กินและเที่ยวเป็นกิจกรรมหลังเกษียณที่จัดกันเป็นประจำ และเริ่มจะถี่มากขึ้น เพราะมีทั้งกลุ่มเพื่อนร่วมงาน เพื่อนเรียนมหาวิทยาลัย เพื่อนเรียนมัธยม เพื่อนเรียนประถม และแต่ละกลุ่มยังแยกย่อยออกไปอีก
ป้าเจี๊ยบคิดว่าเป็นโชคดีนะคะที่ยังมีเพื่อนเที่ยวและเพื่อนกิน อายุมากขึ้นอย่างนี้หลายคนหาเพื่อนกินเพื่อนเที่ยวไม่ได้ เพราะเพื่อนคนโน้นคนนี้ถูกหมอห้ามกินโน่นกินนี่ หรือสุขภาพไม่แข็งแรงที่จะเที่ยวสมบุกสมบัน แบกเป้ลากกระเป๋ากันแบบที่ป้าเจี๊ยบจัดทัวร์
กลุ่มที่นัดกันบ่อยที่สุดคือเพื่อนสมัยมัธยม ถ้าไม่กินกันที่บ้านป้าเจี๊ยบก็เลือกร้านที่สมาชิกชอบ เวลาเจอกันทุกครั้งก็จะมีของฝากกันและกัน ป้าเจี๊ยบมักจะได้ของฝากมากหน่อย เพราะเป็นเจ้าบ้านและแม่ครัวทำอาหารเลี้ยงเพื่อนๆ
ล่าสุดนัดไปกินส้มตำกันที่ร้านในซอยปุณณวิถี ป้าเจี๊ยบได้ของฝากเป็นผลไม้สดจากโครงการหลวง 3 กล่อง มีสตรอว์เบอร์รี 2 กล่องกับเคปกูสเบอร์รี 1 กล่อง พอกลับบ้านก็เจอสตรอว์เบอร์รีอีกกล่องวางอยู่ เอ๊ะ! ยังไง?
ปรากฏว่าเป็นของฝากจากพ่อจ้อยแม่แอนที่กลับจากเชียงใหม่ เก็บเข้าตู้เย็นไว้ก่อนนะ รุ่งขึ้นเป็นวันครอบครัวค่อยเอาออกมาเลี้ยงกัน
รายการกินกันวันเสาร์นี้มีสมาชิกครอบครัวรุ่นใหญ่กับรุ่นเล็กแค่ 14 คน รุ่นกลางติดธุระกันหมด ป้าเจี๊ยบเลยไม่ได้ทำอาหารปริมาณมาก แต่ก็ยังหลายอย่างอยู่ดี...อิอิ
ควันหลงจากร้านส้มตำ ป้าเจี๊ยบเลยจัดเมนูข้าวเหนียว ส้มตำ ซี่โครงหมูทอดกระเทียมพริกไทย แคบหมู น้ำพริกหนุ่ม เนื้อย่างกระทะจิ้มแจ่ว หอยแมลงภู่ลวก และแถมอีกหนึ่งรายการที่เน้นผัก แต่ไม่เข้ากับใครเลยคือพิซซาญี่ปุ่น โอโคโนมิยากิ...หุหุ
ระหว่างกินอาหาร เมื่อป้าเจี๊ยบอกว่าวันนี้มีสตรอว์เบอร์รี 3 กล่องในตู้เย็นนะ ก็ได้ยินเสียงบอกว่า “อยากกินสตรอว์เบอร์รีชอร์ตเค้ก” เอิ่ม?...
ก็ต้องได้สิคะ แต่เป็นเวอร์ชันชอร์ตเค้กสไตล์ป้าเจี๊ยบนะ รีบผันตัวไปลงมือทำในบัดดล
หยิบครีมชีสขนาด 200 กรัม 1 ก้อนออกมาวางไว้ที่อุณหภูมิห้อง แล้วเตรียมถาดเค้กทรงกลมขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 8 นิ้ว ซึ่งขนาดพอดีกับเตาอบติ๊งติ๊งที่ใช้อยู่ประจำ ทาเนยบางๆ ที่ขอบและก้นชาม แล้ววางกระดาษไขตัดเป็นวงกลมทับลงไป
ลงมือทำสปันจ์เค้กอย่างง่ายและเร็ว โดยตวงส่วนผสมของชามแห้งประกอบด้วยแป้งสาลีอเนกประสงค์ 1 ถ้วยตวง ผงฟู 2 ช้อนชา น้ำตาลทรายละเอียด 1/2 ถ้วยตวง และเกลือป่น 1/8 ช้อนชา ใช้ตะกร้อมือคนส่วนผสมทั้งหมดจนเข้ากันดี
จากนั้นแหวกส่วนผสมในชามแห้งเป็นบ่อตรงกลาง ใส่ซอฟต์มาร์การีนสูตรคาโนล่า 1/2 ถ้วยตวง และตอกไข่ไก่เบอร์สาม 2 ฟองลงไป ใช้ตะกร้อไฟฟ้าตีส่วนผสมด้วยความเร็วปานกลางประมาณ 3-4 นาที พอเห็นว่าเนื้อเนียนเป็นครีมเข้ากันดีก็ตักใส่ชามอบ ปาดหน้าให้เรียบ ยกชามเคาะไล่ฟองอากาศ 2-3 ครั้ง แล้วใส่เข้าเตาอบติ๊งติ๊งที่ตั้งปุ่มไฟบน-ล่าง ปุ่มความร้อน 165 องศาเซลเซียส และปุ่มเวลา 30 นาที
ระหว่างรอเค้กสุกป้าเจี๊ยบนำสตรอว์เบอร์รีออกจากตู้เย็น ล้างน้ำทีละผลอย่างเบามือ ตัดขั้วออกและวางเรียงไว้บนผ้าขนหนูนุ่มๆ เอาผ้าบางๆ คลุมซับน้ำ แล้ววางพักไว้
ป้าเจี๊ยบเลือกสตรอว์เบอร์รีผลที่ไม่สวยและมีรอยช้ำ 1/2 ถ้วยตวง หั่นเป็นชิ้นเล็กๆ ใส่ลงในหม้อเคลือบ ยกขึ้นตั้งไฟอ่อนๆ เคี่ยวจนนุ่มเละ แล้วพักไว้ให้เย็น
ติ๊ง!...ได้สปันจ์เค้กเรียบร้อย เอาเค้กออกจากถาดมาผึ่งไว้บนตะแกรง
ระหว่างรอเค้กให้เย็นป้าเจี๊ยบตีครีมชีสกับน้ำตาลไอซิง 1/2 ถ้วยตวงด้วยตะกร้อไฟฟ้าจนเนื้อเนียน จากนั้นใส่น้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะและสตรอว์เบอร์รีที่เคี่ยวไว้ลงไป คนให้ส่วนผสมเข้ากัน ได้หน้าเค้กเรียบร้อยค่ะ
ได้เวลาประกอบตัวเค้กกันแล้ว งานนี้มีผู้ช่วย ป้าเจี๊ยบตัดเค้กออกเป็น 2 ชั้น ใช้พายป้ายหน้าเค้กชั้นล่าง น้องแพรหั่นสตรอว์เบอร์รีเป็นแว่นๆ วางเรียงเป็นวงๆ ซ้อนกันจนเต็ม ป้าเจี๊ยบตักหน้าเค้กกลบสตรอว์เบอร์รี แล้วปาดจนเรียบ จากนั้นหยิบเค้กอีกชิ้นวางซ้อนกลับคืน ตักหน้าเค้กป้ายด้านบนจนทั่ว น้องแพรจัดเรียงสตรอว์เบอร์รีผ่าครึ่ง วางทับลงไปอย่างสวยงาม ป้าเจี๊ยบส่งกระชอนใส่น้ำตาลไอซิงให้น้องแพรร่อนลงบนสตรอว์เบอร์รี สวยราวหิมะโปรยปราย
พร้อมเสิร์ฟแล้วจ้า! เอ่อ...ยังยกออกไปเสิร์ฟไม่ได้ค่ะ ผู้ช่วยขอถ่ายรูปไว้อวดเพื่อนๆ ก่อน แชะรัวๆ เอ้า ตัดเค้กแจกได้แล้ว!!!...
Tag :
Simply Sweet, สตรอว์เบอร์รี่, สปันจ์เค้ก, เบเกอรี่
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น