รวมสูตร 6 เมนูแกง อร่อยถูกปาก โดนใจคนทั้งครอบครัว

วันที่ 3 พฤศจิกายน 2563  13,443 Views (0 รีวิว)

เมนูแกง เมนูอาหารพื้นบ้านง่ายๆ ที่อร่อยถูกปากและสามารถกินได้ทั้งครอบครัว วันนี้ G&C มีสูตรเด็ดเมนูแกงที่สามารถหากินไดเทั่วไป แต่รับรองได้เลยว่าทำตามสูตรนี้แล้ว อร่อยถูกปาก ถูกใจคนทั้งครอบครัวอย่างแน่นอนเลยคะ

★ 1. แกงผักจ้อนแมงดา ★

แกงผักจ้อนแมงดา

น้ำพริกแมงดาจากอีสาน เอามาละลายน้ำกรองเอาก้างออก ทำแกงป่าแบบอีสานอร่อยมากค่ะ

ส่วนผสม

  • น้ำพริกตาแดงใส่แมงดาประมาณ 1/4 ถ้วย
  • น้ำซุป (บังเอิญมีเหลืออยู่ ถ้าไม่มีใช้น้ำเปล่า) 3-4 ถ้วย
  • น้ำปลาร้าปรุงแล้ว 2 ช้อนโต๊ะ
  • ผงปรุงรสชนิดก้อนตามชอบ (เราใช้น้ำซุปดีมากจึงไม่ได้ใส่)
  • ไก่หรือหมู 2 ขีด (ถ้าเป็นเนื้อวัวเลือกที่ไม่เหนียว)
  • ผักจ้อนหรือที่คนกรุงเรียกว่ากวางตุ้งแบบมีดอกปริมาณพอสมควร
  • น้ำปลานิดหน่อย

วิธีทำ

  1. ต้มน้ำไม่มากนักให้เดือด ใส่น้ำพริกตาแดงลงไปต้มกับน้ำในหม้อให้เดือด ต้มไฟอ่อนๆ ต่อสักครู่ให้น้ำพริกส่งกลิ่นหอม ถ้าจะใส่ผงปรุงรสก็ตอนนี้เลย เติมเนื้อสัตว์ ต้มต่อไปอีกสักพัก
  2. ระหว่างที่รอให้ล้างผัก เด็ดที่แก่ๆ ทิ้ง สังเกตง่ายๆ ถ้าเด็ดแล้วเหนียวก็แปลว่าแก่ 
  3. เติมน้ำซุปที่เหลืออยู่ ชิมแล้วปรุงรสเพิ่ม อันนี้แล้วแต่น้ำพริกที่เรามีอยู่จะรสชาติขนาดไหน ของเราต้องเติมน้ำปลาร้าเพิ่มอีก 2 ช้อนโต๊ะถึงจะสะใจ เติมน้ำปลานิดหน่อยด้วย 
  4. เปิดไฟแรงๆ ให้น้ำแกงเดือด ใส่ผักต้มแค่พอสุก ผักยังเขียวอยู่ก็กินได้แล้ว 

★ 2. แกงป่าปลากะพง ★

แกงป่าปลากะพง

สำหรับคนที่ไม่ชอบแกงกะทิอาจจะชอบแกงป่ารสเผ็ดร้อน หอมกลิ่นสมุนไพรไทยอย่างใบกะเพรา กระชายพริกไทยอ่อน และใบมะกรูด สูตรนี้แกงกับเนื้อปลากะพง

ส่วนผสม (สำหรับ 1 ที่)

  • น้ำพริกแกงแดง 100 กรัม
  • เนื้อปลากะพง 150 กรัม
  • มะเขือเปราะ 2 ลูก
  • มะเขือพวง 15 ลูก
  • ใบกะเพรา 1 กำมือ
  • พริกชี้ฟ้าแดง 1 เม็ด
  • ใบมะกรูด 2 ใบ
  • พริกไทยอ่อน 2 ช่อ
  • ถั่วฝักยาว 1 ฝัก
  • กระชายหั่นฝอย 2 ราก
  • น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำซุป

ส่วนผสมน้ำพริกแกงแดง

  • หอมแดง 20 กรัม
  • ตะไคร้ 20 กรัม
  • ข่าแก่ 5 กรัม
  • พริกแห้งเม็ดใหญ่ 10 กรัม
  • พริกแห้งเม็ดเล็ก 10 กรัม
  • ใบมะกรูด 5 กรัม
  • ขมิ้นสด 3 กรัม
  • กระชาย 10 กรัม
  • กระเทียม 5 กรัม
  • รากผักชี 5 ต้น

วิธีทำ

  1. ตำน้ำพริกแกงให้ละเอียด
  2. ต้มน้ำซุปให้เดือด ใส่น้ำพริกแกง คนให้ละลาย ใส่กระชาย ใบมะกรูด มะเขือเปราะ มะเขือพวง พริกไทยอ่อน และถั่วฝักยาว ต้มจนผักสุก
  3. ใส่เนื้อปลา เร่งไฟให้เดือดอีกครั้ง ปรุงรสด้วยน้ำปลา เมื่อปลาสุกใส่พริกชี้ฟ้าและใบกะเพรา ตักใส่ชามเสิร์ฟ

★ 3. แกงป่าชาวเกาะ ★

แกงป่าชาวเกาะ

แกงป่ามีกลิ่นหอมของเครื่องเทศและสมุนไพรอันเป็นเอกลักษณ์ สูตรนี้ใช้น้ำมะพร้าวอ่อนทำน้ำซุปทำให้มีกลิ่นหอมหวานชวนกิน เติมรสหวานอร่อยด้วยซีฟู้ดนานาชนิด

ส่วนผสม (สำหรับ 2-4 ที่)

  • น้ำมะพร้าวอ่อน 3 ถ้วย
  • เนื้อมะพร้าวอ่อน 1 ถ้วย
  • น้ำพริกแกงป่า 2 ช้อนโต๊ะ
  • ปูม้า 1 ตัว
  • กุ้ง 4-6 ตัว
  • เนื้อปลากะพงหั่นพอดีคำ 100 กรัม
  • หอยตลับ 8-10  ตัว
  • เกลือทะเลเล็กน้อย
  • ใบกะเพราปริมาณตามชอบ

วิธีทำ

  1. ต้มน้ำมะพร้าวอ่อนให้เดือด ใส่น้ำพริกแกงป่า พอเดือดใส่ปูม้า หอยตลับ พอสุกใส่กุ้ง เนื้อปลากะพง และเนื้อมะพร้าวอ่อน
  2. ชิมและปรุงรสด้วยเกลือทะเล ใส่ใบกะเพรา ปิดไฟ ตักใส่ชาม

★ 4. แกงส้มใส่แหนม ★

แกงส้มใส่แหนม

เราเอาแหนมที่ทำไว้มาทำเป็นของอร่อยได้เหมือนกัน แค่เห็นว่าใส่แหนมก็คงรู้แล้วว่าเป็นแกงทางเหนือ แม่หมอทองดีให้สูตรน้ำพริก และให้เคล็ดลับในการสกัดเมือกผักปลังไม่ให้ไหลออกมาเพราะจะทำให้น้ำแกงข้น แต่เมือกในตัวผักยังอยู่นะคะ ถ้าคนไม่ชอบผักที่มีเมือกให้ใส่ออดิบ (คูนหรือตูน) หรือดอกแค ดอกสลิด หรือผักอื่นๆ ตามชอบ

ส่วนผสม

  • ยอดผักปลังหรือผักอื่นๆ 300 กรัม
  • แหนมประมาณ 150 กรัม
  • เนื้อหมูบดหรือเนื้อวัว 100 กรัม
  • น้ำเปล่า
  • น้ำปลาร้าต้มแล้ว (ทำจากปลากระดี่) 1 ช้อนโต๊ะ
  • เกลือและน้ำปลา
  • น้ำมะกรูดและน้ำมะนาว (ไม่ใช้น้ำมะขามเปียก)

ส่วนผสมพริกแกง

  • พริกขี้หนูแดง 30 กรัม (เพิ่มลดได้ตามชอบ)
  • หอมแดง 20 กรัม
  • กระเทียมไทย 10 กรัม
  • น้ำปลาร้าต้มแล้ว (ทำจากปลากระดี่)
  • กะปิอย่างดี 1 ช้อนโต๊ะ
  • ขมิ้นแง่งเล็กๆ 1 นิ้ว
  • ดอกเกลือนิดหน่อย

วิธีทำ

  1. ตั้งหม้อ ใส่น้ำไม่ต้องมาก กะพอท่วมผัก เด็ดแหนมพอดีคำใส่ลงไปต้ม ใช้มือเด็ดเพราะไม่ต้องการให้หนังหมูขาด (เทคนิคนี้อาจารย์สุวรรณี สุคนธา สอนไว้นานแล้ว แต่ทำให้แหนมต้มน่ากิน) ต้มไฟอ่อนๆ ไปเรื่อยๆ จนน้ำเปรี้ยว ปิดไฟ
  2. ระหว่างต้มแหนมก็ตำพริกแกง คนตำเก่งๆ ครู่เดียวก็ละเอียด เอาพริกแกงใส่หม้อต้มแหนม ต้มจนพริกแกงส่งกลิ่นหอม ปรุงรสด้วยเกลือ น้ำปลา น้ำปลาร้าต้ม น้ำมะกรูดและน้ำมะนาว น้ำแกงที่เปรี้ยวจะสกัดไม่ให้ยางไหลออกจากผักปลัง (เทคนิคนี้ไม่ควรใช้กับกระเจี๊ยบเพราะกระเจี๊ยบรับรสยากกว่าผักปลัง ถ้าทำแกงด้วยกระเจี๊ยบต้องให้กระเจี๊ยบรับรสเค็มหวานก่อนแล้วจึงรีบใส่รสเปรี้ยวเพื่อหยุดยั้งเมือก)
  3. ใส่หมูสับ ต้มพอสุก วันนี้เราใส่เนื้อหั่นบางๆ ก็ใส่เนื้อลงไปและตามด้วยผักทันที แกงไฟแรงๆ พอผักสุกก็ปิดไฟ

★ 5. แกงคั่วปูใบชะพลู ★

แกงคั่วปูใบชะพลู

เนื้อปูสดหวานในน้ำแกงคั่วสีเหลืองอมส้ม กลิ่นหอมรสเค็มนิดๆ เผ็ดจัดจ้าน เป็นอีกหนึ่งเมนูยอดนิยมในปัจจุบัน

ส่วนผสม(สำหรับ 4 ที่)

  • เนื้อปู 350 กรัม
  • หัวกะทิ 1 ถ้วย
  • กะทิกลาง 1 1/2 ถ้วย
  • ใบชะพลู 50 กรัม
  • น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาลปี๊บ 1 1/4 ช้อนชา

ส่วนผสมน้ำพริกแกงคั่ว

  • พริกชี้ฟ้าแดงแห้งแช่น้ำ 2 ช้อนโต๊ะ
  • พริกขี้หนูแห้งแช่น้ำ 2 ช้อนชา
  • ตะไคร้ 2 1/2 ช้อนโต๊ะ
  • ข่า 1 ช้อนโต๊ะ
  • หอมแดง 2 ช้อนโต๊ะ
  • กระเทียมไทย 1 ช้อนโต๊ะ
  • ผิวมะกรูด 1 ช้อนชา
  • รากผักชี 2 ช้อนชา
  • เมล็ดพริกไทยดำ 2 ช้อนชา
  • เกลือ 1/4 ช้อนชา
  • กะปิ 1 1/2 ช้อนชา
  • ขมิ้นสด 1 ช้อนชา

วิธีทำ

  1. นึ่งเนื้อปูเตรียมไว้ เตรียมน้ำพริกแกงคั่วโดยโขลกส่วนผสมทั้งหมดเข้าด้วยกันจนละเอียด
  2. ต้มกะทิกลางจนเดือด ใส่พริกแกงคนให้เข้ากัน ต้มไฟแรงปานกลางนานประมาณ 7-10 นาที
  3. ปรุงรสด้วยน้ำปลาน้ำตาลปี๊บ ชิมให้มีรสเค็มนำ ใส่เนื้อปู ใบชะพลูและหัวกะทิ ต้มต่อจนเดือด ปิดไฟ

★ 6. แกง(ญาติ)เทโพ ★

แกง(ญาติ)เทโพ

ปลาสวายสดส่วนท้องเอามาทำแกงเทโพ ล้างด้วยน้ำมะพร้าวหรือน้ำส้มสายชูจะทำให้หมดคาว เราต้องดึงเส้นคาวปลาออกด้วย เป็นสิ่งที่ผู้ใหญ่สอนต่อๆกันมา จริงเท็จอย่างไรก็ไม่ทราบ แกงคั่วมีทั้งแบบเปรี้ยวและไม่เปรี้ยว บางคนจึงเรียกแบบเปรี้ยวว่าแกงคั่วส้ม ฺวันนี้เราจะทำแกงคั่วส้มเทโพ

ส่วนผสม

  • น้ำพริกแกงคั่ว (ดูสัดส่วนเครื่องแกงคั่วหรือใช้น้ำพริกแกงแดง แล้วเพิ่มกะปินิดหน่อยได้)
  • ปลาสวาย 4 ชิ้น
  • ปลากดกรอบ(ย่างไฟ) 1/2 ตัว
  • ผักบุ้งน้ำ (แบบที่ทำเย็นตาโฟ)
  • ใบมะกรูด 3-4 ใบ
  • มะกรูด 1 ผล
  • น้ำมะนาว 1 ผล
  • น้ำมะขามเปียก 1 1/2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาลปี๊บ 40 กรัม
  • น้ำปลาและเกลือสำหรับปรุงรส 
  • กะทิกล่องตราอร่อยดี 500 มิลลิลิตร 
  • น้ำต้มกระดูกปลาประมาณ 250 มิลลิลิตร

ส่วนผสมเครื่องแกงคั่ว

  • พริกแห้งจินดา 10 เม็ด
  • พริกชี้ฟ้าแห้ง 10 เม็ด(ถ้ามีพริกแห้งบางช้าง ใช้อย่างเดียว 20 เม็ด)
  • หอมแดง 25 กรัม
  • กระเทียมไทย 25 กรัม
  • ข่า 10 กรัม
  • ตะไคร้ 15 กรัม
  • รากผักชี 7 กรัม
  • ผิวมะกรูด 1 ปาด(ใช้มีดปาดบางๆไปตามความยาวลูกมะกรูด
  • พริกไทย 1/2 ช้อนชา
  • กะปิ 1 ช้อนโต๊ะ(ถ้ากะปิไม่ดีใส่แค่ 1 ช้อนชา
  • ดอกเกลือ 1/4 ช้อนชา

วิธีทำ

  1. เตรียมเครื่องแกงโดยโขลกพริกแห้งที่แช่น้ำและซอยเตรียมไว้กับเกลือให้แหลก ใส่เนื้อปลากดกรอบย่าง โขลกแล้วตามด้วยพริกไทย โขลกแหลกแล้วจึงใส่รากผักชีข่าตะไคร้ และผิวมะกรูด พอพวกของแข็งแหลกดีจึงใส่กะปิ กระเทียมและหอมแดง ให้ทยอยใส่จะโขลกง่าย
  2. หั่นผักบุ้งเตรียมไว้ (ถ้าเป็นตัวจริงต้องใช้มือบิดให้ขาด ผักบุ้งจะแค่พอช้ำ ไม่ถึงกับช้ำชอก) แช่น้ำล้างให้สะอาดแล้วจึงสะเด็ดน้ำ กะปริมาณเอาเองนะคะ ชอบผักบุ้งก็ใส่มากหน่อย
  3. เทหัวกะทิประมาณ 200 มิลลิลิตรใส่หม้อตั้งไฟ รอจนเดือด แตกมัน ใส่เครื่องแกงลงผัดจนสุกหอม ใส่กะทิที่เหลือทั้งหมด ต้มให้เดือด เติมน้ำต้มกระดูกปลาหรือน้ำล้างกล่องกะทิลงไปให้ได้แกงข้นเท่าที่ต้องการ 
  4. ปรุงรสเค็มเปรี้ยวหวาน บ้านเรากินรสจัดก็จะใส่น้ำตาลให้หวานก่อน แล้วจึงเอารสเปรี้ยวกับเค็มไปสู้ ผ่ามะกรูดดู ถ้าได้ลูกที่น้ำฉ่ำก็เขี่ยเม็ดออก บีบน้ำใส่ลงในหม้อแกงแล้วโยนเปลือกตามลงไปเลย แต่ถ้าเป็นแบบฟ่าม น้ำขม อย่าบีบน้ำนะคะ ถ้ามีมะกรูดหลายลูกก็โยนลงถังขยะ แต่ถ้ามีลูกเดียวก็โยนลงหม้อแกง(ฮ่าๆทำได้ไง...มันจำเป็นต้องมีกลิ่นมะกรูดในแกง) ชิมรสให้จัดไว้หน่อย 
  5. ใส่เนื้อปลาสวายและใบมะกรูดลงในหม้อแกงตอนที่เดือดจัด ต้มจนปลาสุก อย่าคนก่อนปลาสุก
  6. ใส่ผักบุ้ง ต้มจนสุกนุ่มเท่าที่ชอบ ชิมรสอีกครั้ง ผักบุ้งจะคายน้ำออกมาอาจต้องปรุงรสแกงอีกสักหน่อย

Tag : รวมเมนูอร่อย, เมนูแกง

เรื่องโดย

คะแนนและรีวิว


0.0 จาก 5

ให้คะแนนและเขียนรีวิว

ยังไม่มีรีวิว

ความคิดเห็น

Editor’s Pick

Recent

Most Viewed