อาหารญี่ปุ่นเป็นอาหารที่นิยมไปทั่วทุกมุมโลก นอกจากจะอร่อย โดดเด่น ยังได้ชื่อว่าเป็นอาหารสุขภาพชั้นเยี่ยม คนญี่ปุ่นเป็นคนที่มีอายุยืน และอายุยืนมากจนกินเนสส์บุ๊กได้บันทึกไว้
ความเป็นอาหารสุขภาพของคนญี่ปุ่นอยู่ในวิถีชีวิตที่กินกันทุกวัน คนญี่ปุ่นกินปลาดิบที่จัดว่ามีโอเมกา-3 สูง กินสาหร่ายที่มีโปรตีน ธาตุเหล็ก กินเต้าหู้ที่เป็นโปรตีนจากพืชชั้นเยี่ยม กินอาหารตามธรรมชาติและฤดูกาล เครื่องปรุงสำคัญล้วนมีประโยชน์ เช่น มิโซะ และนัตโตะ
มิโซะ ถั่วเหลืองหมักและบดที่ใส่ในซุปมิโซะเป็นที่รู้จักกันทั่วไป แต่นัตโตะก็เป็นถั่วเหลืองหมักที่ยังเป็นเมล็ดอยู่ ถ้าจัดประเภทก็น่าจะเป็นพี่หรือน้องของมิโซะ และอยู่ในครอบครัวเดียวกันกับเทมเป้ ถั่วหมักสุขภาพของชาวอินโดนีเซีย เต้าเจี้ยวของจีน ถั่วเน่าของชาวล้านนา
นัตโตะ กำลังฮิตในวัยรุ่นที่รักสุขภาพ แม้ว่าในอดีตจะมีคนไม่กล้าลองชิมเพราะมีกลิ่นฉุนเฉพาะตัวสูง นัตโตะเป็นถั่วเหลืองหมักดั้งเดิมของชาวญี่ปุ่น วิธีการทำเริ่มแรกต้องนำถั่วไปนึ่งให้สุกก่อน แล้วหมักด้วยเชื้อแบคทีเรีย Bacillus Subtilis จากนั้นนำไปบ่มโดยการห่อด้วยฟางข้าวจนเมล็ดถั่วเหลืองเป็นเมือกมียางเหนียวๆ ซึ่งเกิดจากการย่อยโปรตีนระหว่างการหมัก และมีกลิ่นฉุนมากจนเหมือนของที่เสียแล้ว คนทั่วไปเรียกกันว่า “ถั่วเน่า”
แต่เมือกเหนียวๆ ที่อยู่บนเมล็ดถั่วเหลืองกลิ่นฉุนๆ นี่เองที่มีประโยชน์สุดยอด เพราะเป็นแหล่งของโปรตีนชั้นดีเทียบเท่ากับเนื้อสัตว์ มีวิตามินบี 12 วิตามิน K2 ซึ่งมีประโยชน์ต่อสุขภาพของกระดูก ช่วยเรื่องกระดูกพรุนและข้อเข่าเสื่อมในผู้สูงอายุได้อย่างดี มีโปรไบโอติกส์ จุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ช่วยปรับสภาพสมดุลในลำไส้ และช่วยลดทั้งดวามดันโลหิตและคอเลสเตอรอล
นัตโตะ 100 กรัม ให้พลังงาน 212 กิโลแคลอรี ประกอบด้วยสารอาหารที่สำคัญ เช่น โปรตีน 18 กรัม คาร์โบไฮเดรต 14 กรัม ไขมัน 11 กรัม แคลเซียม 217 มิลลิกรัม เหล็ก 8.6 มิลลิกรัม และโพแทสเซียม 729 มิลลิกรัม
ด้วยกลิ่นฉุนอันร้อนแรงนี้คนญี่ปุ่นกินกันอย่างไร? กลิ่นดูจะไม่ใช่อุปสรรคสำหรับชาวญี่ปุ่นเลยเพราะมีวิธีการกินนัตโตะที่ง่ายมาก เพียงแค่ใส่โชยุ มัสตาร์ดเล็กน้อย คนจนเป็นยางเหนียวยืด วางบนข้าวร้อนๆ และคลุกให้เข้ากันก็เป็นอาหารเช้าอันโอชะ หรือใส่ไข่ดิบคนให้เข้ากัน ใส่โชยุ ต้นหอมญี่ปุ่นซอยกินกับข้าว ซึ่งชาวญี่ปุ่นหลายคนบอกว่าตอนเด็กๆ แม่จะทำให้กินก่อนไปโรงเรียน
แต่สำหรับคนต่างวัฒนธรรมเช่นบ้านเราจะมีวิธีกินอย่างไรดี? เด็กวัยรุ่นที่ชอบทดลองอาหารใหม่ๆ หลากหลาย การกินแบบคนญี่ปุ่นดูไปด้วยกันได้ แต่สำหรับคนไม่คุ้นชินกับกลิ่นอาจจะมีวิธีกินหลากหลาย เช่น ผสมในมันฝรั่งบดทำเป็นโครเกตต์ ผสมกับเนื้อทำเป็นแฮมเบอร์เกอร์ แต่เมนูที่ฮอตฮิตและดูจะถูกใจคนไทย ชาวต่างชาติหรือแม้แต่คนญี่ปุ่นยุคใหม่เองคือกินกับกิมจิ ผักดองของเกาหลีที่จัดเป็นอาหารสุขภาพเช่นกัน
วิธีการนั้นง่ายมากเพียงแค่ทำตามการกินของคนญี่ปุ่น แล้วท็อปกิมจิ เหยาะน้ำมันงาเล็กน้อย คลุกให้เข้ากันกินกับข้าวร้อนๆ รสของกิมจิที่เค็ม เปรี้ยว เผ็ด เข้ากันได้ดีหรือช่วยกลบกลิ่นและรสของนัตโตะ ทำให้ชวนกิน กินอร่อยขึ้นมาทันทีอย่างไม่น่าเชื่อ เรียกได้ว่าเป็นการดับเบิลโปรไบโอติกส์ไปในมื้อเดียวกัน
เมนูนี้จึงจัดได้ว่าเป็นเมนูสุขภาพของคนรักสุขภาพอย่างไม่มีพรมแดนก็ว่าได้ เพราะกินกันได้ทั่วโลก วิธีทำนั้นก็ง่ายมากไม่ต้องปรุงผ่านความร้อนใดๆ เลย คนที่ชอบอ้างว่าไม่มีเวลาทำกับข้าวดูจะใช้อ้างไม่ได้กับเมนูนี้
นัตโตะและกิมจิล้วนเป็นอาหารดั้งเดิมมาตั้งแต่ปู่ย่าตายาย ชวนให้คิดว่าอาหารสุขภาพที่เราค้นหาอยู่ใกล้ตัวนี้เอง เป็นของธรรมดาๆ ที่ไม่ต้องปรุงแต่งมาก
เชื่อไม่เชื่อก็ดูได้ว่าคนญี่ปุ่นมีอายุยืนกันมานานแล้ว
นัตโตะ & กิมจิ
ส่วนผสม
- ข้าวหุงสุก (ร้อน) 1 ถ้วย
- นัตโตะ 1 กล่องเล็ก
- กิมจิ 3/4 ถ้วย
- น้ำมันงาเล็กน้อย
- งาบดสำหรับโรยหน้าเล็กน้อย
วิธีทำ
- แกะนัตโตะออกจากกล่อง ใส่โชยุและมัสตาร์ดที่อยู่ในกล่อง คนไปทางเดียวกันจนเป็นเมือกยืดสีขาว วางบนข้าวร้อนๆ วางกิมจิ เหยาะน้ำมันงา โรยงา คลุกทั้งหมดให้เข้ากัน รับประทานทันที
Notes
- นัตโตะจะมีขายในซูเปอร์มาร์เก็ตนำเข้าอาหารญี่ปุ่นหรือร้านอาหารสุขภาพ ใส่กล่องโฟมเล็กๆ จะมีโชยุและมัสตาร์ดมาในกล่องด้วย
Tag :
You Are How You Eat, อาหารญี่ปุ่น, เมนูเพื่อสุขภาพ, นัตโตะ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น