“เค้กปีใหม่อะไรดี?!?” ขึ้นปีใหม่อีกแล้ว ดีใจค่ะที่ตื่นขึ้นมาแล้วพบว่ายังมีชีวิต! ฮา
อายุขนาดป้าเจี๊ยบนี่ถือว่าวันเวลาที่ได้มาเป็นกำไรนะคะ พัฒนาขึ้นจากป้าเจี๊ยบเป็นยายเจี๊ยบ มีโอกาสได้ยินเสียงหลาน 2 ขวบบอกว่า “คุณยายคนสวยมาดูแลพีแคนหน่อยครับ” ทุกครั้งที่จะปีนป่ายเครื่องเล่น
เด็กช่วงนี้คือของขวัญแสนวิเศษที่สุดค่ะ สอนอะไรไปจำได้หมด สอนให้เรียกยายอย่างไรก็เรียกอย่างนั้น อิอิ! ยายจึงมีรอยยิ้มและเสียงหัวเราะได้ตลอดเวลา อยากให้แม่แพรพามาฝากยายเลี้ยงบ่อยๆ
ด้วยวัยที่เพิ่มขึ้นของสมาชิกครอบครัว เรื่องที่ต้องระวังมากขึ้นคือสุขภาพ ป้าเจี๊ยบจัดเมนูอย่างรอบคอบมากขึ้น เมนูคีโต คาร์โบไฮเดรตต่ำ ผักเยอะๆ เข้ามาแทนพาสตาของโปรด ส่วนของหวานจะทำเฉพาะวันพิเศษ ดังนั้นรายการกินกันวันเสาร์ตามปกติจึงเน้นเป็นผลไม้สดมากกว่า
ปีใหม่เป็นโอกาสพิเศษ ป้าเจี๊ยบคิดว่าสมาชิกควรได้กินเค้กพิเศษสักนิด เค้กนี้พิเศษเพราะมีหลายขั้นตอน จึงต้องทำล่วงหน้า ซึ่งไม่ตรงกับจริตของป้าเจี๊ยบที่ชอบทำอะไรง่ายๆ เร็วๆ หุหุ!
เค้กที่ป้าเจี๊ยบตั้งใจทำเป็นเค้กที่คิดขึ้นมาตอนเลี้ยงเพื่อนวัฒนาวิทยาลัยที่มากินอาหารบ้านป้าเจี๊ยบเมื่อหลายเดือนก่อน บรรดาสาวๆ สูงวัยชอบกันมาก
เริ่มด้วยการทำเนื้อเค้กก่อนค่ะ ป้าเจี๊ยบใช้พิมพ์กลมขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 8 นิ้ว ใช้แปรงจุ่มน้ำมันมะกอกทาพิมพ์จนทั่ว แล้วตักแป้งสาลีอเนกประสงค์โรยลงไป จับพิมพ์หมุนให้แป้งเกาะติด จากนั้นคว่ำพิมพ์ลงเคาะเบาๆ เอาแป้งส่วนเกินออกไป พักไว้
ต่อไปเตรียมชามแห้ง มีแป้งสาลีอเนกประสงค์ 3/4 ถ้วยตวง ผงฟู 1/2 ช้อนชา เกลือ 1/4 ช้อนชา ใช้ตะกร้อมือคนให้ส่วนผสมทั้งหมดเข้ากันดีแล้วพักไว้
ถัดมานำไข่ไก่เบอร์สอง 1 ฟองมาแยกไข่แดงออกจากไข่ขาว ใช้ตะกร้อไฟฟ้าตีไข่ขาวด้วยความเร็วสูงจนขึ้นฟูเป็นโฟมแล้วพักไว้
ลงมือทำชามเปียกโดยใช้ตะกร้อไฟฟ้าตีเนยแท้ 1/4 ถ้วยตวงกับน้ำตาลทรายละเอียด 1/4 ถ้วยตวงด้วยความเร็วปานกลางจนน้ำตาลละลายหมด แล้วใส่ไข่แดงขณะที่ตี เมื่อส่วนผสมเข้ากันดีแล้วจึงใส่ส่วนผสมชามแห้ง นมสด 1/4 ถ้วยตวง วานิลลา 1/2 ช้อนชาลงไป ตีต่ออีกประมาณ 1 นาทีให้เข้ากันดี
จากนั้นนำไข่ขาวครึ่งหนึ่งใส่ลงในชามเปียก ใช้พายซิลิโคนตะล่อมอย่างเบามือให้ส่วนผสมเข้ากัน แล้วใส่ไข่ขาวส่วนที่เหลือตะล่อมต่ออีกจนกลมกลืนเป็นเนื้อเดียวกัน เทลงพิมพ์ที่เตรียมไว้ เคาะพิมพ์ 2-3 ครั้งกับเคาน์เตอร์เพื่อไล่ฟองอากาศ นำเข้าเตาอบติ๊งติ๊งที่ตั้งปุ่มไฟบน-ล่าง ปุ่มอุณหภูมิ 325 องศาฟาเรนไฮต์ หรือ 165 องศาเซลเซียส ปุ่มเวลา 25 นาที
ติ๊ง! นำเค้กออกจากเตามาวางพักไว้ประมาณ 5 นาที แล้วจึงยกออกจากพิมพ์มาพักไว้บนตะแกรงให้เย็นสนิท แล้วจึงใช้ลวดตัดเค้กตามแนวนอน แบ่งเค้กออกเป็น 2 ชั้น
ระหว่างที่อบเค้กป้าเจี๊ยบเตรียมวัตถุดิบสำหรับทำเลมอนเคิร์ด (Lemon Curd) ประกอบด้วยเจลาติน 2 ช้อนชาโรยลงในถ้วยใส่น้ำเปล่า 2 ช้อนโต๊ะ พักไว้ แล้วคั้นเลมอนให้ได้น้ำเลมอน 1/3 ถ้วยตวง
จากนั้นป้าเจี๊ยบใช้ตะกร้อมือตีไข่ไก่เบอร์สอง 2 ฟองกับน้ำตาลทราย 1/4 ถ้วยตวง พอน้ำตาลละลายหมดก็ใส่นมสด 1/3 ถ้วยตวง นำไปกรองด้วยกระชอน ใส่ลงในหม้อเคลือบเตรียมไว้
เมื่อเอามือแตะดูเค้กที่พักไว้ว่าไม่ร้อนแล้ว ป้าเจี๊ยบยกหม้อเคลือบขึ้นตั้งเตา ผสมเนยแท้รสเค็มละลาย 1 ช้อนโต๊ะ เจลาติน และน้ำเลมอนลงไป เปิดไฟปานกลาง ใช้ตะกร้อมือคนไปเรื่อยๆ ประมาณ 10 นาทีจนส่วนผสมข้นก็ปิดไฟ
ทีนี้ก็เป็นการประกอบเค้กเข้าเป็นชั้นๆ ค่ะ ป้าเจี๊ยบใช้จานแก้วทรงกลมขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 7 นิ้ว ขอบสูง 2 นิ้ว ใช้จานวัดตัวเค้ก แล้วตัดขอบเค้กออกให้พอดีกับจาน นำเค้กชั้นที่ 1 วางลงที่ก้นจาน บีบวิปปิงครีมบนเค้กจนทั่ว ตักบลูเบอร์รีท็อปปิงทับลงบนวิปปิงครีม แล้วบีบวิปปิงครีมปิดทับลงไป
จากนั้นนำเค้กชั้นที่ 2 วางซ้อนทับลงไป ตักเลมอนเคิร์ดทั้งหมดทับบนเค้ก เกลี่ยและเคาะจานเบาๆ ให้ผิวหน้าเรียบ หยอดบลูเบอร์รีท็อปปิงเป็นหย่อมๆ ใช้ไม้จิ้มฟันวาดไปมาให้เป็นลวดลาย เสร็จแล้วใช้แผ่นฟิล์มถนอมอาหารปิดหน้าไว้เพื่อป้องกันไม่ให้ผิวหน้าเลมอนเคิร์ดแข็ง นำเข้าแช่ตู้เย็นไว้ไม่น้อยกว่า 3 ชั่วโมง! เห็นไหมคะว่าเค้กนี้พิเศษจริงๆ
นี่ถ้าป้าเจี๊ยบไม่ขี้เกียจล่ะก็จะทำใส่ถ้วยแก้วเก๋ๆ เสิร์ฟเป็นคนๆ ไปเลยนะเนี่ย แต่ว่าแบบนี้ก็ถูกปากถูกใจทุกคนนะ
Tag :
Simply Sweet, เค้ก, เบเกอรี่
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น