10 เมนูปลากะพง รสชาติดี มีทั้งไทยและเทศ

วันที่ 24 มิถุนายน 2564  22,800 Views (4 รีวิว)

“ปลากะพง” หนึ่งในปลาที่คนไทยคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี สามารถรังสรรค์ได้หลากหลายเมนู ทั้งทอด ต้ม นึ่ง อร่อย แถมยังไขมันมันน้อย ถูกใจสายสุขภาพ ครั้งนี้ G&C มี 10 เมนูปลากะพง รสชาติดีมานำเสนอ มีทั้งอาหารไทยและอาหารนานาชาติ เอาใจฟู้ดดี้กันเต็มๆ

★ 1. ปลากะพงแดงต้มข่ากับน้ำพริกแมงดาและหมกเห็ดโคน ★

ปลากะพงแดงต้มข่ากับน้ำพริกแมงดาและหมกเห็ดโคน

ปลากะพงเนื้อนุ่ม สดเด้ง หอมซอสต้มข่า เพิ่มรสชาติด้วยน้ำพริกตาแดงแมงดาและหมกเห็ดโคน

ส่วนผสมปลา

  • เนื้อปลากะพงแดง   120  กรัม
  • ข่า   3-4   แว่น
  • ตะไคร้   2   ต้น
  • ใบมะกรูด   3-4   ใบ
  • หอมแดง   4-5   หัว
  • กะทิ   1   ถ้วย
  • น้ำสต๊อกปลา   1   ถ้วย
  • เกลือและน้ำมะนาว

ส่วนผสมน้ำพริกตาแดงแมงดา

  • พริกบางช้างแห้ง   7   เม็ด
  • พริกจินดาแห้ง   15   เม็ด
  • กระเทียม   25   กลีบ
  • หอมแดง   25   หัว
  • ปลากดแห้ง   1   ตัว
  • ถั่วเน่า   2   แผ่น
  • เกลือ   1   ช้อนชา
  • แมงดา   3   ตัว
  • ปลาร้า   1  ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาลปี๊บ น้ำมะนาว และน้ำมะขามเปียก

ส่วนผสมหมกเห็ด

  • ข่า   2   แว่น
  • ตะไคร้   2   ต้น
  • หอมแดง   4-5   หัว
  • ใบมะกรูด   3-4   ใบ
  • ใบแมงลัก   1   กำมือ
  • เห็ดโคน  7-8   ดอก
  • ใบตอง

วิธีทำ

  1. ต้มน้ำสต๊อกปลาให้เหลือ 1/2 ถ้วย ใส่กะทิ ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด หอมแดง ต้มไฟอ่อนที่อุณหภูมิ  70 องศาเซลเซียส ใส่ปลากะพงแดงลงต้ม ระวังอย่าให้อุณหภูมิสูงเกินไปเพราะจะทำให้เนื้อปลากระด้าง ต้มนาน 5 นาที ตักปลาขึ้นมาพักไว้
  2. กรองเครื่องสมุนไพรออกแล้วต้มน้ำซุปข่าให้ข้น ปรุงรสด้วยเกลือและน้ำมะนาว
  3. ทำน้ำพริกโดยย่างพริกบางช้าง พริกจินดา กระเทียม หอมแดง ปลากด ถั่วเน่า แมงดา และปลาร้า  ให้แห้งและหอม โขลกทุกอย่างเข้าด้วยกัน ปรุงรสด้วยน้ำตาลปี๊บ น้ำมะนาว น้ำมะขามเปียก และเกลือ
  4. ทำหมกเห็ดโดยล้างเห็ดโคน ซับน้ำให้แห้ง ห่อเห็ดและเครื่องทุกอย่างด้วยใบตอง ปิ้งหรือนึ่งจนเห็ดสุก พักไว้
  5. วางปลาบนจานพร้อมกับเห็ด ราดซอสน้ำต้มข่าที่เคี่ยวจนข้น และวางน้ำพริกตาแดง

★ 2. ปลากะพงทอดน้ำปลา 5 เครื่องเคียง ★

ปลากะพงทอดน้ำปลา 5 เครื่องเคียง

ปลากะพงทอด เนื้อกรอบนอกนุ่มใน กินกับยำมะม่วง ยำส้มโอ ยำมะเขือยาว ผัดมะเขือยาว และน้ำจิ้มซีฟู้ด

ส่วนผสมเครื่องเคียง  (สำหรับ 5 ที่)
ส่วนผสมน้ำปลาสำหรับราดปลา

  • น้ำปลาอย่างดี 1 ส่วน
  • น้ำตาลทราย 1 ส่วน
  • น้ำเปล่า 1 ส่วน

วิธีทำ

  1. ผสมส่วนผสมทั้งหมดเข้าด้วยกัน ต้มให้น้ำตาลละลาย พักไว้

ส่วนผสมน้ำจิ้มซีฟู้ด

  • รากผักชี 1/2 ถ้วย
  • กระเทียมไทยกลีบเล็ก 1/2 ถ้วย
  • พริกขี้หนูสวน (ไม่เด็ดก้าน) 25 เม็ด
  • ใบสะระแหน่ 20 ใบ
  • น้ำปลา 1/2 ถ้วย
  • น้ำตาลทราย 1/4 ถ้วย
  • น้ำตาลปี๊บ 1/4 ถ้วย
  • น้ำมะนาว 1/2 ถ้วย

วิธีทำ

  1. ตำรากผักชี กระเทียม พริกขี้หนู และใบสะระแหน่ ใส่ส่วนผสมที่เหลือ คนให้เข้ากัน

ส่วนผสมยำส้มโอ

  • ส้มโอยีให้เป็นชิ้นเล็ก 1 ถ้วย
  • พริกขี้หนูสวน 3 เม็ด
  • พริกจินดาแดง 3 เม็ด
  • กระเทียมไทย 3 กลีบ
  • น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ                                
  • น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนโต๊ะ                
  • น้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ                
  • น้ำมะขาม 2 ช้อนโต๊ะ
  • มะเขือเทศราชินี 2 ผล
  • ถั่วฝักยาวหั่นฝอย 5 กรัม

วิธีทำ

  1. คลุกเคล้าส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน

ส่วนผสมยำมะม่วง

  • มะม่วงเปรี้ยวหั่นฝอย 100 กรัม
  • หอมแดงซอย 1 ช้อนโต๊ะ
  • แครอตหั่นฝอย 10 กรัม
  • ผักชี 10 กรัม
  • ใบสะระแหน่ 10 กรัม
  • พริกจินดาแดงซอย 2 เม็ด
  • น้ำจิ้มซีฟู้ด 2 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ

  1. คลุกเคล้าส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน

ส่วนผสมยำมะเขือยาว

  • มะเขือยาวเผาลอกเปลือก 100 กรัม
  • หอมแดงซอย 10 กรัม        
  • ตะไคร้ซอย 5 กรัม
  • ต้นหอมซอย 5 กรัม
  • ผักชีฝรั่งซอย 3 กรัม
  • ผักชีเด็ดใบ 15 ใบ
  • ใบสะระแหน่ 15 ใบ
  • พริกขี้หนูสวนซอย 3 เม็ด
  • กุ้ง 2 ตัว
  • หมึกกล้วยลวก 1 ตัว
  • น้ำจิ้มซีฟู้ด 2 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ

  1. คลุกเคล้าส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน

ส่วนผสมผัดมะเขือยาว                                      

  • มะเขือยาวหั่นชิ้นเล็ก ทอดน้ำมัน 100 กรัม
  • เต้าเจี้ยว 1/2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำมันหอย 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำมันงา 1 ช้อนโต๊ะ                
  • พริกไทย 1 ช้อนชา
  • ใบโหระพา 5 กรัม        

วิธีทำ

  1. ตั้งกระทะให้ร้อน ผัดส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน

วิธีทำปลากะพงทอดน้ำปลา

  1. ตั้งกระทะ ใส่น้ำมันให้ท่วมตัวปลา รอจนน้ำมันร้อนใส่ปลาลงทอด หรี่ไฟลงปานกลาง ทอดจนหนังปลาเหลืองกรอบเป็นสีทอง ตักขึ้นแล้วดัดตัวปลาให้งอบนตะแกรง พักไว้ จัดปลาใส่จาน ราดน้ำปลาที่เตรียมไว้บนตัวปลาให้ทั่ว เสิร์ฟพร้อมเครื่องเคียงทั้ง 5 อย่าง

★ 3. แกงป่าปลากะพง ★

แกงป่าปลากะพง

แกงป่ารสเผ็ดร้อน หอมกลิ่นสมุนไพร เข้ากันดีกับเนื้อปลากระพง

ส่วนผสม (สำหรับ 1 ที่)

  • น้ำพริกแกงแดง 100 กรัม
  • เนื้อปลากะพง 150 กรัม
  • มะเขือเปราะ 2 ลูก
  • มะเขือพวง 15 ลูก
  • ใบกะเพรา 1 กำมือ
  • พริกชี้ฟ้าแดง 1 เม็ด
  • ใบมะกรูด 2 ใบ
  • พริกไทยอ่อน 2 ช่อ
  • ถั่วฝักยาว 1 ฝัก
  • กระชายหั่นฝอย 2 ราก
  • น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำซุป

ส่วนผสมน้ำพริกแกงแดง

  • หอมแดง 20 กรัม
  • ตะไคร้ 20 กรัม
  • ข่าแก่ 5 กรัม
  • พริกแห้งเม็ดใหญ่ 10 กรัม
  • พริกแห้งเม็ดเล็ก 10 กรัม
  • ใบมะกรูด 5 กรัม
  • ขมิ้นสด 3 กรัม
  • กระชาย 10 กรัม
  • กระเทียม 5 กรัม
  • รากผักชี 5 ต้น

วิธีทำ

  1. ตำน้ำพริกแกงให้ละเอียด
  2. ต้มน้ำซุปให้เดือด ใส่น้ำพริกแกง คนให้ละลาย ใส่กระชาย ใบมะกรูด มะเขือเปราะ มะเขือพวง พริกไทยอ่อน และถั่วฝักยาว ต้มจนผักสุก
  3. ใส่เนื้อปลา เร่งไฟให้เดือดอีกครั้ง ปรุงรสด้วยน้ำปลา เมื่อปลาสุกใส่พริกชี้ฟ้าและใบกะเพรา ตักใส่ชามเสิร์ฟ

★ 4. ปลากะพงย่างกับซอสแกงเหลืองฟักทอง ★

ปลากะพงย่างกับซอสแกงเหลืองฟักทอง

ปลาเนื้อสดรสหวานย่างจนหนังกรอบ กินกับแกงเหลืองรสเผ็ดนำเค็มตาม แต่กลมกล่อมด้วยเนื้อฟักทองญี่ปุ่น

ส่วนผสม (สำหรับ 2-4 ที่)

  • ปลากะพงน้ำหนัก 800 กรัม 1  ตัว
  • ต้นกระเทียมส่วนสีขาว   1  ต้น
  • หอมแดง 1/2  หัวใหญ่
  • น้ำพริกแกงเหลือง  1-2 ซ้อนโต๊ะ
  • ฟักทองญี่ปุ่นนึ่ง  1/4-1/2  ถ้วย
  • เกลือและพริกไทยเล็กน้อย
  • น้ำมันพืชเล็กน้อย

เครื่องเคียง

  • เห็ดพอร์โทเบลโล หอมแดงสับ ผักโขมสองสี เกลือป่น พริกไทยป่น น้ำมันพืช ต้นกระเทียมญี่ปุ่นส่วนสีเขียวหั่นเป็นเส้นคลุกแป้งและทอดกรอบ

วิธีทำ

  1. แล่เนื้อปลาเก็บกระดูกไว้ ทำน้ำสต๊อกปลาโดยผัดต้นกระเทียมกับน้ำมันเล็กน้อย ใส่หอมแดงและกระดูกปลา ใส่น้ำให้พอท่วมต้มนาน 15 นาที แล้วกรอง
  2. ผัดน้ำพริกแกงเหลืองกับน้ำมันเล็กน้อย ใส่เนื้อฟักทองญี่ปุ่น ใช้ไม้พายบี้เนื้อฟักทองให้หยาบตามชอบ เติมน้ำสต๊อกปลา ผัดให้ข้นเป็นซอส ชิมให้มีรสเผ็ดและเค็มนำ มีรสหวานตาม
  3. ปรุงรสเนื้อปลาด้วยเกลือและพริกไทย ย่างปลาบนกระทะใช้น้ำมันเล็กน้อยเอาด้านหนังปลาลงก่อน ทอดไฟอ่อนจนสีสวยแล้วพลิกอีกด้าน (ถ้าปลาชิ้นหนาให้เข้าอบต่อในเตาอบจนสุก)
  4. ผัดเห็ดพอร์โทเบลโลกับน้ำมันเล็กน้อยให้พอสลด ใส่หอมแดงสับ ผักโขม ปรุงรสด้วยเกลือและพริกไทย
  5. เสิร์ฟปลากะพงกับซอสแกงเหลือง เห็ดพอร์โทเบลโลและผักผัด โรยด้วยต้นกระเทียมญี่ปุ่นทอด

★ 5. ต้มส้มปลากะพง ★

ต้มส้มปลากะพง

ต้มส้มรสปรี้ยวอมหวาน เสริมด้วยรสเผ็ดร้อนของพริกไทย ไปด้วยกันได้ดีกับปลากะพงเนื้อสด

ส่วนผสม (สำหรับ 2-4 ที่)

  • เนื้อปลากะพงหั่นชิ้นสี่เหลี่ยม 300 กรัม
  • น้ำเปล่า 3 ถ้วย
  • พริกไทยเม็ด 1 ช้อนชา
  • รากผักชีหั่นหยาบ 1 ช้อนโต๊ะ
  • หอมแดงหั่นหยาบ 3 ช้อนโต๊ะ
  • กะปิ 1 ช้อนชา
  • น้ำตาลมะพร้าว 3 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำส้มมะขาม 6 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำปลา 4 ช้อนโต๊ะ
  • ขิงซอยและต้นหอมสำหรับโรยหน้า

วิธีทำ

  1. ตำพริกไทยเม็ดให้ละเอียด ใส่รากผักชีและหอมแดงลงตำรวมกันจนละเอียด ใส่กะปิ ตำให้เป็นเนื้อเดียวกัน
  2. ต้มน้ำให้เดือด ใส่เครื่องที่ตำไว้ ใส่เนื้อปลา พอเดือดปรุงรสด้วยน้ำส้มมะขาม น้ำตาล น้ำปลา ชิมรสให้เปรี้ยว เค็ม หวาน ตักเนื้อปลาออก กรองน้ำซุป
  3. ตักเนื้อปลาใส่ถ้วย ตักน้ำซุปใส่ โรยขิงและต้นหอม

★ 6. เซบีเชปลากะพงและส้มโอ ★

เซบีเชปลากะพงและส้มโอ

ปลากะพงสดเนื้อหวานหมักกับน้ำมะนาว กลิ่นหอมโดดเด่นของผักชีทั้งใบและราก ปรุงรสด้วยน้ำส้มสายชูหมักมัลเบอร์รี่โฮมเมด

ส่วนผสมทำเซบีเช

  • เนื้อปลากะพงหั่นชิ้นพอดีคำประมาณ 200-300 กรัม หอมแดงซอย 2 หัว ขิงซอยเล็กน้อย พริกฮาลาเปโยหั่นสี่เหลี่ยมลูกเต๋าเล็กปริมาณตามชอบ ส้มโอเล็กน้อย น้ำมะนาวเล็กน้อย น้ำส้มสายชูหมักจากมัลเบอร์รี ผักชีและรากผักชีสับ พริกไทยอ่อน

วิธีทำเซบีเช

  1. หมักปลากะพงกับน้ำมะนาว ใส่ตู้เย็นไว้ 2 วัน
  2. บีบน้ำออกจากเนื้อปลา ใส่หอมแดง ขิง พริกฮาลาเปนโย ส้มโอ ราดน้ำส้มสายชูมัลเบอร์รี ปรุงรสด้วยเกลือ พริกไทย ใส่ผักชีและรากผักชีสับ เคล้าให้เข้ากันเบาๆ

ส่วนผสมและวิธีทำกัวกาโมเลถั่ว

  • เมล็ดถั่วฝักยาว ถั่วแระญี่ปุ่น เกลือ พริกไทย และน้ำมะนาวปั่นรวมกัน
  • ใช้ผิวสีเขียวของฝักถั่วฝักยาวปั่นเอาเฉพาะน้ำ ผสมรวมกับเมล็ดถั่วปั่น กัวกาโมเลจะมีสีเขียวสวย

วิธีเสิร์ฟ

  1. ทาซอสพริกโฮมเมดบนบานเสิร์ฟ ตักเซบีเชใส่บนจาน ตกแต่งด้วยใบพริกและดอกพริก เสิร์ฟพร้อมกัวกาโมเลถั่ว ตกแต่งด้วยดอกผักชีที่มีกลิ่นหอม

★ 7. แกงเหลืองปลากะพงยอดมะพร้าว ★

แกงเหลืองปลากะพงยอดมะพร้าว

แกงรสเผ็ดเปรี้ยวสีเหลืองใส่เนื้อปลากะพง ยอดมะพร้าวอ่อนเนื้อกรุบกรอบ

ส่วนผสม (สำหรับ 1-2 ที่)

  • เนื้อปลากะพง 200 กรัม
  • ยอดมะพร้าว 200 กรัม
  • พริกแห้ง 20 เม็ด
  • พริกขี้หนูสวน 15-30 เม็ด
  • กระเทียม 8 กลีบ
  • ขมิ้นสด 2 แง่งเล็ก
  • หอมแดง 4 หัว
  • ข่า 1 แง่งเล็ก
  • กะปิชุมพรอย่างดี 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำมะนาว 5 ช้อนโต๊ะ
  • เกลือเล็กน้อย

วิธีทำ

  1. ตำพริกแห้งกับเกลือให้ละเอียด ใส่พริกขี้หนู กระเทียม ขมิ้นสด หอมแดง และข่า ตำให้ละเอียดเข้ากันดี พักไว้
  2. หั่นยอดมะพร้าวเป็นชิ้นสี่เหลี่ยม แล่ปลากะพงเป็นชิ้นขนาด 1.5 นิ้ว พักไว้
  3. ต้มน้ำให้เดือด ใส่เครื่องแกงที่ตำไว้ ใส่กะปิ คนให้ละลาย ใส่ยอดมะพร้าว ต้มจนสุก ใส่เนื้อปลา ต้มให้พอสุก ปรุงรสด้วยน้ำมะนาว ปิดไฟ

★ 8. ปลากะพงนึ่งราดน้ำสลัดสมุนไพรสด ★

ปลากะพงนึ่งราดน้ำสลัดสมุนไพรสด

เนื้อปลากะพงกินกับสมุนไพรไทยๆ อย่างเช่นตะไคร้ กะเพรา โหระพา สะระแหน่

ส่วนผสม (สำหรับ 2 ที่)

  • ปลากะพงแล่เนื้อ (Fillet) 1 ตัว
  • ตะไคร้ซอย กะเพรา โหระพา และสะระแหน่ซอยรวมกัน 1/2 ถ้วย
  • มะเขือเทศลอกเปลือก หั่นสี่เหลี่ยมลูกเต๋า 1/4 ถ้วย

ส่วนผสมน้ำสลัด

  • กระเทียมซอย 3 กลีบ
  • ตะไคร้ซอย 1 ช้อนโต๊ะ
  • พริกขี้หนูซอย 2-3 เม็ด
  • น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำมันสลัด 1 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ

  1. ปลากะพงขาวแล่เนื้อได้ 2 ชิ้น วางบนลังถึงรองด้วยใบตองและทาน้ำมันเล็กน้อย นึ่งโดยใช้ไฟแรงปานกลางประมาณ 10-15 นาทีจนสุก ยกลง โรยสมุนไพรและมะเขือเทศ
  2. ผสมส่วนผสมน้ำสลัดให้เข้ากัน ราดบนเนื้อปลาขณะยังร้อนๆ เสิร์ฟทันที

★ 9. ปลากะพงต้มขิง ★

ปลากะพงต้มขิง

เมนูนี้ได้ทั้งกลิ่นและรสเผ็ดร้อนจากขิงและพริกไทย ช่วยให้คอและจมูกโล่งได้อย่างดี

ส่วนผสม

  • เนื้อปลากะพงหั่นชิ้นใหญ่ 350 กรัม
  • ขิงซอย 1/2 ถ้วย
  • ขึ้นฉ่ายหั่นท่อน 2 ต้น
  • ต้นหอมหั่นท่อน 2 ต้น
  • รากผักชี 1-2 ราก
  • เกลือป่น 1 ช้อนชา
  • เมล็ดพริกไทย 2 ช้อนชา 
  • น้ำเปล่า 3 ถ้วย

วิธีทำ

  1. ต้มน้ำให้เดือด ใส่เกลือ เมล็ดพริกไทย และรากผักชี ต้มให้เดือด
  2. ใส่เนื้อปลาและขิงซอย ต้มจนสุก (อย่าคน เพราะเนื้อปลาจะมีกลิ่นคาว ให้รอจนปลาสุก) ใส่ขึ้นฉ่ายและต้นหอม คนเบาๆ ยกลง
  3. ตักใส่ชาม เสิร์ฟร้อนๆ 

★ 10. ปลากะพงกับสตูผักรวม (Fried Sea Bass on Ratatouille Niçoise with Basil Infusion) ★

ปลากะพงกับสตูผักรวม (Fried Sea Bass on Ratatouille Niçoise with Basil Infusion)

ปลากะพงทอดเสิร์ฟกับผักตุ๋นเนื้อนุ่มสไตล์ฝรั่งเศสหรือราตาตุย ราดซอสไวน์ขาวรสเปรี้ยวนิดๆ หอมกลิ่นใบเบซิล

ส่วนผสมราตาตุย (สำหรับ 4 ที่)

  • หอมหัวใหญ่ 2 หัว
  • มะเขือม่วง  2 ผล
  • ซุกกินี  2  ผล
  • พริกยักษ์สีแดงและสีเหลืองอย่างละ 1 ลูก
  • มะเขือเทศปอกเปลือก 12 ผล (หรือใช้มะเขือเทศกระป๋องปริมาณ 400 กรัมแทนได้)
  • ใบกระวานแห้ง 2 ใบ
  • ไทม์สด 2-3 ก้าน
  • พาร์สลีย์สับ 1 กำมือ
  • นํ้ามันมะกอกสำหรับผัด
  • เกลือทะเลและพริกไทยสำหรับปรุงรส

ส่วนผสมปลา

  • เนื้อปลากะพงขาวหั่นเป็นชิ้นขนาด 150-200 กรัม   4 ชิ้น
  • นํ้ามันมะกอกและเนยสําหรับทอดปลา
  • ใบเบซิลทอดกรอบสำหรับโรยหน้า

ส่วนผสมซอสไวน์ขาวและใบโหระพา

  • ไวน์ขาวชาร์ดอนเนย์ (Chardonnay) หรือไวน์ริสลิง (Riesling) 200 มิลลิลิตร
  • เวอร์มุธ (Vermouth) 50 มิลลิลิตร
  • ใบเบซิล 1 กำมือ
  • เนยจืด 100 กรัม
  • นํ้ามะนาว 1/2 ช้อนชา

วิธีทํา

  1. ทำราตาตุยโดยหั่นผักทั้งหมดเป็นสี่เหลี่ยมลูกเต๋าขนาดเล็ก
  2. ผัดผักกับนํ้ามันมะกอก โดยแยกผัดแต่ละชนิดจนสุก (ใช้เวลา 5 นาทีขึ้นไป ขึ้นอยู่กับชนิดของผัก)
  3. นําผักทุกชนิดมาผัดรวมกัน ใส่มะเขือเทศกระป๋อง ใบกระวาน ใบไทม์ และพาร์สลีย์ ปรุงรสด้วยเกลือ พริกไทย ปิดฝา ต้มไฟอ่อน 1 ชั่วโมง (คนบ้างและระวังไหม้) เปิดฝาแล้วค่อยๆ ผัดต่ออีก 1 ชั่วโมง ยกลง ตักใบกระวานและไทม์ออก พักไว้ (สามารถเตรียมล่วงหน้าได้ 1 วัน รสชาติจะดีกว่าทําแล้วรับประทานเลย)
  4. ทำซอสโดยต้มไวน์ขาวกับเวอร์มุธใส่หม้อเล็ก ตั้งไฟอ่อน เคี่ยวให้ไวน์งวดลงเหลือประมาณ 2 ใน 3 ส่วน ยกลง ใส่ใบเบซิล แช่ทิ้งไว้ 1 ชั่วโมงเพื่อให้ได้กลิ่นหอม บีบนํ้าแล้วกรองออกก่อนเสิร์ฟ 15 นาที
  5. ทอดปลาโดยใช้นํ้ามันมะกอกและเนย ทอดด้านหนังให้กรอบ พลิกด้านทอดต่อจนสุก ปรุงรสด้วยเกลือ พริกไทย ตามชอบ
  6. อุ่นซอสแล้วใส่เนย คนเร็วๆ ด้วยตะกร้อมือ ใส่นํ้ามะนาว ยกลง
  7. ตักราตาตุยใส่จาน วางปลาทอด ราดซอสรอบจาน โรยใบเบซิลทอดกรอบ

Tag : ปลากะพง, รวมเมนูอร่อย

เรื่องโดย

คะแนนและรีวิว


5.0 จาก 5

ให้คะแนนและเขียนรีวิว

ยังไม่มีรีวิว

ความคิดเห็น

Editor’s Pick

Recent

Most Viewed