่เครื่องแกง ผัดไปเรื่อยๆ เติมกะทิได้ ผัดจนคนผัดจาม ตอนใกล้เสร็จเครื่องแกงจะค่อนข้างแห้ง กะทิจะเริ่มแตกมัน ตอนนี้มีกลิ่นหอมมากค่ะ
  4. แบ่งเครื่องแกงออกมาครึ่งหนึ่ง เอาเนื้อเป็ดที่หั่นไว้ใส่ลงไป ปรุงรสเค็มหวานนิดหน่อย เนื้อเป็ดจะต้องรสชาติอร่อยตั้งแต่ตอนผัดนี้แล้ว ค่อยๆ เติมหางกะทิระหว่างผัด
  5. เติมเครื่องแกงที่เหลือลงไปตามชอบ ถ้าชอบแบบเข้มข้นก็ใส่ลงไปทั้งหมด เติมน้ำสต๊อกหรือหางกะทิจนท่วมเนื้อเป็ด แค่พอท่วมนะคะ อย่าใส่มาก ตุ๋นไฟอ่อนๆ ไปเรื่อยๆ จนเนื้อเป็ดนุ่มแต่ไม่เปื่อย
  6. พอเป็ดได้ที่เติมหางกะทิ เร่งไฟให้เดือด ปรุงรสเค็มนำ หวานแอบๆ (ไม่ชอบกินแกงหวานแบบเสนอหน้า)
  7. ใส่มะเขือพวง ใบมะกรูด และพริกเหลืองลงไปในแกงเดือดๆ ถ้าชอบกระชายก็ใส่ลงไปด้วย ต้มจนมะเขือสุกจะได้ไม่ดำ
  8. ใส่หัวกะทิและใบโหระพา คนให้เข้ากัน รอจนเดือดพล่านก็ปิดไฟได้เลย

2. แกงไตปลา
แกงยอดนิยมของภาคใต้ รสเข้มข้น สามารถกินกับข้าวสวยหรือขนมจีนเส้นยาวก็ได้

แกงเขียวหวานเป็ดสด

ส่วนผสม

  • เนื้อปลาทูย่าง หรือปลาดุกย่าง 250-300 กรัม
  • ปลากรอบทอด (แกะเอาแต่เนื้อ) 50 กรัม
  • น้ำพริกแกงเผ็ดใต้ 25 กรัม++
  • น้ำตาลปี๊บ 2 ช้อนชา
  • น้ำต้มไตปลา 2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำต้มกระดูกปลาย่าง 600 มิลลิลิตร
  • มะกรูด 1 ผล
  • ใบมะกรูด 2-3 ใบ (ถ้ามีเม็ดมะม่วงหิมพานต์ดิบใส่ลงไปด้วยจะอร่อยมาก)

ส่วนผสมเครื่องต้มไตปลา

  • ไตปลา 1 ขวด
  • น้ำเปล่า 1 ขวดไตปลา
  • หอมแดง 3 หัว
  • ตะไคร้ทุบ 1 ต้น
  • ข่า 2-3 แว่น

วิธีทำ

  1. ต้มไตปลากับส่วนผสมทั้งหมดจนเดือดและหอม
  2. ผัดน้ำพริกแกงกับน้ำมันนิดเดียว (ถ้าซื้อมา 1 ขีดก็ผัดทั้งหมดแล้วแบ่งใช้)
  3. ทำน้ำต้มกระดูกปลาย่างโดยตั้งน้ำจนเดือด ใส่ก้างปลาและหัวปลาทั้งหัวปลาทู หัวปลาดุกย่าง และหัวปลากรอบลงต้มให้หอม ถ้ามีผงฮอนดาชิก็ใส่ลงไปด้วย กรองเอาแต่น้ำไว้ 4 ถ้วย ต้มน้ำสต๊อกปลาให้เดือด ใส่ปลาย่างแกะเป็นชิ้นๆ และปลากรอบตำละเอียดลงต้ม
  4. ปรุงรสโดยใส่น้ำพริกที่ผัดไว้ลงไปให้ได้ความเผ็ดที่ทนได้ เติมน้ำตาลปี๊บลงไปนิดหน่อย แล้วตักน้ำไตปลาที่ต้มไว้ค่อยๆ เติมให้ได้ความเค็มที่ต้องการ ใส่มะกรูดผ่าครึ่ง (แคะเมล็ดออก) ต้มให้เข้าน้ำเข้าเนื้อ ปรับระดับความข้นใสได้ตามชอบ เติมน้ำอีกนิดหน่อย
  5. ปรุงรสปรุงกลิ่นโดยใส่ใบมะกรูดฉีกและบีบน้ำมะกรูดอีกครึ่งที่เหลือลงไป ใส่แค่ให้ดึงรสแหลมขึ้นมาน้ำพริกไตปลาไม่เปรี้ยวนะคะ ตักใส่ชาม โรยใบมะกรูดหั่นฝอย เป็นอันเสร็จพิธี

3. แกงเลียงใต้
ปกติเคยลิ้มลองแต่แกงเลียงภาคเหนือ มาคราวนี้ชิมแกงเลียงภาคใต้สูตรของจังหวัดกระบี่ก็อร่อยไม่แพ้กัน

คลายลมหนาวด้วย 10 เมนูแกง อาหารคอมฟอร์ทฟู้ดของนักชิม

ส่วนผสม (ดูปริมาณตามภาพ)

  • ผักบุ้งน้ำ 150 กรัม
  • สับปะรด (หวานแต่ดิบจะอร่อย) หั่นชิ้นเล็ก 1 ถ้วย
  • หยวกกล้วย หรือสายบัวหั่นชิ้นเล็ก 100 กรัม
  • ผักส้มเม่า หรือใบมะขามอ่อน 50 กรัม
  • เม็ดมะม่วงหิมพานต์ดิบ หรือเมล็ดถั่วอื่นๆ  50 กรัม
  • หน่อข่าอ่อน หรือหัวข่าหนุ่มหั่นแว่น 2-3 แว่น
  • หอมแดง 4 หัว
  • กะปิ 1 ช้อนโต๊ะ
  • มะขามเปียก (ค่อยๆ เติม) 2-3 ฝัก
  • ปลาย่าง 1 ตัว
  • น้ำปลา  1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาลปี๊บ 1-2 ช้อนชา
  • พริกไทยป่น 1/2 ช้อนชา

ส่วนผสมเสริม (ตามประสาแม่บ้านมือบอน)

  • ผงฮอนดาชิ (ช่วยเสริมกลิ่นปลาย่างและทำให้น้ำแกงกลมกล่อม) 2  ช้อนชา |
  • น้ำบูดู (Sinful ไหมนี่ ไปทำลายความเชงเชงของเมนูนี้ ใครกลัวบาปก็วิรัติไปนะคะ) 2 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ

  1. ตั้งน้ำครึ่งหม้อกะพอให้ท่วมผัก ใส่มะขามเปียกแค่ครึ่งก้อน ต้มไปพร้อมกับน้ำ
  2. ตำเครื่องซึ่งมีพริกไทยป่น กะปิ หอมแดง ใส่ปลาย่างลงไปตำด้วยนิดหน่อย (อันนี้นอกตำรานะคะ) ต้นฉบับเขาน้ำใสๆ ใครอยากให้น้ำใสก็อย่าใส่ปลาลงไปตำ ใส่เครื่องตำลงไปในน้ำเดือด
  3. ใส่ผักและปลาทั้งหมดลงไป คนให้เข้ากัน พอน้ำเดือดอีกครั้งเติมน้ำปลาและน้ำตาลปี๊บเท่าหัวแม่มือ ต้มจนผักออกรสเปรี้ยวเสร็จสรรพ ชิมรสดูเหมือนที่กินตอนอยู่กระบี่ แต่สมาชิกในบ้านส่ายหน้าไปมา ว่าแล้วเราก็เติม ฮอนดาชิ เติมน้ำบูดู เติมดอกเกลืออีกหน่อย พี่น้องแซ่ซ้องล้อมวงทันที เม็ดมะม่วงหิมพานต์อร่อยมากค่ะ

4. แกงขี้เหล็กรสเข้มข้นเนื้อแก้มวัวตุ๋นจนนุ่ม
แม้จะมีรสขมเล็กๆ แต่นั่นก็เป็นเสน่ห์ของแกงขี้เหล็ก

คลายลมหนาวด้วย 10 เมนูแกง อาหารคอมฟอร์ทฟู้ดของนักชิม

ส่วนผสม (สำหรับ 2 ที่)

  • แก้มวัวไทยตุ๋น
  • พริกแกงขี้เหล็ก
  • ใบและดอกขี้เหล็ก 1 ถ้วย
  • กะทิสด 1 ถ้วย
  • น้ำคั้นใบย่านาง 1 ถ้วย
  • น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำปลาอย่างดี 2 ช้อนโต๊ะ
  • ปลาอินทรีเค็มทอดโขลกละเอียด 1 ชิ้นเล็ก

ส่วนผสมและวิธีทำน้ำพริกแกงขี้เหล็ก

  1. พริกแห้งเอาเมล็ดออกแช่น้ำ 10-12 เม็ด โขลกกับพริกกะเหรี่ยงแดง 5 เม็ด (ปรับรสเผ็ดมากน้อยได้ตามชอบ) กระเทียมไทย 1 หัว หอมแดง 3-4 หัว กระชายครึ่งราก ข่าแก่หั่นซอย 3-4 แว่น ตะไคร้ซอย 1 ต้น ผิวมะกรูด 1-2 ผล กะปิเคยใต้ 1 ช้อนชา เกลือแกงหรือดีเกลือ 1/2 ช้อนชา

วิธีทำ

  1. ล้างแก้มวัวให้สะอาด จี่บนกระทะใช้ไฟแรง พอเริ่มตึงนำไปต้มกับเครื่องสมุนไพร เช่น หอมแดง ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด อย่างละเล็กน้อยจนเนื้อแก้มวัวเปื่อย (แต่ไม่เละ)
  2. ใส่กะทิและพริกแกงลงหม้อ เคี่ยวจนแตกมัน ใส่ส่วนผสมที่เหลือทั้งหมด เคี่ยวต่อด้วยไฟอ่อนจนแก้มวัวเปื่อยตามที่ต้องการ ชิมรส

5. แกงรวมมิตรปลากดกรอบ อาหารพื้นบ้านน่ากิน
ใครชอบอาหารพื้นบ้านต้องลองชามนี้ ทำจากปลากดกรอบและผักต่างๆ ตามใจชอบ

คลายลมหนาวด้วย 10 เมนูแกง อาหารคอมฟอร์ทฟู้ดของนักชิม

เครื่องปรุง

  • ปลากดกรอบ 1 ตัว
  • เครื่องแกง
  • ผักหวาน ผักอ่อมแซบ ชะอม ต้นหอม
  • ฟองเต้าหู้แช่น้ำหั่นเป็นท่อน
  • เห็ดฟางหรือเห็ดอื่นๆ
  • เม็ดมะม่วงหิมพานต์ดิบ
  • ผักอื่นๆ ตามชอบ
  • ผงฮอนดาชิประมาณ 2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาลโตนด 1 ช้อนชา
  • น้ำปลาและเกลือ
  • น้ำสต๊อก 2 ลิตร ++

ส่วนผสมเครื่องแกง

  • ตะไคร้ซอย 2 ต้น (ประมาณ 5 ช้อนโต๊ะ)
  • หอมแดง 4 ช้อนโต๊ะ
  • กระเทียม 2 ช้อนโต๊ะ
  • กะปิ 1 ช้อนโต๊ะ
  • รากผักชี 2 ราก
  • ผงลาบเหนืออย่างเผ็ด 2 ช้อนชา (ถ้าไม่มีให้แทนด้วยพริกป่นและพริกหอมป่น

วิธีทำ

  1. อบหรือย่างปลากรอบให้หอม แกะเอาเนื้อเก็บไว้ นำกระดูกไปต้มในหม้อน้ำสต๊อก
  2. ตำเครื่องแกงให้แหลก
  3. ตำเนื้อปลากรอบหยอกๆ ให้เหลือเป็นชิ้นๆ บ้าง
  4. ตั้งน้ำสต๊อกให้เดือด ใส่เครื่องแกงและปลากรอบลงไปต้มให้สุก ใส่ฟองเต้าหู้ ปรุงรสด้วยน้ำตาล น้ำปลา เกลือ และผงฮอนดาชิ ถ้าชอบเผ็ดให้เติมพริกลาบเหนือ (ควรคั่วใหม่และตำให้มีกลิ่นหอม)
  5. เติมผักต่างๆ พอผักสุกก็ตักใส่ชามได้เลย กินร้อนๆ หอมกลิ่นปลากรอบอบอวล

6. แกงอ่อมไก่บ้าน ตำรับเชฟพล ตัณฑเสถียร
ใช้ไก่บ้านตัวเล็กสับพร้อมกระดูก นำไปคั่วพร้อมกับพริก หอม และตะไคร้ ปรุงรสให้นัวด้วยน้ำปลาร้า

คลายลมหนาวด้วย 10 เมนูแกง อาหารคอมฟอร์ทฟู้ดของนักชิม

ส่วนผสม

  • ตะไคร้ 30 กรัม
  • พริกจินดา  30  กรัม
  • หอมแดง 40 กรัม
  • ไก่บ้าน 1 ตัว
  • น้ำสะอาด 800 มิลลิลิตร
  • น้ำปลาร้า 5 ช้อนโต๊ะ
  • ฟักทอง 200 กรัม
  • มะเขือเปราะ 4 ผล
  • กะหล่ำปลี 150 กรัม
  • ถั่วฝักยาว 80 กรัม
  • เห็ด 70 กรัม
  • ใบมะกรูด 5 ใบ
  • ผักชีลาว 4 ต้น
  • ข้าวเบือ 4 ช้อนโต๊ะ
  • ต้นหอม 4 ต้น
  • ใบแมงลัก 50 กรัม

วิธีทำ

  1. โขลกตะไคร้ พริกจินดา และหอมแดงแค่พอหยาบๆ นำไปคั่วในหม้อใบใหญ่ด้วยไฟกลางจนหอมดี
  2. สับไก่ทั้งกระดูก นำลงไปรวนกับสมุนไพรให้ผิวไก่สุกดี ใส่น้ำปลาร้าลงไป ผัดเล็กน้อย ใส่น้ำสะอาดตาม รอให้เดือดแล้วปิดฝาลดไฟ ต้มต่อ 10 นาที
  3. ใส่ฟักทองและมะเขือเปราะ ต้มต่อ 3 นาที ใส่กะหล่ำปลี ถั่วฝักยาว เห็ด ผักชีลาว และฉีกใบมะกรูดใส่ลงไป ต้มต่อ 2 นาที ใส่ข้าวเบือ และต้นหอม คนเล็กน้อย
  4. ปิดไฟ ใส่ใบแมงลัก คนให้กระจายทั่วดี พร้อมรับประทาน

7. แกงอ่อมเนื้อติดมัน ใส่ผักพื้นบ้านสไตล์อีสาน
ใช้เนื้อติดมันฟินๆ ผัดกับพริกแกงที่เต็มไปด้วยสมุนไพร ใส่น้ำปลาร้า เติมประโยชน์ด้วยผักพื้นบ้านต่างๆ

คลายลมหนาวด้วย 10 เมนูแกง อาหารคอมฟอร์ทฟู้ดของนักชิม

ส่วนผสม (สำหรับ 4 ที่)

  • เนื้อสันนอกผสมเนื้อติดมันหั่นชิ้นพอคำ 500 กรัม
  • ตะไคร้ซอย 1/2 ถ้วย
  • พริกแห้งเม็ดเล็กแช่น้ำ 15 เม็ด
  • ข่าหั่นชิ้นเล็ก 2 ช้อนโต๊ะ
  • หอมแดง 1/2 ถ้วย
  • ใบมะกรูด 5 ใบ
  • น้ำปลาร้า 1/4 ถ้วย
  • ข้าวคั่ว 1-2 ช้อนโต๊ะ
  • มะเขือเปราะผ่า 4 (แช่น้ำเกลือ) 6-8 ผล
  • ผักกาดหิ่น ผักกวางตุ้งดอก ต้นหอม ผักชีลาว และใบแมงลัก ปริมาณตามชอบ

วิธีทำ

  1. ตำตะไคร้ พริกแห้ง ข่า และหอมแดงให้แหลกพอหยาบๆ
  2. ใส่เครื่องที่ตำลงในหม้อ คั่วให้พอมีกลิ่นหอม ใส่เนื้อ น้ำปลาร้า และใบมะกรูด รวนให้เนื้อพอสุกและมีกลิ่นหอม เติมน้ำเปล่าให้พอท่วมเนื้อ
  3. ต้มจนเนื้อนุ่ม (ถ้าน้ำน้อยค่อยๆ เติม) พอน้ำเดือด ใส่มะเขือเปราะ ปิดฝาให้เนื้อและมะเขือสุก ใส่ผักกาดหิ่น ผักกวางตุ้งดอก ต้นหอม ผักชีลาว และใบแมงลัก ต้มจนผักสุก ชิมและปรุงรสเพิ่มตามชอบ ใส่ข้าวคั่ว คนให้เข้ากัน ตักใส่ชาม

8. แกงขั้วส้ม
แกงใส่กะทิรสหวานผสานเปรี้ยว ปัจจุบันหารับประทานยากแล้ว

คลายลมหนาวด้วย 10 เมนูแกง อาหารคอมฟอร์ทฟู้ดของนักชิม

ส่วนผสม

  • กะทิประมาณ 4-5 ถ้วย (มะพร้าว 1 กิโลกรัม)
  • เป็ดย่างหั่นเป็นชิ้น 450 กรัม
  • ผักบุ้งไทย 700 กรัม
  • น้ำปลา
  • น้ำส้มมะขาม
  • น้ำตาลปึก
  • เกลือป่น
  • ใบมะกรูดฉีก 1-2 ใบ
  • น้ำมะกรูด 1 ลูก

ส่วนผสมน้ำพริกแกง

  • หอมแดง 35 กรัม
  • กระเทียม 35 กรัม
  • พริกแห้งบางช้าง 8 เม็ด
  • ตะไคร้ซอย 40 กรัม (ใช้ส่วนปลายด้วย)
  • ข่า 35 กรัม
  • รากผักชี 1 ราก (ไม่ใส่ก็ได้ ถ้าเป็นปลาจะใส่เพื่อไม่ให้มีกลิ่นคาว)
  • ผิวมะกรูด 1/2 ลูก
  • พริกไทยป่น 1/2 ช้อนชา

วิธีทำ

  • กรีดพริกแห้ง เอาเมล็ดออก แช่น้ำจนนุ่ม หั่นฝอย พักไว้ หั่นและซอยส่วนผสมน้ำพริกแกงที่เหลือ เตรียมไว้
  • ตำพริกกับเกลือจนแหลก ใส่ส่วนผสมน้ำพริกแกงที่เหลือ ตำจนละเอียด พักไว้
  • ตัดโคนผักบุ้งที่แก่ออก ริดใบเก็บไว้ หั่นเป็นท่อน ล้างให้สะอาด พักไว้
  • ต้มกะทิจนเดือด ตักหัวกะทิออกให้มากที่สุด ใส่น้ำพริกที่ตำไว้ (ใส่เพียง 1/2 ส่วนของที่ตำไว้) ใส่เป็ดลงต้มกับกะทิจนเนื้อเป็ดนุ่ม
  • ใส่ก้านผักบุ้ง ต้มจนสุกนุ่มแล้วจึงใส่ใบ ใส่เกลือ น้ำปลา น้ำตาล และน้ำส้มมะขาม ชิมรสให้ออกเปรี้ยว หวาน เค็ม
  • ยกลงจากเตา ใส่ใบมะกรูดฉีกและน้ำมะกรูด

9. แกงส้มใส่แหนม
แกงส้มสไตล์ภาคเหนือใส่ยอดผักปลัง แหนม และเนื้อหมูบด

คลายลมหนาวด้วย 10 เมนูแกง อาหารคอมฟอร์ทฟู้ดของนักชิม

ส่วนผสม

  • ยอดผักปลังหรือผักอื่นๆ 300 กรัม
  • แหนมประมาณ 150 กรัม
  • เนื้อหมูบดหรือเนื้อวัว 100 กรัม
  • น้ำเปล่า
  • น้ำปลาร้าต้มแล้ว (ทำจากปลากระดี่) 1 ช้อนโต๊ะ
  • เกลือและน้ำปลา
  • น้ำมะกรูดและน้ำมะนาว (ไม่ใช้น้ำมะขามเปียก)

ส่วนผสมพริกแกง

  • พริกขี้หนูแดง 30 กรัม (เพิ่มลดได้ตามชอบ)
  • หอมแดง 20 กรัม
  • กระเทียมไทย 10 กรัม
  • น้ำปลาร้าต้มแล้ว (ทำจากปลากระดี่)
  • กะปิอย่างดี 1 ช้อนโต๊ะ
  • ขมิ้นแง่งเล็กๆ 1 นิ้ว
  • ดอกเกลือนิดหน่อย

วิธีทำ

  1. ตั้งหม้อ ใส่น้ำไม่ต้องมาก กะพอท่วมผัก เด็ดแหนมพอดีคำใส่ลงไปต้ม ใช้มือเด็ดเพราะไม่ต้องการให้หนังหมูขาด (เทคนิคนี้อาจารย์สุวรรณี สุคนธา สอนไว้นานแล้ว แต่ทำให้แหนมต้มน่ากิน) ต้มไฟอ่อนๆ ไปเรื่อยๆ จนน้ำเปรี้ยว ปิดไฟ
  2. ระหว่างต้มแหนมก็ตำพริกแกง คนตำเก่งๆ ครู่เดียวก็ละเอียด เอาพริกแกงใส่หม้อต้มแหนม ต้มจนพริกแกงส่งกลิ่นหอม ปรุงรสด้วยเกลือ น้ำปลา น้ำปลาร้าต้ม น้ำมะกรูดและน้ำมะนาว น้ำแกงที่เปรี้ยวจะสกัดไม่ให้ยางไหลออกจากผักปลัง (เทคนิคนี้ไม่ควรใช้กับกระเจี๊ยบเพราะกระเจี๊ยบรับรสยากกว่าผักปลัง ถ้าทำแกงด้วยกระเจี๊ยบต้องให้กระเจี๊ยบรับรสเค็มหวานก่อนแล้วจึงรีบใส่รสเปรี้ยวเพื่อหยุดยั้งเมือก)
  3. ใส่หมูสับ ต้มพอสุก วันนี้เราใส่เนื้อหั่นบางๆ ก็ใส่เนื้อลงไปและตามด้วยผักทันที แกงไฟแรงๆ พอผักสุกก็ปิดไฟ

10. แกงส้มปลาดุกทะเลหน่อไม้ดอง
สายฟู้ดส่วนใหญ่จะรู้จักกันในชื่อ “แกงเหลือง” รสเปรี้ยวเค็มเผ็ด หวานนิดๆ

คลายลมหนาวด้วย 10 เมนูแกง อาหารคอมฟอร์ทฟู้ดของนักชิม

ส่วนผสม (สำหรับ 4 ที่)

  • ปลาดุกทะเลหั่นเป็นชิ้น 4-5 ชิ้น
  • หน่อไม้ดอง (ล้างให้สะอาด) 1 ถ้วย
  • น้ำมะขามเปียก 1/4 ถ้วย
  • น้ำตาลปี๊บ 2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำมะนาวเล็กน้อย
  • เกลือทะเลสำหรับปรุงร

ส่วนผสมน้ำพริกแกงส้ม

  • พริกขี้หนูสด 1/2 ถ้วย
  • กระเทียม 1/4 ถ้วย
  • หอมแดง 1/4 ถ้วย
  • กะปิ 1 ช้อนโต๊ะ
  • ขมิ้นหั่น 1/4 ถ้วย
  • เกลือเล็กน้อย

วิธีทำ

  1. ตำพริกกับเกลือจนพริกเริ่มแหลก ​ใส่กระเทียม​และขมิ้น ตำจนละเอียด ใส่หอมแดง ตำให้เข้ากัน ใส่กะปิจนได้เป็นน้ำพริกแกงส้ม​
  2. ต้มน้ำในหม้อพอเริ่มเดือด (ไม่เดือดพล่าน) ใส่เครื่องแกงลงในหม้อ​ ตามด้วยน้ำมะขามเปียกพอเดือด ใส่น้ำตาลปี๊บและหน่อไม้ดอง รอจนเดือด​ ใส่ปลาดุกทะเล ต้มจนสุก​ ชิมและปรุงรสเพิ่มตามชอบ ถ้าไม่เค็มเติมเกลือ เติมน้ำมะนาวเพื่อเพิ่มกลิ่นหอม

Tag : รวมสูตรอร่อย, เมนูฤดูหนาว, เมนูแกง, แกง

เรื่องโดย

คะแนนและรีวิว


0.0 จาก 5

ให้คะแนนและเขียนรีวิว

ยังไม่มีรีวิว

ความคิดเห็น

Editor’s Pick

Recent

Most Viewed