“ป้าหกล้ม สะดุด Step หน้าบ้าน หัวเข่ากระแทกอย่างแรง ปวดมาก เดินไม่ถนัด”

ป้าแจงไลน์ข้อความเข้ามาในกลุ่มครอบครัว ทำให้ตกอกตกใจกันใหญ่ เพราะการล้มของ สว. (สูงวัย) เป็นเรื่องอันตรายมาก หลังจากไปหาหมอและแจ้งผลมาว่าไม่มีอะไรแตกหัก ทุกคนก็สบายใจ แต่ป้าเจี๊ยบอดไม่ได้ที่ต้องไปดูด้วยตาตัวเอง จึงขับรถไปเยี่ยมพี่สาวที่กลางดง

นอนค้างที่กลางดงค่ะ เพราะถึงตอนทุ่มกว่า ตื่นเช้ามาป้าแจงพาไปใส่บาตรและเลี้ยงอาหารนกยูง ไก่ เป็ด ห่าน ที่วัดพระขาวใกล้บ้าน สายๆ พาเที่ยวตลาดปากช่อง มีลุงหน่อยเป็นสารถี ตกเย็นพาไปเลี้ยงที่ร้าน Vano’s ซึ่งย้ายจากปากช่องมาเปิดใหม่ในซอยตรงข้ามซอยบ้านป้าแจง

ร้านนี้เป็นที่โปรดปรานของป้าแจงและลุงหน่อยค่ะ กินกันแล้วก็จะส่งไลน์มาอวดรูปอาหารให้พวกเราน้ำลายสอ แถมบอกว่าใครมากลางดงจะพาไปเลี้ยง อิอิ! ป้าเจี๊ยบมากลางดงแว้ววว…

เราสั่งไส้กรอก สเต๊กเนื้อ สเต๊กแกะ กินแล้วก็บอกป้าแจงว่าอร่อยจริงสมกับที่คุยไว้เลย ทันใดนั้นป้าแจงเหลือบไปเห็นคุณกิ๊ป-วรรณโณ เจ้าของร้านและเชฟ  รีบบอกพนักงานเสิร์ฟว่าขอเชิญคุณกิ๊ปมาที่โต๊ะ ป้าแจงคุยเก่งค่ะ แนะนำตัวเองว่าเป็นลูกค้าเก่า เล่าความสัมพันธ์เชื่อมโยงไปถึงคุณพ่อของคุณกิ๊ปและเรื่องโน่นนี่นั่น ต่อด้วยการบอกว่าวันนี้พาน้องสาวมาชิม น้องสาวชมว่าอาหารอร่อยทุกอย่าง

และแล้ว...ป้าแจงเริ่มคุยว่าน้องสาวทำอาหารเก่งเหมือนกัน อั๊ยย่ะ!@#$?.. ทำของหวานก็เก่ง เขียนคอลัมน์ของหวานใน Gourmet & Cuisine ด้วยนะ โอ๊ะโอ๋@#!*!

คุณกิ๊ปหันมามองป้าเจี๊ยบทันที  แล้วพูดว่า...ผมตามคอลัมน์ป้าเจี๊ยบนะ เคยสงสัยเวลาป้าเจี๊ยบเล่าว่ามากลางดงน่ะ มันตรงไหนของกลางดง ขนมของป้าเจี๊ยบทำง่าย ทำได้จริง ป้าเจี๊ยบใช้เตาติ๊งติ๊ง ฯลฯ  ว้าว! ว้าว! ว้าว!  พูดแบบนี้แฟนตัวจริงแน่นอน งานนี้ป้าแจงเป็นปลื้มกว่าใคร.. หุหุ

เช้าวันรุ่งขึ้น เราทุกคนกลับเข้ากรุงเทพฯ เพราะป้าแจงมีนัดไปงานเลี้ยง ป้าเจี๊ยบกลับมาทำอาหารวันครอบครัวให้สมาชิกกินกันวันเสาร์ เมนูข้าวต้มกุ๊ย กับข้าว 15 อย่าง!!!  ของหวานปังอบเชย… ทุกคนชอบ แต่ป้าแจงไม่ชอบ เพราะลูกเกดของป้าเจี๊ยบแช่เหล้ารัม!!!  

3 วันต่อมา ลุงหน่อยนัดมารับป้าแจงกลับกลางดง ป้าเจี๊ยบเลยทำปังอบเชยแบบใส่ลูกเกดธรรมดาเป็นของฝาก  เริ่มด้วยการตวงแป้งสาลีอเนกประสงค์ 1 1/2 ถ้วยตวง เกลือ 1/2 ช้อนชา น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ ยีสต์สำเร็จรูป 1 1/2 ช้อนชา ใส่ลงในชาม ใช้ตะกร้อมือคนให้ส่วนผสมเข้ากัน แล้วทำบ่อไว้ตรงกลาง พักไว้ 

จากนั้นใส่นมสด 1/2 ถ้วยตวงและเนยสด 1 ช้อนโต๊ะลงในถ้วยกระเบื้อง นำเข้าเตาไมโครเวฟประมาณ 1 นาทีเพื่อให้เนยละลายและนมอุ่นจัด เทลงในบ่อแป้งที่เตรียมไว้ ตอกไข่ไก่เบอร์สาม 1 ฟอง ตามลงไป ใช้ส้อมคนให้แป้งจากขอบโดยรอบค่อยๆ เข้ามาผสมกับของเหลวตรงกลางจนไม่มีเศษแป้งที่เป็นผงสีขาวเหลืออยู่ และแป้งโดไม่ติดขอบชาม

ป้าเจี๊ยบคว่ำชามให้แป้งโดออกมาบนพื้นเคาน์เตอร์ที่โรยแป้งสาลีอเนกประสงค์บางๆ ไว้เป็นแป้งนวล ใช้มือนวดแป้งสลับกับการโรยแป้งนวลกันติดมือและติดเคาน์เตอร์ประมาณ 5 นาที ได้แป้งโดเนื้อเนียนนุ่มแล้วก็นำไปใส่ในชามที่ทาน้ำมันมะกอกไว้ ปิดปากชามด้วยพลาสติกถนอมอาหาร วางพักไว้ประมาณ 1 ชั่วโมง

ระหว่างที่รอให้แป้งโดขึ้นฟู ป้าเจี๊ยบเตรียมถ้วยเนยสดรสเค็ม 1/4 ถ้วยตวง วางไว้ให้อ่อนตัวที่อุณหภูมิห้อง ถ้วยน้ำตาลทรายแดง 1/2 ถ้วยตวงผสมกับอบเชย 1 ช้อนโต๊ะจนเข้ากัน และถ้วยลูกเกด 1/2 ถ้วยตวง

เมื่อครบเวลาป้าเจี๊ยบเอาแป้งโดที่ขึ้นฟูแล้วออกมานวดไล่ฟองอากาศ 2-3 นาที โรยแป้งนวลนิดหน่อยเพื่อกันติด ใช้ลูกกลิ้งแผ่แป้งโดเป็นแผ่นสี่เหลี่ยมขนาด 9 x 6 นิ้ว จากนั้นใช้แปรงจุ่มเนยที่เตรียมไว้ ทาแผ่นแป้งจนทั่ว ต่อด้วยการโรยน้ำตาลอบเชย ตามด้วยลูกเกด พยายามให้สม่ำเสมอและทั่วถึงค่ะ

จากนั้นใช้มือม้วนด้านยาวเข้าไปเรื่อยๆ จนมีลักษณะเป็นท่อนทรงกระบอกยาว 9 นิ้ว ใช้มีดตัดออกเป็นท่อน ท่อนละ 1 นิ้ว นำไปใส่ถ้วยกระดาษขนาด 2 นิ้ว วางในลักษณะก้นหอย แล้วเรียงถ้วยทั้งหมดบนตะแกรงเตาอบติ๊งติ๊ง ตั้งปุ่มความร้อน 325 องศาฟาเรนไฮต์ หรือ 160 องศาเซลเซียส ปุ่มไฟบน-ล่าง ยังไม่เปิดปุ่มเวลาให้เตาทำงานค่ะ ป้าเจี๊ยบทิ้งไว้ประมาณ 40 นาที รอให้แป้งโดขึ้นฟูอีกครั้ง แล้วจึงบิดปุ่มเวลาไปที่ 15 นาที 

ระหว่างรอแป้งโดขึ้นฟูรอบ 2  ป้าเจี๊ยบเตรียมผสมเนยสดรสเค็มละลาย 2 ช้อนโต๊ะกับน้ำผึ้ง 2 ช้อนโต๊ะ พอติ๊ง! ออกมาจากเตาร้อนๆ ก็ตักราดหน้าเลยค่ะ เสร็จทันให้ป้าแจงถือปังอบเชยขึ้นรถกลับไปกลางดงพอดี  

3 ชั่วโมงต่อมา ป้าแจงส่งไลน์รูปลุงหน่อยมือหนึ่งถือปังอบเชยครึ่งชิ้น อีกมือยกนิ้วโป้ง พร้อมข้อความว่าสูตรนี้ OK มาก ไส้ในชุ่มฉ่ำ อาหย่อยยย...

ลุงหน่อยบอกว่าอร่อยมาก ทำไมเอามาน้อยจัง! 

Tag : Simply Sweet, อบเชย, เบเกอรี่