อิหร่านสวยงาม ผู้คนเป็นมิตร หนุ่มหล่อ สาวสวย
ป้าเจี๊ยบท่องเที่ยวอิหร่านอย่างมีความสุข จนอีก 2 วันจะเดินทางกลับนายพลอิหร่านก็ถูกอเมริกาลอบสังหารระหว่างไปเจรจาต่อต้านการก่อการร้ายของกลุ่มไอซิสที่อิรัก บรรยากาศเลยเศร้าหมองไปทั่ว โดยเฉพาะที่เมืองกุมซึ่งเป็นบ้านเกิดของท่านนายพลมองเห็นธงดำปลิวไสวไปทั่วทั้งเมือง
อิหร่านไม่ใช่พวกอาหรับนะคะ เป็นเปอร์เซีย ไม่พูดภาษาอารบิค พูดภาษาฟาร์ซี ประเทศนี้คือต้นสายอารยธรรมเปอร์เซียอันยิ่งใหญ่
อิหร่านปลูกกุหลาบมาก นำมาทำน้ำหอม เครื่องดื่ม และอาหาร กุหลาบที่นี่ดังมากแค่ไหนก็ดูได้จากคำว่า “กุหลาบ” ในภาษาไทยของเรา ขอยืมมาจากภาษาเปอร์เซียที่แหละ อิอิ!
เยือนอิหร่านคราวนี้นอกจากซื้อสารพัดถั่วใหม่ๆ ไม่เหม็นหืนมาหลายกิโลแล้ว ป้าเจี๊ยบซื้อผลิตภัณฑ์จากกุหลาบสำหรับทำอาหารกลับมาด้วย มีทั้งหัวน้ำกุหลาบ ดอกกุหลาบแห้ง และกลีบกุหลาบแห้ง
กลับมาได้ไม่กี่วันก็มีนัดกับเพื่อนครุศาสตร์ CU14 ป้าเจี๊ยบเลยคิดว่าจะทำขนมเปอร์เซียไปฝากเพื่อนๆ จากที่สังเกตเห็นว่าชาวเปอร์เซียชอบกินบิสกอตติค่ะ เป็นขนมอย่างหนึ่งที่มีหน้าตาคล้ายคุกกี้ ทำอันนี้แหละ
พอสืบค้นดูแล้วปรากฏว่าขนมแบบที่เราเรียกกันว่าคุกกี้นั้นมีต้นกำเนิดในอาณาจักรเปอร์เซียโบราณ หรือประเทศอิหร่านในปัจจุบัน ทำกินกันตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 7 โน่นแน่ะ อิอิ!
ก่อนวันนัดพบ 1 วันป้าเจี๊ยบลงมือทำบิสกอตติจากวัตถุดิบที่พามาจากอิหร่าน กลีบกุหลาบกับอัลมอนด์ เริ่มด้วยการเตรียมชามแห้งโดยมีแป้งสาลีอเนกประสงค์ 3 1/2 ถ้วยตวง ผงฟู 2 ช้อนชา เกลือป่น 1 ช้อนชา ใช้ตะกร้อมือคนส่วนผสมให้กลมกลืนกัน พักไว้
จากนั้นทำชามเปียกโดยใช้ตะกร้อมือตีไข่ไก่เบอร์สาม 4 ฟองกับน้ำตาลทราย 1 ถ้วยตวง เมื่อเห็นว่าน้ำตาลละลายหมดแล้วป้าเจี๊ยบค่อยๆ รินน้ำมันคาโนลา 1/2 ถ้วยตวงลงไปทีละน้อยในขณะที่ตีจนส่วนผสมทั้งหมดเข้ากันดี มีลักษณะเป็นครีมข้นนิดๆ
ป้าเจี๊ยบเทชามแห้งลงไปในชามเปียก ตามด้วยหัวน้ำกุหลาบ 3 หยด กลีบกุหลาบแห้ง 1/4 ถ้วยตวง อัลมอนด์ดิบสับหยาบๆ 1 1/2 ถ้วยตวง ใช้พายซิลิโคนตะล่อมส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากันดี กลายเป็นแป้งโดที่ปั้นได้
ป้าเจี๊ยบแบ่งแป้งโดเป็น 2 ส่วนเท่าๆ กัน ปั้นแต่ละส่วนเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาด 9 x 4 x 1 นิ้ว วางบนถาดอบที่ปูกระดาษไขไว้ ป้าเจี๊ยบต้องปั้นขนาดนี้และแบ่งอบทีละชิ้น เพราะใช้เตาอบติ๊งติ๊งขนาดภายในจุได้แค่ 11 x 9 นิ้ว ชิ้นที่รอการอบก็พาไปพักไว้ในตู้เย็น หุหุ!
การอบใช้ความร้อนที่อุณหภูมิ 175 องศาเซลเซียส หรือ 350 องศาฟาเรนไฮต์ ไฟบน-ล่าง ระยะเวลา 25 นาทีค่ะ เสร็จแล้วยกออกมาวางพักไว้ นำถาดที่ 2 มาอบอย่างเดียวกัน
เมื่อขนมเย็นตัวลงแล้วป้าเจี๊ยบใช้มีดใบเลื่อยหั่นท่อนขนมตามขวางเป็นชิ้นๆ หนาประมาณ 1/2 นิ้ว เรียงใส่ถาด นำเข้าอบอีกครั้งด้วยความร้อน 150 องศาเซลเซียส หรือ 300 องศาฟาเรนไฮต์ ไฟบนอย่างเดียว อบไป 5 นาทีก็พลิกกลับด้าน อบต่ออีก 5 นาทีจนได้สีน้ำตาลทองสวยงาม กว่าจะอบครบทุกชิ้นก็หลายรอบเหมือนกัน โทษฐานใช้เตาเล็ก อิอิ!
ป้าเจี๊ยบได้บิสกอตติ 36 ชิ้น ใส่ถุงละ 2 ชิ้น พอสำหรับเพื่อนที่ลงชื่อไว้ว่าจะมา 16 คน ที่เหลืออีก 4 ชิ้นก็จัดชากุหลาบ แล้วตามลูกสาวมากินด้วยกันสิคะ!
Tag :
Simply Sweet, อัลมอนด์, เบเกอรี่
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น