ขนมทองเป็นขนมที่ผู้เขียนทานมาตั้งแต่จำความได้ ทั้งทำทานกันเองในบ้านและซื้อจากแม่ค้าที่หาบขายหรือตามตลาดทั่วไปทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัดในสมัยก่อน
เพื่อนบางคนบอกว่าที่บ้านเขาเรียกว่า “ขนมวง” เพราะขนมเป็นรูปวงกลมและมีรูตรงกลางคล้ายโดนัทของฝรั่ง แต่ไม่ว่าจะเรียกชื่อว่าอะไร ขนมทองก็ยังเป็นขนมที่ทำง่าย ทำได้เร็ว และมีส่วนผสมเพียงไม่กี่อย่าง
ขนมทองเป็นขนมที่ทานเล่นได้ตลอดวัน แต่ควรทานร้อนๆ เมื่อทอดเสร็จ เพราะถ้าพักไว้นานแป้งจะยุบลงและเนื้อจะนิ่ม แต่หากทำเสร็จปั้นเป็นวงแล้วทอดไม่หมดก็เก็บใส่กล่องแช่ไว้ในตู้เย็นหรือช่องแช่แข็งได้หลายวัน จะทานเมื่อใดก็หยิบมาทอดตามจำนวนที่อยากทาน
ส่วนผสมของขนมนี้ไม่ต้องชั่งตวงให้มากมาย ใช้แป้งข้าวเหนียวนวดกับกะทิ แต่ต้องคอยสังเกตว่าเมื่อนวดแล้วทุกอย่างเข้ากันดีไม่เหลวมาก ไม่แห้งมาก ถ้าแห้งไปเติมกะทิ ถ้าเหลวไปเติมแป้ง แต่ต้อง
ค่อยๆ เติมทีละนิดจนแป้งไม่ติดมือ และเมื่อปั้นแล้วแป้งไม่แตก ปกติขนมทองจะใช้แป้งข้าวเหนียวล้วนๆ แต่ถ้าชอบเผือก มัน ฟักทอง ก็นำไปนึ่งให้สุกแล้วขูดใส่รวมไปด้วยเมื่อทอดแล้วสีจะสวย เนื้อนุ่มและหอมอร่อยขึ้น แต่ต้องไม่ใส่มากกว่าแป้ง
เมื่อทอดเสร็จก็คลุกกับน้ำตาลมะพร้าวหรือน้ำตาลโตนดที่ตั้งไฟจนละลาย แล้วชุบงาดำหรืองาขาวตามชอบก็จะดูสวยน่าทานขึ้น เป็นขนมไทยพื้นบ้านที่ทำง่ายๆ อร่อย และน่าทาน
ขนมทอง
ส่วนผสม
- แป้งข้าวเหนียว 250 กรัม
- กะทิกล่อง 450 มิลลิลิตร (น้ำลอยดอกมะลิก็ได้)
- เผือกและฟักทองนึ่งแล้วบด 175 กรัม (ไม่ใส่ก็ได้)
- น้ำตาลโตนด น้ำตาลปี๊บ หรือน้ำตาลปึกแล้วแต่ชอบ
- งาขาวและงาดำตามชอบ
วิธีทำ
- นวดแป้งข้าวเหนียวกับกะทิหรือน้ำจนปั้นได้ ถ้าจะใส่เผือกและฟักทองนึ่งให้ใส่รวมไปในขั้นตอนนี้ ค่อยๆใส่กะทิหรือน้ำเพิ่ม นวดจนแป้งไม่ติดมือ เมื่อคลึงแล้วแป้งไม่แตก
- คลึงแป้งเป็นเส้นแล้วจับเป็นวง ทำจนหมด
- ใส่น้ำมันในกระทะพอให้ท่วมชิ้นขนมโดยใช้ไฟปานกลาง
- พอน้ำมันร้อนใส่ขนมลงทอด (อย่าให้ขนมซ้อนกัน) ทอดจนเป็นสีเหลืองทอง พักไว้บนตะแกรง
- ใส่น้ำตาลลงในกระทะ ปล่อยให้น้ำตาลละลายเองจนหมดไม่ต้องคน
- หยิบขนมลงจุ่มในน้ำตาล (จุ่มด้านเดียว ) ชุบงาขาว งาดำ ตามชอบ จัดใส่จานทานร้อนๆ ถ้าวางทิ้งไว้จนเย็นขนมจะหดตัว ไม่กรอบและเหนียว
Notes
- เมื่อปั้นขนมเป็นวงแล้วเรียงใส่กล่อง วางพลาสติกซ้อนไว้เพื่อไม่ให้ขนมติดกัน เก็บไว้ในตู้เย็นหรือช่องแช่แข็งได้หลายวัน
- วิธีละลายน้ำตาล ถ้าน้ำตาลแข็งมากใส่น้ำได้เล็กน้อย 2-3 ช้อนโต๊ะ ใช้ไฟอ่อน และไม่ต้องคนเพราะน้ำตาลจะตกทรายกลายเป็นเกล็ด
Tag :
Home Gourmet, ขนมไทย
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น