วันนี้ขอพาไปพบกับเชฟสาวร่างเล็กแต่มากประสบการณ์ เธอคืออาจารย์เชฟสอนทำขนมและเป็นวิทยากรให้กับผลิตภัณฑ์เบเกอรี่ชื่อดัง “เชฟบัว-จินต์สุดา ม่วงพูลสวาสดิ์”
เส้นทางแป้งและเนยของเชฟบัวเริ่มจากคนใกล้ตัวอย่างคุณน้าของเชฟที่ทั้งทำขนมเอง กวนแยม ทำโยเกิร์ต และทำเค้กวันเกิดให้เธอเป็นประจำ และเชฟยังอยู่ใกล้ชิดกับคุณยายเลยซึมซับความชอบทำอาหารไปด้วย แม้ว่าเธอจะไม่ได้เรียนด้านอาหารเลย แต่ด้วยใจที่รัก (ในการกิน) และเรียนรู้เพิ่มเติมด้วยตัวเอง รวมทั้งบินไปเรียนเบเกอรี่กับเชฟดังๆ ที่ต่างประเทศ ทำให้วันนี้เชฟบัวมีคลาสสอนทำขนมแบบไม่ว่างเว้น
เชฟบัวเปิดคลาสสอนทำขนมกับเพื่อนในนาม “Bake it Make it” รวมทั้งเป็นวิทยากรพิเศษให้กับบริษัทขายอุปกรณ์เบเกอรี่ รวมทั้งผลิตภัณฑ์ครีม เนย และชีสอย่างแบรนด์แองเคอร์อีกด้วย เชฟเล่าว่าบรรยากาศในคลาสนักเรียนทุกคนได้ลงมือทำเองทั้งหมด เริ่มตั้งแต่ชั่งตวง เพราะเป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับการทำขนมและใช้อุปกรณ์เหมือนกับที่ทำอยู่ที่บ้าน ได้เรียนรู้วัตถุดิบที่หลากหลาย นักเรียนจะได้มั่นใจเมื่อกลับไปทำเองที่บ้าน เมื่อเรียนแล้วสามารถนำสูตรไปดัดแปลงสร้างสรรค์ขนมของตนเองโดยไม่ต้องยึดติดกับสูตรเดิมมากจนเกินไป นำขนมคลาสสิกมาดัดแปลงปรับเปลี่ยนหน้าตาได้ตามใจชอบ
เชฟบัวให้ความเห็นว่าวัตถุดิบสำคัญกว่าอุปกรณ์แพงๆ ถ้าวัตถุดิบคุณภาพดีขนมจะอร่อย จากนั้นที่เหลือก็คือการฝึกฝนฝีมือให้สม่ำเสมอ ขนมอร่อยก็ทำได้ไม่ยาก อย่างเช่นเมนูพิเศษในฉบับนี้เชฟใช้ครีมชีสและวิปปิงครีมของแองเคอร์มาทำเค้กแครอตที่ใส่เครื่องจัดเต็มทั้งแครอตขูด มะพร้าว สับปะรด และแครนเบอร์รี เชฟใส่ลูกเล่นด้วยแป้งทาร์ตเพิ่มความกรุบกรอบให้กับขนม และเปลี่ยนจากครีมชีสฟรอสติงที่เนื้อหนักเป็นครีมชีสมูสที่มีเนื้อเบาขึ้น ตรงกลางสอดไส้ด้วยเจลลีแครอตและส้มเพิ่มความสดชื่น ตกแต่งอย่างสวยงามด้วยสับปะรดอบและก้านอบเชย
ทำให้ขนมคลาสสิกอย่างเค้กแครอตหน้าตาดูน่ากิน มีลูกเล่นแปลกใหม่ ทำกินก็อร่อย ทำขายก็รวย
แครอตเค้กทาร์ต (Carrot Cake Tart)
ส่วนผสมและวิธีทำแป้งทาร์ต
- เนยสดจืดเย็นจัด 50 กรัม
- น้ำตาลไอซิง 20 กรัม
- อัลมอนด์ป่นละเอียด 20 กรัม
- เกลือป่น 1/8 ช้อนชา
- ไข่ไก่ 15 กรัม
- กลิ่นวานิลลา 1/2 ช้อนชา
- แป้งสาลีอเนกประสงค์ 90 กรัม
วิธีทำ
- ผสมเนยกับแป้งสาลี อัลมอนด์ป่น เกลือ และน้ำตาลไอซิงเข้าด้วยกัน ใช้ส้อมหรือไม้พายแข็งๆ ตัดให้แป้งกับเนยกระจายตัว ใช้นิ้วมือบี้ให้เป็นเม็ดทราย
- ใส่ไข่และกลิ่นวานิลลา นวดผสมเบาๆ แค่พอเข้ากัน ห่อด้วยพลาสติกแร็ป แช่เย็นนาน 30-60 นาที นำออกมารีดให้บาง กรุลงในพิมพ์ทาร์ต นำไปแช่เย็น
ส่วนผสมและวิธีทำเค้กแครอต
- ไข่ไก่ 2 ฟอง
- น้ำตาลทรายแดง 150 กรัม
- น้ำมันรำข้าว 120 มิลลิลิตร
- แครอตขูด 200 กรัม
- แครนเบอร์รี 50 กรัม
- สับปะรดสับ 50 กรัม
- มะพร้าวขูดอบแห้ง 50 กรัม
- แป้งเค้ก 150 กรัม
- อบเชยป่น 1 ช้อนชา
- เบกกิงโซดา 1 ช้อนชา
- เกลือป่น 1/2 ช้อนชา
วิธีทำ
- อุ่นเตาอบที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียสเตรียมไว้ ร่อนแป้งเค้ก เบกกิงโซดา อบเชยป่น และเกลือเข้าด้วยกัน พักไว้
- ตีไข่ด้วยความเร็วจนสีอ่อนลงและปริมาณเพิ่มเป็น 2 เท่า ใส่น้ำตาลทรายแดง ตีต่อจนขึ้นฟู ค่อยๆ ใส่น้ำมันรำข้าวลงไปเป็นสาย ตีด้วยความเร็วสูงตลอดเวลาจนส่วนผสมเป็นครีม (เมื่อยกตะกร้อขึ้นแล้วจะเป็นเส้นๆ)
- ผสมมะพร้าวขูด แครอต สับปะรด และแครนเบอร์รี เทใส่ส่วนผสมไข่แล้วตะล่อมให้เข้ากัน
- ค่อยๆ ใส่ส่วนผสมแป้งที่ผสมไว้ ตะล่อมเบาๆ ให้พอเข้ากัน ตักใส่แป้งทาร์ตให้เต็ม นำเข้าเตาอบนาน 20-25 นาทีจนสุกแป้งทาร์ตสีสวย ยกลง พักไว้ให้เย็นสนิท
ส่วนผสมครีมชีสมูส
- วิปปิงครีม 100 กรัม ไวต์ช็อกโกแลต 70 กรัม ครีมชีส 250 กรัม น้ำตาลไอซิง 1 ช้อนโต๊ะ ผิวส้มขูด 1 ช้อนชา และเกลือป่น 1/4 ช้อนชา
วิธีทำครีมชีสมูส
- ตีวิปปิงครีมจนตั้งยอดแข็ง นำไปแช่เย็นพักไว้ ละลายไวต์ช็อกโกแลต พักไว้
- ตีครีมชีสกับน้ำตาลไอซิงจนเนื้อเนียน ใส่เกลือ ผิวส้ม และไวต์ช็อกโกแลตละลาย ตีจนเข้ากัน ใส่วิปครีมลงตะล่อมให้เข้ากัน (อย่าผสมมากจนเกินไป)
ส่วนผสมเจลลีแครอต
- แครอตขูด 75 กรัม ผงวุ้น 1 ช้อนชา และน้ำส้มคั้นสด 200 กรัม
วิธีทำเจลลีแครอต
- ต้มทุกอย่างรวมกันจนเดือด ช้อนฟองออกและเทใส่พิมพ์ แช่เย็นจนเซ็ตตัว
วิธีประกอบเค้ก
- เมื่อเค้กทาร์ตเย็นสนิทแล้ววางเจลลีแครอตตรงกลาง บีบครีมชีสมูสรอบๆ ตกแต่งด้วยสับปะรดอบและก้านอบเชย
Notes
- ขอขอบคุณ : ผลิตภัณฑ์แองเคอร์ โทร. (รอเซลล์)
- เอื้อเฟื้อสถานที่ : Kitchen World เอกมัย
Tag :
ทาร์ต, เบเกอรี่, แครอต
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น