"มัสมั่นแกงแก้วตา หอมยี่หร่ารสร้อนแรง
ชายใดได้กลืนแกง แรงอยากให้ใฝ่ฝันหา
ยำใหญ่ใส่สารพัด วางจานจัดหลายเหลือตรา
รสดีด้วยน้ำปลา ญี่ปุ่นล้ำย้ำยวนใจ..."
เชื่อว่าหลายคนคงคุ้นเคย (และเคยท่องจำในชั้นเรียน) กับกาพย์เห่ชมเครื่องคาวหวาน ส่วนหนึ่งของกาพย์เห่เรือ พระราชนิพนธ์ในรัชกาลที่ 2 แต่คงมีน้อยคนที่จะจดจำกาพย์สุดคลาสสิกบทนี้จนขึ้นใจและหยิบความสนใจใคร่รู้ที่มีต่ออาหารไทยสมัยโบราณมาต่อยอดจนกลายเป็นเชฟผู้เชี่ยวชาญ เช่นเดียวกับ "เชฟต้น-มนตรี จิรฐิติกาลกิจ" หัวหน้าเชฟประจำห้องอาหารไทย Smooth Curry โรงแรมพลาซ่า แอทธินี รอยัล เมอริเดียน ซึ่งนำแรงบันดาลใจในชั้นเรียนภาษาไทยมาเป็นจุดเริ่มต้นของอาชีพเชฟที่คลุกคลีมายาวนานกว่า 18 ปี
"สมัยเรียนอยู่ชั้นประถมฯ ผมเรียนท่องกาพย์เห่ชมเครื่องคาวหวานแล้วติดใจที่มีรายละเอียดของอาหารต่างๆ สอดแทรกไว้เยอะมาก จึงสนใจแล้วเลือกเรียนมาทางสายอาหารไทยซึ่งทั้งสนุกและท้าทาย เพราะคนโบราณไม่มีสูตรชัดเจน ต้องใช้การกะอย่างเดียว เราจึงต้องลองศึกษาและทดลองสูตรเอง แต่จริงๆ มันก็จะมีมาตรฐานอยู่ว่าแกงเขียว แกงแดง หรือแกงส้มต้องใส่อะไร อย่างไร ต้องใส่ส่วนผสมตัวไหนมากกว่า
"ที่สำคัญเสน่ห์ของอาหารไทยคือความประณีต ความละเอียดลออในการทำที่จะลัดขั้นตอนไม่ได้เลย แกงก็ต้องเคี่ยวให้แตกมันได้ที่ ไม่อย่างนั้นรสชาติอาจเพี้ยนไปเลย และยังต้องอาศัยประสบการณ์ ต้องชิมบ่อยๆ แล้วดูว่าใส่อะไรประมาณไหน ซึ่งรสมือของแต่ละคนก็คงไม่เหมือนกันเป๊ะ แต่เราต้องคงมาตรฐานรสชาติของอาหารจานนั้นๆ ตามแบบดั้งเดิมไว้ให้ได้"
ส่วนเรื่องความอร่อยของอาหารไทยที่มาจากรสมือของแต่ละคน เราเห็นด้วยกับเชฟต้นร้อยเปอร์เซ็นต์ เพราะจานเด็ดยอดนิยมของเชฟอย่าง "แกงปูใบชะพลู" ไม่เหมือนใครจริงๆ ด้วยน้ำพริกแกงรสชาติเข้มข้นจัดจ้านแบบปักษ์ใต้ ผสานความหอมของใบชะพลูและความสดหวานจากเนื้อปู ซึ่งเคล็ดลับสำคัญของเชฟต้นอยู่ที่การผัดพริกแกงให้แตกมันแล้วจึงใส่ใบชะพลู ตามด้วยเนื้อปูเป็นอย่างสุดท้ายเพื่อไม่ให้เละไปกับน้ำพริกแกง กินกับปูนิ่มคลุกแป้งทอดกรอบเข้ากันได้อย่างลงตัว รวมทั้งเส้นหมี่เหนียวนุ่มที่แช่น้ำไว้ประมาณ 30 นาที แล้วจึงลวกในน้ำเดือดอีก 3 นาทีก่อนนำมาผ่านน้ำเย็นอีกรอบแล้วม้วนเสิร์ฟ พร้อมโรยหอมเจียวเพิ่มความอร่อยสมบูรณ์แบบ
แค่ชิมคำแรกก็ต้องบอกว่าวางช้อน (และหยุดกิน) ไม่ได้เลยทีเดียว
แกงปูใบชะพลู
ส่วนผสมน้ำพริกแกง
- พริกขี้หนูสด 25-30 เม็ด
- พริกขี้หนูแห้ง 15-20 เม็ด
- ผิวมะกรูด 2 ช้อนชา
- ตะไคร้หั่นฝอย 2 ช้อนโต๊ะ
- กระชายหั่นฝอย 1 ช้อนโต๊ะ
- หอมแดงไทย 1/4 ถ้วย
- ข่าหั่นฝอย 2 ช้อนชา
- กระเทียมไทย 1/4 ถ้วย
- ขมิ้นสดขูดผิวแล้วหั่น 1 ช้อนชา
- กะปิอย่างดี 1 ช้อนชา
- เกลือไทย 1/2 ช้อนชา
วิธีโขลกน้ำพริกแกง
โขลกพริกกับเกลือให้ละเอียด ใส่ส่วนผสมที่เหลือ โขลกต่อจนละเอียดเป็นเนื้อเดียวกัน
ส่วนผสม
- ปูนิ่ม 1 ตัว
- เนื้อปู 120 กรัม
- เส้นหมี่แช่น้ำพอนุ่ม 50 กรัม
- น้ำพริกแกงที่เตรียมไว้
- หัวกะทิ 4 ถ้วย
- หางกะทิ 1 1/2 ถ้วย
- แป้งสาลีสำหรับทอดกรอบ 1/4 ถ้วย
- ใบชะพลูหั่นหยาบๆ 1/2 ถ้วย
- ใบมะกรูดฉีก 2 ใบ
- น้ำตาลมะพร้าว 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
- กระเทียมเจียว 1 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ
- ล้างปูนิ่มให้สะอาด พักไว้ให้สะเด็ดน้ำ นำมาคลุกกับแป้งสาลีให้ทั่ว ทอดให้กรอบ พักไว้
- ลวกเส้นหมี่ในน้ำเดือด ตักขึ้น พักไว้ให้สะเด็ดน้ำ โรยกระเทียมเจียว
- ผัดน้ำพริกแกงกับหัวกะทิให้แตกมันและมีกลิ่นหอม ค่อยๆ ใส่หางกะทิทีละนิดจนหมด ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาลมะพร้าว ใส่ใบชะพลู เนื้อปู และใบมะกรูด ชิมรสให้เค็มนำหวานตามเล็กน้อย เสิร์ฟพร้อมเส้นหมี่ลวกและปูนิ่มทอดกรอบ
Notes
ขอขอบคุณ
ห้องอาหาร Smooth Curry โรงแรมพลาซ่า แอทธินี กรุงเทพฯ ถนนวิทยุ โทร. 0-2650-8800
Tag :
Chef’s signature dish, ปู, อาหารปักษ์ใต้
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น