เค้กแครอต (Carrot Cake)

วันที่ 21 มกราคม 2563  4,489 Views (0 รีวิว)

หมวดหมู่อาหาร : เบเกอรี่

นิตยสาร Gourmet & Cuisine ฉบับที่ 234 เดือนมกราคม 2563

เค้กแครอตเป็นเค้กที่บ้านเรานิยมกัน จะเห็นว่ามีขายในร้านขายเค้กทั่วไป ในต่างประเทศเค้กนี้มีมานานแล้ว เพราะแครอตเป็นพืชที่นิยมทานกันมาแต่โบราณ

นักประวัติศาสตร์อาหารสันนิษฐานว่าเค้กนี้ทำมาตั้งแต่สมัยยุคกลางของยุโรป ซึ่งสมัยนั้นน้ำตาลหายากและมีราคาแพง จึงใช้แครอตที่มีรสหวานมาช่วยให้ความหวานในขนมพวกพุดดิง (Pudding) ในที่สุดก็พัฒนามาเป็นเค้กที่นิยมกันในปัจจุบัน โดยเฉพาะในสหรัฐอเมริกา

เค้กแครอตมีหลากหลายตำรามาก ตั้งแต่เนื้อเค้กร่วนแห้งจนถึงนุ่มชุ่มฉ่ำ สูตรที่ทำในฉบับนี้เนื้อเค้กจะนุ่มชุ่มปานกลางซึ่งนิยมทำกันมาก

เค้กแครอต

เค้กแครอต (Carrot Cake)
ส่วนผสม

  • แป้งเค้ก 240 กรัม
  • น้ำตาลทราย 280 กรัม
  • เบกกิงโซดา 2 ช้อนชา
  • ผงฟู 2 ช้อนชา
  • อบเชยป่น (Cinnamon) 2 ช้อนชา
  • จันทน์เทศป่น (Nutmeg)  2 ช้อนชา
  • น้ำมันพืช 1 ถ้วย
  • ไข่เบอร์ 0 3 ฟอง (ตีพอเข้ากัน)
  • วานิลลา
  • แครอตนึ่งขูดฝอย  500 กรัม (นึ่ง 7 นาทีแล้วปั่นละเอียด)
  • วอลนัตสับ  1 ถ้วย
  • สับปะรดสับละเอียด 1/2 ถ้วย
  • ลูกเกด 1/2  ถ้วย (ไม่ใส่ก็ได้)

อุปกรณ์ พิมพ์ขนาด 9 นิ้ว จำนวน 2 พิมพ์

วิธีทำ

  1. ใส่แป้งเค้ก น้ำตาล เบกกิงโซดา ผงฟู อบเชย และจันทน์เทศป่น ซึ่งเป็นของแห้งในชามผสม คนด้วยตะกร้อมือให้เข้ากัน
  2. ใส่ไข่  น้ำมัน และวานิลลา คนให้เข้ากัน
  3. ใส่แครอต สับปะรด วอลนัต และลูกเกด คนด้วยตะกร้อมือให้เข้ากัน ตักใส่พิมพ์ นำเข้าอบที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียสนาน 40-45 นาที

ส่วนผสมหน้าเค้ก

  • ครีมชีสพักไว้ในอุณหภูมิห้อง 1  ก้อน
  • เนยพักไว้ให้นุ่ม 133 กรัม
  • น้ำตาลไอซิง 1 ถ้วย
  • น้ำมะนาว 1-2 ช้อนโต๊ะ
  • เกลือป่น 1 ช้อนชา

วิธีทำ

  1. ตีครีมชีสจนขึ้นฟู ใส่เนย ตีต่อจนฟูเบา ใส่น้ำตาลไอซิง น้ำมะนาว และเกลือ ตีต่อจนส่วนผสมเบา ชิมให้ได้รสหวาน ตามด้วยเปรี้ยวและเค็มนิดๆ ทาหน้าเค้กให้ทั่ว เก็บไว้ในตู้เย็นได้หลายสัปดาห์ เมื่อจะรับประทานตัดขนาดชิ้นที่ต้องการ พักไว้ 5 นาที เค้กจะนุ่มเหมือนเดิม

Notes

  • ถ้าไม่ชอบหน้าครีมชีสที่มีรสหวานลดน้ำตาลไอซิงได้
  • เนื้อเค้กมีสีคล้ำเพราะใส่แครอตที่นึ่งแล้วซึ่งจะเก็บได้นาน หรือจะใส่แครอตสดก็ได้ เนื้อเค้กจะมีสีส้มแดงตามสีแครอตมากขึ้น
  • เค้กแครอตใช้วิธีผสมให้เข้ากันเท่านั้น ไม่ต้องตีหรือคนนาน
  • เนื้อเค้กควรจะหนึบๆ และต้องมีกลิ่นหอมของซินนามอน
  • สับปะรดจะใช้ชนิดสดหรือกระป๋องก็ได้ ถ้าใช้สับปะรดกระป๋องเวลาเก็บต้องใส่น้ำของสับปะรดแช่ไปด้วย
  • น้ำตาลที่ใช้ถ้าใช้น้ำตาลเม็ดใหญ่เนื้อจะหยาบ น้ำตาลเม็ดเล็กเนื้อจะเนียนขึ้น
  • ถ้าใส่ลูกเกดที่มีรสหวาน หรือถ้าไม่ชอบหวานลดน้ำตาลลงได้

Tag : Home Gourmet, เค้ก, เบเกอรี่

เรื่องโดย

คะแนนและรีวิว


0.0 จาก 5

ให้คะแนนและเขียนรีวิว

ยังไม่มีรีวิว

ความคิดเห็น

Editor’s Pick

Recent

Most Viewed