เมนูแกง เมนูอาหารพื้นบ้านง่ายๆ ที่อร่อยถูกปากและสามารถกินได้ทั้งครอบครัว วันนี้ G&C มีสูตรเด็ดเมนูแกงที่สามารถหากินไดเทั่วไป แต่รับรองได้เลยว่าทำตามสูตรนี้แล้ว อร่อยถูกปาก ถูกใจคนทั้งครอบครัวอย่างแน่นอนเลยคะ
★ 1. แกงผักจ้อนแมงดา ★
น้ำพริกแมงดาจากอีสาน เอามาละลายน้ำกรองเอาก้างออก ทำแกงป่าแบบอีสานอร่อยมากค่ะ
ส่วนผสม
- น้ำพริกตาแดงใส่แมงดาประมาณ 1/4 ถ้วย
- น้ำซุป (บังเอิญมีเหลืออยู่ ถ้าไม่มีใช้น้ำเปล่า) 3-4 ถ้วย
- น้ำปลาร้าปรุงแล้ว 2 ช้อนโต๊ะ
- ผงปรุงรสชนิดก้อนตามชอบ (เราใช้น้ำซุปดีมากจึงไม่ได้ใส่)
- ไก่หรือหมู 2 ขีด (ถ้าเป็นเนื้อวัวเลือกที่ไม่เหนียว)
- ผักจ้อนหรือที่คนกรุงเรียกว่ากวางตุ้งแบบมีดอกปริมาณพอสมควร
- น้ำปลานิดหน่อย
วิธีทำ
- ต้มน้ำไม่มากนักให้เดือด ใส่น้ำพริกตาแดงลงไปต้มกับน้ำในหม้อให้เดือด ต้มไฟอ่อนๆ ต่อสักครู่ให้น้ำพริกส่งกลิ่นหอม ถ้าจะใส่ผงปรุงรสก็ตอนนี้เลย เติมเนื้อสัตว์ ต้มต่อไปอีกสักพัก
- ระหว่างที่รอให้ล้างผัก เด็ดที่แก่ๆ ทิ้ง สังเกตง่ายๆ ถ้าเด็ดแล้วเหนียวก็แปลว่าแก่
- เติมน้ำซุปที่เหลืออยู่ ชิมแล้วปรุงรสเพิ่ม อันนี้แล้วแต่น้ำพริกที่เรามีอยู่จะรสชาติขนาดไหน ของเราต้องเติมน้ำปลาร้าเพิ่มอีก 2 ช้อนโต๊ะถึงจะสะใจ เติมน้ำปลานิดหน่อยด้วย
- เปิดไฟแรงๆ ให้น้ำแกงเดือด ใส่ผักต้มแค่พอสุก ผักยังเขียวอยู่ก็กินได้แล้ว
★ 2. แกงป่าปลากะพง ★
สำหรับคนที่ไม่ชอบแกงกะทิอาจจะชอบแกงป่ารสเผ็ดร้อน หอมกลิ่นสมุนไพรไทยอย่างใบกะเพรา กระชายพริกไทยอ่อน และใบมะกรูด สูตรนี้แกงกับเนื้อปลากะพง
ส่วนผสม (สำหรับ 1 ที่)
- น้ำพริกแกงแดง 100 กรัม
- เนื้อปลากะพง 150 กรัม
- มะเขือเปราะ 2 ลูก
- มะเขือพวง 15 ลูก
- ใบกะเพรา 1 กำมือ
- พริกชี้ฟ้าแดง 1 เม็ด
- ใบมะกรูด 2 ใบ
- พริกไทยอ่อน 2 ช่อ
- ถั่วฝักยาว 1 ฝัก
- กระชายหั่นฝอย 2 ราก
- น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำซุป
ส่วนผสมน้ำพริกแกงแดง
- หอมแดง 20 กรัม
- ตะไคร้ 20 กรัม
- ข่าแก่ 5 กรัม
- พริกแห้งเม็ดใหญ่ 10 กรัม
- พริกแห้งเม็ดเล็ก 10 กรัม
- ใบมะกรูด 5 กรัม
- ขมิ้นสด 3 กรัม
- กระชาย 10 กรัม
- กระเทียม 5 กรัม
- รากผักชี 5 ต้น
วิธีทำ
- ตำน้ำพริกแกงให้ละเอียด
- ต้มน้ำซุปให้เดือด ใส่น้ำพริกแกง คนให้ละลาย ใส่กระชาย ใบมะกรูด มะเขือเปราะ มะเขือพวง พริกไทยอ่อน และถั่วฝักยาว ต้มจนผักสุก
- ใส่เนื้อปลา เร่งไฟให้เดือดอีกครั้ง ปรุงรสด้วยน้ำปลา เมื่อปลาสุกใส่พริกชี้ฟ้าและใบกะเพรา ตักใส่ชามเสิร์ฟ
★ 3. แกงป่าชาวเกาะ ★
แกงป่ามีกลิ่นหอมของเครื่องเทศและสมุนไพรอันเป็นเอกลักษณ์ สูตรนี้ใช้น้ำมะพร้าวอ่อนทำน้ำซุปทำให้มีกลิ่นหอมหวานชวนกิน เติมรสหวานอร่อยด้วยซีฟู้ดนานาชนิด
ส่วนผสม (สำหรับ 2-4 ที่)
- น้ำมะพร้าวอ่อน 3 ถ้วย
- เนื้อมะพร้าวอ่อน 1 ถ้วย
- น้ำพริกแกงป่า 2 ช้อนโต๊ะ
- ปูม้า 1 ตัว
- กุ้ง 4-6 ตัว
- เนื้อปลากะพงหั่นพอดีคำ 100 กรัม
- หอยตลับ 8-10 ตัว
- เกลือทะเลเล็กน้อย
- ใบกะเพราปริมาณตามชอบ
วิธีทำ
- ต้มน้ำมะพร้าวอ่อนให้เดือด ใส่น้ำพริกแกงป่า พอเดือดใส่ปูม้า หอยตลับ พอสุกใส่กุ้ง เนื้อปลากะพง และเนื้อมะพร้าวอ่อน
- ชิมและปรุงรสด้วยเกลือทะเล ใส่ใบกะเพรา ปิดไฟ ตักใส่ชาม
★ 4. แกงส้มใส่แหนม ★
เราเอาแหนมที่ทำไว้มาทำเป็นของอร่อยได้เหมือนกัน แค่เห็นว่าใส่แหนมก็คงรู้แล้วว่าเป็นแกงทางเหนือ แม่หมอทองดีให้สูตรน้ำพริก และให้เคล็ดลับในการสกัดเมือกผักปลังไม่ให้ไหลออกมาเพราะจะทำให้น้ำแกงข้น แต่เมือกในตัวผักยังอยู่นะคะ ถ้าคนไม่ชอบผักที่มีเมือกให้ใส่ออดิบ (คูนหรือตูน) หรือดอกแค ดอกสลิด หรือผักอื่นๆ ตามชอบ
ส่วนผสม
- ยอดผักปลังหรือผักอื่นๆ 300 กรัม
- แหนมประมาณ 150 กรัม
- เนื้อหมูบดหรือเนื้อวัว 100 กรัม
- น้ำเปล่า
- น้ำปลาร้าต้มแล้ว (ทำจากปลากระดี่) 1 ช้อนโต๊ะ
- เกลือและน้ำปลา
- น้ำมะกรูดและน้ำมะนาว (ไม่ใช้น้ำมะขามเปียก)
ส่วนผสมพริกแกง
- พริกขี้หนูแดง 30 กรัม (เพิ่มลดได้ตามชอบ)
- หอมแดง 20 กรัม
- กระเทียมไทย 10 กรัม
- น้ำปลาร้าต้มแล้ว (ทำจากปลากระดี่)
- กะปิอย่างดี 1 ช้อนโต๊ะ
- ขมิ้นแง่งเล็กๆ 1 นิ้ว
- ดอกเกลือนิดหน่อย
วิธีทำ
- ตั้งหม้อ ใส่น้ำไม่ต้องมาก กะพอท่วมผัก เด็ดแหนมพอดีคำใส่ลงไปต้ม ใช้มือเด็ดเพราะไม่ต้องการให้หนังหมูขาด (เทคนิคนี้อาจารย์สุวรรณี สุคนธา สอนไว้นานแล้ว แต่ทำให้แหนมต้มน่ากิน) ต้มไฟอ่อนๆ ไปเรื่อยๆ จนน้ำเปรี้ยว ปิดไฟ
- ระหว่างต้มแหนมก็ตำพริกแกง คนตำเก่งๆ ครู่เดียวก็ละเอียด เอาพริกแกงใส่หม้อต้มแหนม ต้มจนพริกแกงส่งกลิ่นหอม ปรุงรสด้วยเกลือ น้ำปลา น้ำปลาร้าต้ม น้ำมะกรูดและน้ำมะนาว น้ำแกงที่เปรี้ยวจะสกัดไม่ให้ยางไหลออกจากผักปลัง (เทคนิคนี้ไม่ควรใช้กับกระเจี๊ยบเพราะกระเจี๊ยบรับรสยากกว่าผักปลัง ถ้าทำแกงด้วยกระเจี๊ยบต้องให้กระเจี๊ยบรับรสเค็มหวานก่อนแล้วจึงรีบใส่รสเปรี้ยวเพื่อหยุดยั้งเมือก)
- ใส่หมูสับ ต้มพอสุก วันนี้เราใส่เนื้อหั่นบางๆ ก็ใส่เนื้อลงไปและตามด้วยผักทันที แกงไฟแรงๆ พอผักสุกก็ปิดไฟ
★ 5. แกงคั่วปูใบชะพลู ★
เนื้อปูสดหวานในน้ำแกงคั่วสีเหลืองอมส้ม กลิ่นหอมรสเค็มนิดๆ เผ็ดจัดจ้าน เป็นอีกหนึ่งเมนูยอดนิยมในปัจจุบัน
ส่วนผสม(สำหรับ 4 ที่)
- เนื้อปู 350 กรัม
- หัวกะทิ 1 ถ้วย
- กะทิกลาง 1 1/2 ถ้วย
- ใบชะพลู 50 กรัม
- น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลปี๊บ 1 1/4 ช้อนชา
ส่วนผสมน้ำพริกแกงคั่ว
- พริกชี้ฟ้าแดงแห้งแช่น้ำ 2 ช้อนโต๊ะ
- พริกขี้หนูแห้งแช่น้ำ 2 ช้อนชา
- ตะไคร้ 2 1/2 ช้อนโต๊ะ
- ข่า 1 ช้อนโต๊ะ
- หอมแดง 2 ช้อนโต๊ะ
- กระเทียมไทย 1 ช้อนโต๊ะ
- ผิวมะกรูด 1 ช้อนชา
- รากผักชี 2 ช้อนชา
- เมล็ดพริกไทยดำ 2 ช้อนชา
- เกลือ 1/4 ช้อนชา
- กะปิ 1 1/2 ช้อนชา
- ขมิ้นสด 1 ช้อนชา
วิธีทำ
- นึ่งเนื้อปูเตรียมไว้ เตรียมน้ำพริกแกงคั่วโดยโขลกส่วนผสมทั้งหมดเข้าด้วยกันจนละเอียด
- ต้มกะทิกลางจนเดือด ใส่พริกแกงคนให้เข้ากัน ต้มไฟแรงปานกลางนานประมาณ 7-10 นาที
- ปรุงรสด้วยน้ำปลาน้ำตาลปี๊บ ชิมให้มีรสเค็มนำ ใส่เนื้อปู ใบชะพลูและหัวกะทิ ต้มต่อจนเดือด ปิดไฟ
★ 6. แกง(ญาติ)เทโพ ★
ปลาสวายสดส่วนท้องเอามาทำแกงเทโพ ล้างด้วยน้ำมะพร้าวหรือน้ำส้มสายชูจะทำให้หมดคาว เราต้องดึงเส้นคาวปลาออกด้วย เป็นสิ่งที่ผู้ใหญ่สอนต่อๆกันมา จริงเท็จอย่างไรก็ไม่ทราบ แกงคั่วมีทั้งแบบเปรี้ยวและไม่เปรี้ยว บางคนจึงเรียกแบบเปรี้ยวว่าแกงคั่วส้ม ฺวันนี้เราจะทำแกงคั่วส้มเทโพ
ส่วนผสม
- น้ำพริกแกงคั่ว (ดูสัดส่วนเครื่องแกงคั่วหรือใช้น้ำพริกแกงแดง แล้วเพิ่มกะปินิดหน่อยได้)
- ปลาสวาย 4 ชิ้น
- ปลากดกรอบ(ย่างไฟ) 1/2 ตัว
- ผักบุ้งน้ำ (แบบที่ทำเย็นตาโฟ)
- ใบมะกรูด 3-4 ใบ
- มะกรูด 1 ผล
- น้ำมะนาว 1 ผล
- น้ำมะขามเปียก 1 1/2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลปี๊บ 40 กรัม
- น้ำปลาและเกลือสำหรับปรุงรส
- กะทิกล่องตราอร่อยดี 500 มิลลิลิตร
- น้ำต้มกระดูกปลาประมาณ 250 มิลลิลิตร
ส่วนผสมเครื่องแกงคั่ว
- พริกแห้งจินดา 10 เม็ด
- พริกชี้ฟ้าแห้ง 10 เม็ด(ถ้ามีพริกแห้งบางช้าง ใช้อย่างเดียว 20 เม็ด)
- หอมแดง 25 กรัม
- กระเทียมไทย 25 กรัม
- ข่า 10 กรัม
- ตะไคร้ 15 กรัม
- รากผักชี 7 กรัม
- ผิวมะกรูด 1 ปาด(ใช้มีดปาดบางๆไปตามความยาวลูกมะกรูด
- พริกไทย 1/2 ช้อนชา
- กะปิ 1 ช้อนโต๊ะ(ถ้ากะปิไม่ดีใส่แค่ 1 ช้อนชา
- ดอกเกลือ 1/4 ช้อนชา
วิธีทำ
- เตรียมเครื่องแกงโดยโขลกพริกแห้งที่แช่น้ำและซอยเตรียมไว้กับเกลือให้แหลก ใส่เนื้อปลากดกรอบย่าง โขลกแล้วตามด้วยพริกไทย โขลกแหลกแล้วจึงใส่รากผักชีข่าตะไคร้ และผิวมะกรูด พอพวกของแข็งแหลกดีจึงใส่กะปิ กระเทียมและหอมแดง ให้ทยอยใส่จะโขลกง่าย
- หั่นผักบุ้งเตรียมไว้ (ถ้าเป็นตัวจริงต้องใช้มือบิดให้ขาด ผักบุ้งจะแค่พอช้ำ ไม่ถึงกับช้ำชอก) แช่น้ำล้างให้สะอาดแล้วจึงสะเด็ดน้ำ กะปริมาณเอาเองนะคะ ชอบผักบุ้งก็ใส่มากหน่อย
- เทหัวกะทิประมาณ 200 มิลลิลิตรใส่หม้อตั้งไฟ รอจนเดือด แตกมัน ใส่เครื่องแกงลงผัดจนสุกหอม ใส่กะทิที่เหลือทั้งหมด ต้มให้เดือด เติมน้ำต้มกระดูกปลาหรือน้ำล้างกล่องกะทิลงไปให้ได้แกงข้นเท่าที่ต้องการ
- ปรุงรสเค็มเปรี้ยวหวาน บ้านเรากินรสจัดก็จะใส่น้ำตาลให้หวานก่อน แล้วจึงเอารสเปรี้ยวกับเค็มไปสู้ ผ่ามะกรูดดู ถ้าได้ลูกที่น้ำฉ่ำก็เขี่ยเม็ดออก บีบน้ำใส่ลงในหม้อแกงแล้วโยนเปลือกตามลงไปเลย แต่ถ้าเป็นแบบฟ่าม น้ำขม อย่าบีบน้ำนะคะ ถ้ามีมะกรูดหลายลูกก็โยนลงถังขยะ แต่ถ้ามีลูกเดียวก็โยนลงหม้อแกง(ฮ่าๆทำได้ไง...มันจำเป็นต้องมีกลิ่นมะกรูดในแกง) ชิมรสให้จัดไว้หน่อย
- ใส่เนื้อปลาสวายและใบมะกรูดลงในหม้อแกงตอนที่เดือดจัด ต้มจนปลาสุก อย่าคนก่อนปลาสุก
- ใส่ผักบุ้ง ต้มจนสุกนุ่มเท่าที่ชอบ ชิมรสอีกครั้ง ผักบุ้งจะคายน้ำออกมาอาจต้องปรุงรสแกงอีกสักหน่อย
Tag :
รวมเมนูอร่อย, เมนูแกง
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น