หากใครที่ชอบกินอาหารสุขภาพคงรู้สึกว่า “กราโนล่า” ที่ขายกันแบบสำเร็จรูปนั้นราคาสูงพอสมควรและยังมีรสหวานเกินความจำเป็น แต่สิ่งกวนใจนี้จะหมดไปถ้ารู้จักวิธีทำกราโนล่าแบบโฮมเมด
กราโนล่ามีส่วนผสมมาจากข้าวโอ๊ต ธัญพืช ถั่ว และผลไม้แห้ง เติมรสหวานอร่อยด้วยน้ำตาล น้ำผึ้งหรือน้ำเชื่อมเมเปิล ใช้กินเล่น ใส่นม ใส่โยเกิร์ต โรยบนสลัด อร่อยได้หลากหลายแบบ
เตรียมส่วนผสม
ข้าวโอ๊ตที่ขายในซูเปอร์มาร์เก็ตมี 2 ชนิด คือ Instant Oat เป็นเกล็ดชงน้ำร้อนกินได้ทันที และ Rolled Oat เป็นข้าวโอ๊ตรีดแผ่นบาง ซึ่งชนิดนี้เหมาะใช้ทำกราโนล่า ส่วนผสมอื่นๆ อย่างถั่วเมล็ดแห้งก็เลือกได้ตามชอบ เช่น อัลมอนด์ วอลนัต เม็ดมะม่วงหิมพานต์ ที่ขาดไม่ได้คือธัญพืช เช่น เมล็ดงา เมล็ดทานตะวัน เมล็ดฟักทอง เมล็ดแฟลกซ์ เพิ่มความอร่อยด้วยผลไม้แห้ง เช่น เบอร์รีแห้ง ลูกเกด แอปริคอต ลูกพรุน เพิ่มรสหวานด้วยน้ำผึ้งและน้ำเชื่อมเมเปิล ส่วนสุดท้ายคือน้ำมันพืช เช่น น้ำมันมะพร้าว น้ำมันรำข้าว และน้ำมันคาโนล่า เป็นต้น
การผสม
ผสมของแห้งทั้งหมด (ยกเว้นผลไม้แห้ง) ไว้ในชามแรก ผสมน้ำผึ้ง น้ำเชื่อมเมเปิล และน้ำมันในชามที่ 2 จากนั้นเทส่วนผสมของน้ำผึ้งใส่ชามข้าวโอ๊ต คนให้เข้ากันดี (ถ้าแฉะเกินไปเติมข้าวโอ๊ตเพิ่มได้)
การอบ
เทส่วนผสมใส่ถาดรองด้วยกระดาษรองอบ เกลี่ยให้ทั่ว นำเข้าเตาอบที่อบอุณหภูมิ 160 องศาเซลเซียสประมาณ 20 นาที ยกออกมาคน ถ้าสียังไม่เหลืองทองให้เข้าอบต่อ จากนั้นยกออกจากเตา พักไว้ให้เย็น กราโนล่าจะกรอบ โรยผลไม้แห้งให้ทั่ว คนให้เข้ากัน (ผลไม้แห้งไม่ต้องอบเพราะจะไหม้)
การเก็บ
เมื่อกราโนล่าเย็นสนิทแล้วจะกรอบขึ้น เก็บใส่ในขวดปิดฝาให้สนิท สามารถเก็บไว้ในที่แห้งและเย็นได้นาน 1 เดือน
Notes
ส่วนผสมกราโนล่า
• ข้าวโอ๊ต 300 กรัม
• อัลมอนด์สไลซ์ (ดิบ) 100 กรัม
• เมล็ดทานตะวันอบและเมล็ดฟักทองอบอย่างละ 50 กรัม
• น้ำเชื่อมเมเปิล 1/2 ถ้วย
• น้ำผึ้งและน้ำมันคาโนล่าอย่างละ 2 ช้อนโต๊ะ
Tag :
กราโนล่า, ธัญพืช, อาหารเช้า
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น