เค้กแครอตเป็นเค้กที่บ้านเรานิยมกัน จะเห็นว่ามีขายในร้านขายเค้กทั่วไป ในต่างประเทศเค้กนี้มีมานานแล้ว เพราะแครอตเป็นพืชที่นิยมทานกันมาแต่โบราณ
นักประวัติศาสตร์อาหารสันนิษฐานว่าเค้กนี้ทำมาตั้งแต่สมัยยุคกลางของยุโรป ซึ่งสมัยนั้นน้ำตาลหายากและมีราคาแพง จึงใช้แครอตที่มีรสหวานมาช่วยให้ความหวานในขนมพวกพุดดิง (Pudding) ในที่สุดก็พัฒนามาเป็นเค้กที่นิยมกันในปัจจุบัน โดยเฉพาะในสหรัฐอเมริกา
เค้กแครอตมีหลากหลายตำรามาก ตั้งแต่เนื้อเค้กร่วนแห้งจนถึงนุ่มชุ่มฉ่ำ สูตรที่ทำในฉบับนี้เนื้อเค้กจะนุ่มชุ่มปานกลางซึ่งนิยมทำกันมาก
เค้กแครอต (Carrot Cake)
ส่วนผสม
- แป้งเค้ก 240 กรัม
- น้ำตาลทราย 280 กรัม
- เบกกิงโซดา 2 ช้อนชา
- ผงฟู 2 ช้อนชา
- อบเชยป่น (Cinnamon) 2 ช้อนชา
- จันทน์เทศป่น (Nutmeg) 2 ช้อนชา
- น้ำมันพืช 1 ถ้วย
- ไข่เบอร์ 0 3 ฟอง (ตีพอเข้ากัน)
- วานิลลา
- แครอตนึ่งขูดฝอย 500 กรัม (นึ่ง 7 นาทีแล้วปั่นละเอียด)
- วอลนัตสับ 1 ถ้วย
- สับปะรดสับละเอียด 1/2 ถ้วย
- ลูกเกด 1/2 ถ้วย (ไม่ใส่ก็ได้)
อุปกรณ์ พิมพ์ขนาด 9 นิ้ว จำนวน 2 พิมพ์
วิธีทำ
- ใส่แป้งเค้ก น้ำตาล เบกกิงโซดา ผงฟู อบเชย และจันทน์เทศป่น ซึ่งเป็นของแห้งในชามผสม คนด้วยตะกร้อมือให้เข้ากัน
- ใส่ไข่ น้ำมัน และวานิลลา คนให้เข้ากัน
- ใส่แครอต สับปะรด วอลนัต และลูกเกด คนด้วยตะกร้อมือให้เข้ากัน ตักใส่พิมพ์ นำเข้าอบที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียสนาน 40-45 นาที
ส่วนผสมหน้าเค้ก
- ครีมชีสพักไว้ในอุณหภูมิห้อง 1 ก้อน
- เนยพักไว้ให้นุ่ม 133 กรัม
- น้ำตาลไอซิง 1 ถ้วย
- น้ำมะนาว 1-2 ช้อนโต๊ะ
- เกลือป่น 1 ช้อนชา
วิธีทำ
- ตีครีมชีสจนขึ้นฟู ใส่เนย ตีต่อจนฟูเบา ใส่น้ำตาลไอซิง น้ำมะนาว และเกลือ ตีต่อจนส่วนผสมเบา ชิมให้ได้รสหวาน ตามด้วยเปรี้ยวและเค็มนิดๆ ทาหน้าเค้กให้ทั่ว เก็บไว้ในตู้เย็นได้หลายสัปดาห์ เมื่อจะรับประทานตัดขนาดชิ้นที่ต้องการ พักไว้ 5 นาที เค้กจะนุ่มเหมือนเดิม
Notes
- ถ้าไม่ชอบหน้าครีมชีสที่มีรสหวานลดน้ำตาลไอซิงได้
- เนื้อเค้กมีสีคล้ำเพราะใส่แครอตที่นึ่งแล้วซึ่งจะเก็บได้นาน หรือจะใส่แครอตสดก็ได้ เนื้อเค้กจะมีสีส้มแดงตามสีแครอตมากขึ้น
- เค้กแครอตใช้วิธีผสมให้เข้ากันเท่านั้น ไม่ต้องตีหรือคนนาน
- เนื้อเค้กควรจะหนึบๆ และต้องมีกลิ่นหอมของซินนามอน
- สับปะรดจะใช้ชนิดสดหรือกระป๋องก็ได้ ถ้าใช้สับปะรดกระป๋องเวลาเก็บต้องใส่น้ำของสับปะรดแช่ไปด้วย
- น้ำตาลที่ใช้ถ้าใช้น้ำตาลเม็ดใหญ่เนื้อจะหยาบ น้ำตาลเม็ดเล็กเนื้อจะเนียนขึ้น
- ถ้าใส่ลูกเกดที่มีรสหวาน หรือถ้าไม่ชอบหวานลดน้ำตาลลงได้
Tag :
Home Gourmet, เค้ก, เบเกอรี่
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น