หลังจากติดตามรายการ Top Chef Thailand จนจบซีซัน และได้แสดงความยินดีผ่านหน้าจอโทรทัศน์กับตำแหน่งรองชนะเลิศของ "เชฟเมย์-พัทธนันท์ ธงทอง" ไปเมื่อ 2 เดือนก่อน วันนี้เป็นโอกาสครั้งสำคัญที่ G&C จะได้ร่วมดีใจอย่างเป็นทางการ พร้อมพูดคุยกับเชฟเมย์ถึงความสนุกสนานของอาชีพเชฟในหลาย 10  ปีที่ผ่านมา รวมถึงยังนำสูตร Jasmine Crème Brûlée หน้าตาสวยหวาน รสละมุน ซึ่งเชฟเมย์ตั้งใจถ่ายทอดถึงความรักของคุณแม่มาฝากผู้อ่านให้ได้อิ่มท้องพร้อมอิ่มใจไปด้วยกัน

เชฟเมย์เริ่มต้นบทสนทนากับเราด้วยแววตาจริงจัง พร้อมเล่าให้ฟังว่าความรู้สึกผูกพันกับอาหารเกิดขึ้นตั้งแต่ยังเป็นเด็กน้อย เมื่อโตขึ้นมาได้ทำงานในบริษัทมีตำแหน่งและเงินเดือนค่อนข้างดี แต่ขาดแรงกระตุ้นและแรงผลักดัน ที่สำคัญคือไม่มีจุดมุ่งหวังก็เริ่มไม่มีความสุขกับงานที่ทำ จึงตัดสินใจลาออกมาลองทำในสิ่งที่คิดว่าชอบที่สุด นั่นคือการเป็นเชฟ

"เมย์ไปอยู่อเมริกา 3 ปีด้วยเงินก้อนสุดท้าย เพื่อพิสูจน์ใจตัวเองว่าเรารักการทำอาหารจริงๆ ใช่ไหม ไปตอนแรกก็ยังไม่มีเงินลงเรียนคอร์สทำอาหารค่ะ จึงเริ่มจากเรียนภาษาและทำงานทุกตำแหน่งที่เกี่ยวข้องกับร้านอาหารไปก่อน เมื่อรู้แล้วว่าชอบทางนี้จริงๆ เราเลยทำงานหนักขึ้นเพื่อส่งตัวเองเรียน ทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับสิ่งที่กินเข้าไปเมย์จะพยายามดึงตัวเองเข้าไปอยู่ในนั้นทั้งเรียนทำอาหาร เรียนบาร์เทนเดอร์ เรียน Hotel and Restaurant Management และเรียนบริหาร วางแผนครัว ไฟแนนซ์ต่างๆ  ตอนนั้นเป็นช่วงเวลาที่เหนื่อยแต่มีความสุขมาก ว่างๆ ก็เรียนรู้เองจากหนังสือและทีวีโชว์เพิ่มเติม อยู่อเมริกาไม่เคยดูช่องไหนเลยนอกจาก Food Network (หัวเราะ) ดูทุกรายการแต่ไม่ลอกเลียนนะ เวลานั่งดูก็จะมีสมุดจดอยู่ 1 เล่ม คอยจดว่าเชฟใช้เทคนิคอะไรแล้วนำมาประยุกต์ใช้ให้เป็นตัวเอง"

เมื่อความรู้เรื่องอาหารเพิ่มมากขึ้นจนถึงจุดหนึ่ง เชฟเมย์ก็เดินทางหอบความรัก ความหวัง และความตั้งใจในการเป็นเชฟกลับมาที่บ้านเกิด และได้เข้าร่วมการแข่งขันทำอาหารหลายรายการ พร้อมคว้ารางวัลแห่งความภูมิใจมาครองมากมาย จนเมื่อ 5 ปีที่แล้วเชฟเมย์ได้เป็น Owner Chef ประจำร้านอาหาร Monkey's Kitchen ตามที่ตั้งใจไว้ สิ่งสำคัญที่ทำให้หัวใจเข้มแข็งและผ่านอุปสรรคต่างๆ มาได้เชฟเมย์บอกว่าคือครอบครัว โดยเฉพาะคุณแม่ที่เป็นทั้งครูคนแรกที่คอยให้ความรู้เรื่องอาหารและยังเป็นแบบอย่างในการใช้ชีวิต จนทำให้คุณเมย์เป็นเชฟเมย์อย่างที่เรารู้จักกันนั่นเอง

"แม่ของเมย์มีความขยัน อดทน และพยายาม ซึ่งคุณแม่ก็สอนให้เราเป็นแบบนั้น นั่นคือสิ่งที่ทำให้รู้ว่าดีมากเลยที่ได้เกิดมาเป็นลูกของแม่ ตอนเด็กๆ เคยโกรธคุณแม่ว่าทำไมไม่ยอมให้ลูกเล่นของเล่น ทำไมถึงอยากให้ลูกทำงาน ไปสวนไปไร่ ก็เพื่อให้รู้จักความลำบาก สอนให้รู้ว่ากว่าจะได้เงินมานั้นยากขนาดไหน เวลาเมย์ท้อจะรู้สึกว่าล้มเลิกความตั้งใจไม่ได้ เพราะพ่อกับแม่เป็นนักสู้ให้เราเห็นเสมอ คุณแม่เป็นผู้หญิงที่แกร่งมาก ความห้าวหาญของเมย์ได้มาจากคุณแม่เต็มๆ...

"พอนึกถึงความรักที่มีต่อคุณแม่แล้ว...ทำให้นึกถึงขนมหวานตลอดเลย ไม่รู้ทำไม (ยิ้ม)"

Jasmine Crème Brûlée

• ไข่ไก่ 1 ฟอง
• ไข่แดงไข่ไก่ 5 ฟอง
• กลิ่นดอกมะลิ (Jasmine Extract) 3 ช้อนชา
• น้ำตาลทราย 3/4 ถ้วย
• Extra Yield Cooking Cream 3 ถ้วย
• เบอร์รีตามชอบ
• ดอกมะลิสำหรับตกแต่ง

วิธีทำ

1. ตั้ง Extra Yield Cooking Cream บนไฟอ่อนปานกลางจนวัดอุณหภูมิได้ 40 องศาเซลเซียส พักไว้
2. ตีไข่แดงและไข่ขาว ใส่น้ำตาล ตีจนเนื้อเนียน ใส่ครีมที่อุ่นไว้ ตีให้เข้ากัน ใส่กลิ่นมะลิ แล้วกรองผ่านกระชอนละเอียด
3. เทใส่ถ้วยสำหรับอบ นำไปอบในถาดที่หล่อน้ำร้อนไว้ที่อุณหภูมิ 110 องศาเซลเซียสนาน 1 ชั่วโมง 45 นาที
4. ยกออกจากเตา โรยหน้าด้วยน้ำตาล แล้วใช้ที่พ่นไฟ (Torch) เผาน้ำตาลจนเป็นสีน้ำตาลสวย เสิร์ฟพร้อมเบอร์รี ตกแต่งด้วยดอกมะลิ                        

Tag : Chef’s signature dish, ขนมหวาน, เบเกอรี