อบขนมอย่างละเมียดละไมสไตล์ “เชฟบุญประเสริฐ”
“สำหรับผมการอบขนมให้ออกมาดีก็ไม่ต่างอะไรกับการจีบผู้หญิงที่เราอยากพิชิตใจเธอ (ยิ้ม)” แค่ประโยคเปรียบเปรยถึงหัวใจในการทำขนมของ “เชฟเสริฐ-บุญประเสริฐ ว่องประพิณกุล” อาจารย์ประจำด้านขนมอบในหลักสูตรวิชาการผลิตอาหารและขนมอบ โรงเรียนดุสิตธานีการโรงแรม ก็ฟังดูไม่ธรรมดาแล้ว แต่ก่อนที่เราจะออกอาการงง เชฟจึงช่วยเฉลยว่าสิ่งที่ทำให้การทำขนมและเบเกอรี่นั้นเหมือนกับการจีบสาวก็คือความละเมียดละไม
“เวลาทำขนมต้องมีความละเมียดละไม ต้องเอาใจใส่ เคารพในขั้นตอน เพราะสูตรขนมจะต้องชั่ง ตวง วัดกันแบบเป๊ะๆ ต้องใจเย็น ไม่รีบร้อนข้ามขั้น ที่สำคัญต้องรู้จักอดทนรอคอยจะใจร้อนไม่ได้ เพราะขนมมีช่วงจังหวะของมันทั้งการผสม การตี และการอบ อย่างทำเค้กบางชนิดยังไม่ทันสุกก็ดึงออกมามันก็เสียเลย เอากลับไปอบต่อไม่ได้ เพราะไข่ยุบตัวไปแล้ว
“แต่ถ้าเราอดทนรอจังหวะ ขนมก็จะออกมาอร่อยสวยงาม คุ้มค่าแก่การรอคอย ซึ่งก็เหมือนกับการจีบผู้หญิงสักคน เราต้องอดทน ต้องมีความสม่ำเสมอ เอาใจใส่ประคบประหงมให้พอดี เพราะมากไปเขาก็รำคาญ น้อยไปก็เหมือนไม่ดูแล เวลาอบขนมเสร็จก็จะรู้สึกเหมือนจีบสาวติดเลย (หัวเราะ)”
เราเข้าใจคำพูดของเชฟได้ดียิ่งขึ้นเมื่อได้ลองชิมเมนู Duo Little Sweet Bread ที่เชฟบรรจงสร้างสรรค์ด้วยการนำขนมปังแครอตและฟักทองมาผสมผสานกลายเป็นคู่ดูโอ้ขนมปังเนื้อนุ่มละมุนที่มีรสชาติกลมกลืนเข้ากัน ทั้งยังสอดแทรกความอร่อยในเนื้อขนมปังด้วยวอลนัตเคี้ยวเพลินและลูกจันทน์ป่นเพิ่มความหอม
นอกจากนี้เชฟยังทำครีมชีสรสเลมอน หวานอมเปรี้ยวนิดๆ กินกับขนมปังได้อย่างลงตัว ที่สำคัญยังดีต่อสุขภาพ เพราะทำจากเนื้อแครอตและฟักทองสด ซึ่งเชฟเน้นว่าเป็นความตั้งใจที่อยากนำผักผลไม้ที่มีประโยชน์มาทำขนมให้เหล่าเบเกอรี่เลิฟเวอร์ได้อร่อยแบบดีต่อสุขภาพอีกด้วย
แค่กัดคำแรกเราก็ต้องขอบอกว่า...สาวสวยดูโอ้คู่นี้นั้น (อร่อย) เด็ดดวงจริงๆ
Duo Little Sweet Bread
ส่วนผสมสปันจ์
- แป้งขนมปัง100 กรัม
- น้ำ 110 กรัม
- ยีสต์ 8 กรัม
ส่วนผสมแป้งโด
- แป้งขนมปัง 310 กรัม
- แป้งสาลีอเนกประสงค์ 100 กรัม
- เกลือป่น 4 กรัม
- น้ำตาลทราย 70 กรัม
- นมผง 30 กรัม
- ไข่ไก่ตีให้เข้ากัน 1 ฟอง
- ลูกจันทน์ป่นเล็กน้อย
- วอลนัตสับหยาบ 40 กรัม
- เนยสด 76 กรัม
- นมสดสำหรับทาหน้าและวอลนัตอบสับสำหรับตกแต่ง
ส่วนผสมผัก
- แครอตต้มสุกบดละเอียด 150 กรัม
- ฟักทองต้มสุกบดละเอียด 150 กรัม
ส่วนผสมครีมชีส
- ครีมชีส 225 กรัม
- เนยจืด 90 กรัม
- น้ำตาลไอซิง 150 กรัม
- น้ำเลมอน 1 ช้อนโต๊ะ
- เกลือป่นเล็กน้อย
วิธีทำครีมชีส
- ตีส่วนผสมทั้งหมด (ยกเว้นน้ำเลมอน) ให้เข้ากันด้วยตะกร้อมือ ใส่น้ำเลมอน แช่เย็นไว้
วิธีทำ
- ผสมสปันจ์ด้วยเครื่องตีให้เข้ากัน แบ่งเป็น 2 ส่วน พักไว้ 20 นาที
- ผสมส่วนผสมแป้งโดด้วยเครื่องตีให้เข้ากัน (ยกเว้นเนยสด) แบ่งเป็น 2 ส่วน นวดสปันจ์ส่วนแรกกับแป้งโดส่วนที่ 1 และแครอตบดผสมน้ำ 35 กรัม เมื่อส่วนผสมเข้ากันดีแล้วแป้งโดจะจับตัวเป็นก้อนกลม ใส่เนยสด นวดให้เข้ากัน
- สังเกตว่าแป้งโดจะเหนียวและยืดเป็นฟิล์มได้ (ใช้เวลานวดประมาณ 15-20 นาที) พักแป้งโดยคลุมด้วยพลาสติกใสไว้ 25 นาที จากนั้นนำแป้งมานวดไล่อากาศ แล้วพักแป้งต่ออีกประมาณ 25 นาที
- ส่วนผสมแป้งโดฟักทองทำเหมือนแครอตตามขั้นตอนที่ 2 และ 3 แต่เติมน้ำในฟักทอง 30 กรัม
- นำแป้งโดทั้ง 2 ส่วนมาขึ้นรูป โดยรีดแป้งโดแครอตและฟักทองให้เป็นแผ่นสี่เหลี่ยมขนาดเท่ากัน นำมาวางซ้อนแล้วม้วนเป็นก้อนกลม นำมาใส่พิมพ์สี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาด 9 x 13 นิ้วที่ทาเนยเตรียมไว้ พักไว้ประมาณ 35 นาทีจนแป้งขึ้นเป็น 2 เท่า
- ทานมสดบนหน้า นำเข้าเตาอบที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียสประมาณ 30 นาที
- ยกออกจากเตา ทาเนยบางๆ พักไว้ให้เย็น เคาะออกจากพิมพ์ ตัดเป็นชิ้น จัดใส่จาน บีบครีมชีส ตกแต่งด้วยวอลนัต
Notes
- โดแครอตและโดฟักทองใช้น้ำไม่เท่ากัน เพราะผักทั้ง 2 ชนิดมีความชื้นที่ไม่เท่ากัน
- ใช้แป้ง 2 ชนิดเพื่อทำให้ขนมปังมีเนื้อนุ่มขึ้น
- วิธีสังเกตขนมปังสุกให้ใช้มือกดเนื้อขนมปังเบาๆ ขนมปังจะสปริงตัวดีไม่ยุบ
- ขอขอบคุณ โรงเรียนดุสิตธานีการโรงแรม โทร. 0-2013-9999, 09-6391-1696
Tag :
Chef’s signature dish, ครีมชีส, เบเกอรี่
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น