ขอยอมรับอย่างแมนๆ เลยว่าไม่ค่อยถูกกับอาหารที่มีกลิ่นเครื่องเทศสักเท่าไร แต่ความคิดนั้นเปลี่ยนไปเมื่อได้ชิมอาหารของเชฟคนนี้
Nishant Kumar Choubey (นิชานต์ คูมาร์ ชูเบย์) เชฟหนุ่ม (หล่อ) ชาวอินเดีย หัวหน้าเชฟจากโรงแรม Dusit Devarana เมืองนิวเดลีที่ลัดฟ้ามาเมืองไทยเพื่อมาทำโปรโมชันพิเศษให้กับร้าน Indus ในการเฉลิมฉลองเทศกาลสำคัญ “Diwali” (ดิวาลี)
แม้ว่ามื้อค่ำจะมีลูกค้าจองจนเต็มทุกที่แล้ว แต่เชฟนิชานต์ก็ยังหาเวลามาพูดคุยกับเราจนได้ เชฟหนุ่มร่างเล็กคล่องแคล่วและอายุยังน้อยคนนี้บอกว่าเขาชอบอาหารตั้งแต่เด็ก แม้ว่าคุณพ่อคุณแม่อยากให้เป็นหมอหรือวิศวกรก็ไม่ยอม ตั้งหน้าตั้งตาเรียนทำอาหารและได้ทำงานในร้านอาหารดังๆ มากมายทั่วอินเดียและในต่างประเทศ เชฟภูมิใจในอาหารอินเดียมาก เพราะถือเป็นอาหารเก่าแก่ที่มีมายาวนาน และสูตรอาหารที่ทำทุกวันนี้ก็แทบจะไม่เปลี่ยนไปจากเดิม
อาหารอินเดียในสไตล์ของเชฟเป็นรสชาติดั้งเดิม แต่ใช้เทคนิคและวิธีการปรุงในสไตล์โมเดิร์น บวกกับใช้วัตถุดิบคุณภาพดีเพื่อสร้างสรรค์เมนูที่ไม่เหมือนใคร เชฟเป็นคนที่มีความฝันและรักการเดินทาง จึงมักเสาะแสวงหาวัตถุดิบจากทั่วโลกมาใช้ทำอาหาร โดยเฉพาะวาซาบิ ถั่วแระญี่ปุ่น และส้มยูซุ ของขึ้นชื่อจากญี่ปุ่นที่คงไม่มีเชฟคนไหนเอามาทำอาหารอินเดียแน่ๆ แต่เชฟก็ได้ลองทำและอร่อยเสียด้วย
ครั้งนี้เป็นการมาเยือนเมืองไทยเป็นครั้งที่ 2 เชฟจึงอยากเสิร์ฟเมนูรสจัดจ้านให้เจ้าบ้านได้ชิม โดยเฉพาะเมนูพิเศษที่เราได้ชิมนี้คือกุ้งและหอยเชลล์ย่าง ใช้กุ้งตัวโตหมักกับเครื่องเทศพิริพิริแล้วย่างในเตาทันดูร์ตามแบบฉบับอินเดียจนหอมกลิ่นควันและสุกกำลังพอดี เนื้อนุ่มไม่แห้ง เชฟอยากให้มีความหลากหลายในจานจึงเสิร์ฟกับหอยเชลล์ตัวใหญ่หมักเครื่องเทศมาซาลาที่ผสมกับมะเขือเทศ ตัดรสด้วยชัตเนย์กระเจี๊ยบแดงรสจัด อมเปรี้ยวนิดๆ อร่อยเข้ากันดีกับหอยเชลล์เนื้อหวานๆ
เป็นเมนูที่ตกแต่งได้สวยสไตล์โมเดิร์น แต่ไม่ทิ้งกลิ่นและรสชาติของเครื่องเทศ แม้คนจะไม่ชอบกลิ่นเครื่องเทศอย่างเรายังต้องติดใจฝีมือของเชฟรุ่นใหม่คนนี้
Karnatka Masala Spiced Scallop and Prawn with Rosella Flower Chutney
ส่วนผสม (สำหรับ 1 ที่)
- กุ้งลายเสือ น้ำหนัก 200 กรัม 1 ตัว
- เครื่องเทศพิริพิริ 50 กรัม
- หอยเชลล์ฮอกไกโด 1 ตัว
- ขิง 20 กรัม
- กระเทียม 10 กรัม
- ใบกะหรี่ พริกเขียว และเกลือทะเลเล็กน้อย
- น้ำมันกี 1 ช้อนชา
- ดอกไม้กินได้สำหรับตกแต่งเล็กน้อย
ส่วนผสมมาซาลา
- หอมหัวใหญ่สไลซ์ 500 กรัม
- มะเขือเทศหั่นชิ้นใหญ่ 200 กรัม
- ลูกผักชีป่น 10 กรัม
- ผงเครื่องเทศ Chettinad 20 กรัม
- พริกป่น 10 กรัม
- เมล็ดมัสตาร์ดและใบกะหรี่เล็กน้อย
- น้ำมันเมล็ดทานตะวันเล็กน้อย
ส่วนผสมชัตเนย์
- ดอกกระเจี๊ยบแดง 500 กรัม
- ไวน์แดง 50 มิลลิลิตร
- น้ำตาลทราย 20 กรัม
- เกลือทะเล ก้านอบเชย และใบเบย์เล็กน้อย
วิธีทำ
- หมักกุ้งกับเครื่องเทศพิริพิริไว้ 1 คืน บั้งเนื้อหอยเชลล์ให้เป็นตารางทั้ง 2 ด้าน
- ปั่นขิง กระเทียม และพริกเขียวให้ละเอียด หมักกับหอยเชลล์ ใส่ใบกะหรี่ เกลือทะเล แช่เย็นไว้ 1 ชั่วโมง
- เตรียมส่วนผสมมาซาลาโดยผัดหอมหัวใหญ่กับน้ำมันเมล็ดทานตะวัน ใส่มะเขือเทศ ผัดจนสุกนุ่ม ตักขึ้น ปั่นให้พอหยาบๆ พักไว้ ใช้กระทะใบเดิมผัดเมล็ดมัสตาร์ด ใบกะหรี่ ลูกผักชีป่น ผงเครื่องเทศ Chettinad และพริกป่นกับน้ำมันเมล็ดทานตะวันเล็กน้อยนาน 20 นาที ผสมกับส่วนผสมมะเขือเทศที่ผัดแล้ว คนให้เข้ากัน พักไว้
- เตรียมส่วนผสมชัตเนย์โดยล้างดอกกระเจี๊ยบให้สะอาด พักไว้ให้สะเด็ดน้ำ ต้มกับไวน์แดง น้ำตาล ก้านอบเชย และใบเบย์ด้วยไฟอ่อนประมาณ 1 ชั่วโมงจนงวด ใส่เกลือทะเล ชิมรส พักไว้
- ตั้งกระทะใช้ไฟแรง เมื่อร้อนจัดใส่น้ำมันกี ทอดหอยเชลล์ให้มีสีเหลืองสวยทั้ง 2 ด้านและเนื้อในยังนิ่มอยู่ ตักขึ้นใส่จาน
- ย่างกุ้งให้สุกในเตาทันดูร์ เสิร์ฟพร้อมหอยเชลล์ ชัตเนย์กระเจี๊ยบ และมาซาลามะเขือเทศ ตกแต่งด้วยใบกะหรี่และดอกไม้
Notes
ขอขอบคุณ
ร้านอาหาร Indus ถนนสุขุมวิท ซอย 26 โทร. 0-2258-4900 Dusit Thani Bangkok Hotel โทร. 0-2200-9000
Tag :
อาหารอินเดีย, เชฟ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น