“กะทิ” หนึ่งในวัตถุดิบที่ชาวไทยคุ้นเคย สามารถครีเอทเมนูอาหาร ของหวานและเครื่องดื่ม รสหอมมันกินอร่อย ใครกำลังดูสูตรว่าจะเมนูไหนเราขอเสนอ 9 เมนูกะทินี้เลย มาครบทั้งคาว-หวานเลยนะ

★1. ผักต้มกะทิ★
นี่เป็นกรรมวิธีการทำอาหารของภาคใต้ กินคู่กับน้ำพริกกะปิเข้ากันดี

ส่วนผสม

• กะทิกล่อง 1 ลิตร
• น้ำเปล่า 300 มิลลิลิตร
• หัวหอม 15 หัว
• กุ้งสดแกะเปลือกไว้หาง 300 กรัม
• ดอกโสน
• หัวปลี
• ผักเหลียง

วิธีทำ

1. แบ่งกะทิเป็น 3 ส่วนเท่าๆ กัน ต้มกะทิ 333 มิลลิลิตรกับน้ำเปล่า 100 มิลลิลิตรให้เดือด ใส่หัวหอมทุบ 5 หัวและกุ้ง 100 กรัมลงไปลวกพอกุ้งสุก ตักกุ้งขึ้น ทิ้งหัวหอมไว้ในหม้อ
2. พอกะทิเดือดอีกครั้งลวกผักเหลียงให้สุก ตักขึ้นใส่ภาชนะ ใส่น้ำกะทิลงไปให้เกือบท่วม วางกุ้งที่ลวกไว้บนผัก
3. ทำตามขั้นตอนเดิมจนได้ผักต้มกะทิ 3 ชามเตรียมไว้กินกับน้ำพริกกะปิ

★2. ต้มกะทิไก่กับมะม่วงเปรี้ยว★
ซุปที่อยู่ระหว่างซุปข้นและซุปใส กะทิคั้นเองสดๆ ผสานกับน้ำซุปไก่รสกลมกล่อม ตักกินพร้อมเนื้อไก่ฉีก และมะม่วงเปรี้ยว

ส่วนผสมน้ำซุปกะทิ

• หัวกะทิ 600 กรัม
• น้ำสต๊อกไก่ 800 กรัม
• ดอกเกลือ 2 หยิบมือ
• ตะไคร้ 50 กรัม
• หอมแดง 40 กรัม
• ใบมะกรูด 5 กรัม
• รากผักชี 12 กรัม
• ยี่หร่า 3 กรัม
• ลูกผักชี 3 กรัม
• กระเทียมจีนสไลซ์บาง ทอดกรอบ 8 กรัม
• กระเทียมดอง 40 กรัม
• น้ำกระเทียมดอง 60 กรัม
• โครงไก่ 500 กรัม

วิธีทำ

1. ลวกโครงไก่และล้างให้สะอาด ตั้งหม้อ ใส่กะทิ น้ำสต๊อกไก่ โครงไก่ และส่วนผสมทั้งหมดลงไป ตั้งไฟรุมๆ อย่าให้เดือดแรง ต้มจนข้นได้ระดับมีกลิ่นหอม ชิมรส กรอง พักไว้

ส่วนผสมสำหรับเสิร์ฟ

• เนื้ออกไก่ต้มสุก ฉีกเป็นเส้น 30 กรัม
• ใบมะกรูด 1 กรัม
• มะม่วงเปรี้ยวซอยเป็นเส้น 20 กรัม
• หอมแดงบุบ 3 กรัม
• น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
• กระเทียมไทยซอยเจียวเล็กน้อย

1. ต้มน้ำซุปกะทิที่เตรียมไว้ ใส่ใบมะกรูดฉีกและหอมแดงบุบ ต้มให้เดือด
2. ใส่เนื้ออกไก่ คนจนสุก ปรุงรสด้วยน้ำปลา ใส่มะม่วงเปรี้ยว คนให้เข้ากัน
3. ตักเสิร์ฟ โรยกระเทียมเจียว

★3. สายบัวต้มกะทิใส่มะพร้าวอ่อน★
สายบัว ปลาสลิดและใส่มะพร้าวอ่อน อยู่ในน้ำกะทิรสนุ่ม กลมกล่อม

ส่วนผสม

• สายบัว 500 กรัม
• ปลาสลิด 2 ตัว
• ปลาทูนึ่ง 2 ตัว
• น้ำซุปกระดูกหมู 4 ถ้วย
• มะพร้าวอ่อน 1-2 ผล
• มะพร้าวทึนทึก (แก่) 1 ผล (ใช้กะทิธรรมดาก็ได้)
• น้ำตาลปี๊บ 65 กรัม
• ตะลิงปลิง (ไม่ใส่ก็ได้)
• ดอกเกลือ น้ำมะขามเปียก และน้ำปลาสำหรับปรุงรส

ส่วนผสมเครื่องแกง

• หอมแดงขนาดกลาง 5 หัว
• กะปิดี 2 ช้อนชา
• เมล็ดพริกไทย 1 ช้อนชา
• รากผักชี (อวบ) 1 ราก

วิธีทำ

1. แช่ปลาสลิดในน้ำส้มสายชู  30 นาทีเพื่อฆ่าสารแปลกปลอม เสร็จแล้วล้างน้ำ ซับให้แห้ง นำไปอบหรือย่างพอให้สุกมีกลิ่นหอม
2. โขลกเครื่องแกงเตรียมไว้
3. ต่อยมะพร้าวทึนทึก ถ้าไม่มีที่ขูดมะพร้าวให้ใช้ตีนแมวขูดออกมา หรือต่อยเอาเปลือกออกแล้วใช้มีดปาดส่วนที่เป็นสีน้ำตาลออกให้หมด ใส่เนื้อมะพร้าวขาวลงในเครื่องปั่น ใส่น้ำมะพร้าวลงไปทั้งลูก ปั่นจนละเอียด เทใส่ผ้าขาวบาง คั้นน้ำกะทิออกมาให้หมด ตั้งทิ้งไว้ พอมันลอยหน้าก็ช้อนแยกหัวและหางกะทิ (ถ้าใช้มะพร้าวแก่ก็ซื้อจากตลาดได้เลย หรือใช้กะทิกล่องก็ได้)
4. เฉาะมะพร้าวอ่อน ตักเนื้อมะพร้าวไว้แกง ถ้ามะพร้าวแก่ตักไม่ไหวใช้มีดหั่นเป็นเส้น
5. ผสมน้ำซุปกระดูกหมูกับหางกะทิ ตั้งไฟ ใส่เครื่องแกงลงไปต้มให้เดือด
6. ใส่ปลาสลิด ปลาทูนึ่ง และตะลิงปลิง ต้มให้เดือด ลดไฟอ่อน ต้มต่อให้น้ำแกงเข้าเนื้อปลา ปรุงรสด้วยน้ำตาลปี๊บก่อน รอจนน้ำตาลละลายแล้วจึงใส่เกลือ น้ำมะขามเปียก และน้ำปลา ใส่สายบัวและเนื้อมะพร้าวอ่อน ต้มจนสุกก็เป็นอันกินได้

★4. ข้าวเม่ารางน้ำกะทิ★
นี่เป็นของหวานโบราณหารับประทานยาก ข้าวเม่าข้าวเหนียว ฟักทอง เผือก เข้าปากพร้อมน้ำกะทิรสครีมมี หวานมัน หอมกลิ่นควันเทียน

ส่วนผสม

• ข้าวเม่าข้าวเหนียวอย่างดี 250 กรัม
• ฟักทอง 150 กรัม
• เผือก 150 กรัม
• กะทิ 4 ถ้วย
• น้ำตาลปี๊บ 1/2 ถ้วย
• เกลือป่น 1/2 ช้อนชา
• เทียนอบ
• น้ำแข็งบุบก้อนเล็กๆ

วิธีทำ

1. คั่วข้าวเม่าด้วยกระทะ ใช้ไฟกลางค่อนข้างแรง คั่วตลอดเวลาจนข้าวเม่าพอง และค่อยๆ เปลี่ยนสี ลดเป็นไฟกลาง คั่วต่อจนกรอบ สีจะเปลี่ยนเป็นสีนวลอ่อนๆ พักไว้ให้เย็น ใส่กล่องปากกว้าง อบควันเทียนไว้
2. ปอกเปลือกฟักทองและเผือก หั่นเป็นชิ้นพอดีคำ นึ่งในน้ำเดือนไฟแรงจนสุก พักไว้
3. ทำน้ำกะทิโดยเทกะทิใส่หม้อ ใส่น้ำตาลปี๊บ คนให้น้ำตาลละลาย ชิมให้ได้รสหวานตามชอบ ใส่เกลือป่น ตั้งไฟ พอเดือดยกลง คนต่อไปอีกครู่ (เพื่อไม่ให้กะทิจับตัวเป็นลูก) พักไว้ให้เย็น
4. ตักเผือก ฟักทองใส่ถ้วย ราดน้ำกะทิ โรยข้าวเม่าราง ใส่น้ำแข็งบุบ  

★5. วุ้นกะทิมะพร้าวอ่อน★
จะขาดเมนูนี้ไปได้อย่างไร วุ้นกะทิเนื้อเด้ง รสหวานพอดี ทำเป็นรูปทรงดอกไม้สวยงาม

ส่วนผสม

• ผงวุ้น 1 1/2 ช้อนโต๊ะ
• เนื้อมะพร้าวอ่อน 1 ถ้วย
• น้ำเปล่า 1 1/2 ถ้วย
• น้ำตาลทราย 1/2 ถ้วย
• เกลือป่น 1/8  ช้อนชา
• กะทิ 1  ถ้วย

วิธีทำ

1. เทน้ำมะพร้าวอ่อนลงในหม้อ ใส่ผงวุ้น คนให้เข้ากัน เปิดไฟปานกลาง คนไปเรื่อยๆ จนผงวุ้นละลายหมด
2. ใส่น้ำตาล เกลือป่น คนให้ละลายหมดและเดือดสักครู่ ลดไฟอ่อน
3. ใส่กะทิ เนื้อมะพร้าวอ่อน คนให้เข้ากัน
4. เทใส่พิมพ์รูปดอกไม้ พักไว้ให้แข็ง นำออกจากพิมพ์ แช่เย็นไว้

★6. วุ้นเค้กกะทิใบเตย★
เมนูนี้ก็เป็นวุ้นกะทิเช่นกัน แต่หากทำเป็นรูปทรงเค้กให้ดูทันสมัย

ส่วนผสมวุ้นใบเตย

• ผงวุ้น 1 ช้อนโต๊ะ
• น้ำใบเตย 1/4 ถ้วย
• น้ำเปล่า 1 3/4 ถ้วย
• น้ำตาลทราย 1/2 ถ้วย

ส่วนผสมวุ้นกะทิ

• ผงวุ้น 2 1/2 ช้อนโต๊ะ
• น้ำเปล่า 3 1/2 ถ้วย
• เกลือป่น 1/2 ช้อนชา
• น้ำตาลทราย 3/4 ถ้วย
• กะทิ 1 1/4 ถ้วย

วิธีทำ 

1. ทำวุ้นใบเตยโดยใส่ผงวุ้นลงในน้ำเปล่า คนให้เข้ากัน ตั้งไฟปานกลางให้เดือดจนวุ้นละลายหมด
2. ใส่น้ำตาล คนให้ละลายหมดและเดือดสักครู่ ใส่น้ำใบเตย คนให้เข้ากัน ยกลง
3. เทใส่ภาชนะ พักไว้ให้เย็นและแข็ง ตัดเป็นชิ้นสี่เหลี่ยม  
4. ทำวุ้นกะทิโดยเทผงวุ้นในน้ำเปล่า คนให้เข้ากัน ตั้งไฟปานกลางให้เดือดจนผงวุ้นละลายหมด
5. ใส่น้ำตาล เกลือ กะทิ คนให้เข้ากัน ยกลง แล้วคนต่อสักครู่ให้คลายความร้อน
6. เรียงวุ้นใบเตยที่ตัดเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมครึ่งหนึ่งใส่พิมพ์เค้กขนาด 8 นิ้ว 
7. เทวุ้นกะทิอุ่นๆ ให้ท่วมวุ้นใบเตย พักไว้พอหน้าวุ้นตึงตัว
8. เรียงวุ้นใบเตยที่เหลืออีกครั้ง เทวุ้นกะทิใส่ให้เต็มพิมพ์ พักไว้จนวุ้นแข็ง แช่เย็นก่อนเสิร์ฟ ตัดเป็นชิ้น จัดใส่จาน เสิร์ฟ

★7. วุ้นกะทิลูกตา หวานกรอบสดใส★
วุ้นกะทิลูกตาที่ดัดแปลงมาจากเจลลีลูกตา รสชาติหวานกรอบ สีสดใส น่าจะถูกใจเด็กๆ

ส่วนผสม

• ผงวุ้น 4 ช้อนชา
• กะทิ 1 ถ้วย
• น้ำเปล่า 1 1/2 ถ้วย
• น้ำตาลทราย 1/2 ถ้วย
• เกลือป่น 1/4 ช้อนชา
• สีผสมอาหารสีดำ ฟ้า ชมพู เขียว

วิธีทำ

1. แช่ผงวุ้น 1 1/2 ช้อนชาในน้ำเปล่า 1/2 ถ้วยประมาณ 5 นาที ตั้งไฟให้เดือดจนวุ้นละลายหมด ใส่น้ำตาล 1 ช้อนโต๊ะ คนให้เข้ากันจนละลายหมด
2. แบ่งน้ำวุ้นเป็น 4 ส่วน จากนั้นใส่สีผสมอาหารลงไปส่วนละ 1 สีแล้วคนให้เข้ากัน เทใส่จานมีขอบ พักไว้ให้แข็งตัว
3. กดวุ้นสีดำด้วยหลอดให้เป็นชิ้นกลมเล็กๆ สำหรับทำเป็นลูกตาดำ ส่วนวุ้นสีใช้พิมพ์วงกลมกดทำเป็นม่านตา เตรียมไว้
4. ต้มน้ำกับผงวุ้นที่เหลือจนเดือดและวุ้นละลายหมด ใส่น้ำตาลที่เหลือ และเกลือ ต้มจนเดือดอีกครั้งแล้วใส่กะทิ คนให้เข้ากัน ยกลง
5. วางวุ้นสีลงในพิมพ์ทำน้ำแข็งด้านที่ไม่มีรู กดเบาๆ ให้แผ่นวุ้นแนบกับพิมพ์ วางวุ้นสีดำลงไปตรงกลางกดเบาๆ
6. ค่อยๆ ตักวุ้นกะทิใส่จนเต็มพิมพ์ กดพิมพ์ด้านที่มีรูจนน้ำวุ้นออกจากรูด้านบน มัดด้วยยางแล้วนำไปแช่เย็นไว้ 5-10 นาทีจนวุ้นแข็งตัว
7. ค่อยๆ แกะออกจากพิมพ์ จัดใส่จาน

★8. กล้วยทับน้ำเชื่อมกะทิมะพร้าวอ่อน หอมเข้มข้น หวานมัน★
ใช้กล้วยน้ำว้าห่ามมาทำเป็นกล้วยทับปิ้งแสนอร่อย จิ้มซอสกะทิหอมหวาน

ส่วนผสม

• กล้วยน้ำว้าห่าม 10 ผล       
• เนื้อมะพร้าวอ่อนขูดเป็นเส้น 1 ถ้วย
• น้ำตาลมะพร้าว 1/2 ถ้วย
• กะทิ 3/4 ถ้วย
• เกลือป่น 1/4 ช้อนชา

วิธีทำ

1. ปอกเปลือกกล้วย หั่นเป็นแว่นหนาประมาณ 1 นิ้ว นำไปย่างในกระทะย่าง ใช้ไฟค่อนข้างอ่อน จนสุก
2. นำกล้วยย่างใส่ถุงพลาสติกหรือพลาสติกใส ใช้ไม้นวดแป้งหรืออุปกรณ์ที่มีน้ำหนักกดให้กล้วยย่างแบน เตรียมไว้
3. ทำน้ำราดโดยต้มกะทิ ใส่น้ำตาลมะพร้าว และเกลือ ต้มให้เข้ากันจนน้ำตาลละลายหมด  
4. ใส่มะพร้าวอ่อน คนให้เข้ากัน พักไว้ให้เย็น
5. จัดกล้วยย่างใส่จาน ราดด้วยน้ำเชื่อมกะทิมะพร้าวอ่อน 

★9. มิลก์เชกไอศกรีมกะทิกับรวมมิตร★
ไอศกรีมกะทิสดปั่นรวมกับนม กินกับเครื่องรวมมิตร ได้แก่ ทับทิมกรอบ ลูกชิด มันเชื่อม เมล็ดข้าวโพดหวานต้ม และมะพร้าวกะทิ

ส่วนผสม

• แห้วดิบหั่นชิ้นสี่เหลี่ยมเล็ก 1 ถ้วย
• แป้งมันสำปะหลัง 1 ถ้วย
• น้ำดอกอัญชันผสมน้ำมะนาวเล็กน้อย 1 ช้อนโต๊ะ
• น้ำหวานสีแดง 1 ช้อนโต๊ะ
• นมสด 1/4 ถ้วย
• น้ำเชื่อม 1/2 ถ้วย
• น้ำแข็งป่น 2 ถ้วย
• ไอศกรีมกะทิ 3 สกูป
• เครื่องรวมมิตร เช่น ลูกชิด มันเชื่อม เมล็ดข้าวโพดหวาน มะพร้าวกะทิ ปริมาณตามชอบ

วิธีทำ

1. ทำทับทิมกรอบโดยแช่แห้วไว้ในน้ำดอกอัญชันและน้ำหวานสีแดงสักครู่ให้สีติด ตักขึ้น คลุกกับแป้งมันให้ทั่ว ร่อนแป้งออกเล็กน้อย ต้มในน้ำเดือดจัด เมื่อลอยขึ้นตักใส่น้ำเย็นจัด พักไว้ให้สะเด็ดน้ำ
2. ปั่นนมสด น้ำเชื่อม น้ำแข็งป่น และไอศกรีมกะทิรวมกันจนละเอียดเนียนเป็นมิลก์เชก เทใส่แก้ว
3. ใส่ไอศกรีมกะทิ ตกแต่งหน้าด้วยทับทิมกรอบและเครื่องรวมมิตรตามชอบ

Tag : กะทิ, รวมสูตรอร่อย