หลังจากที่ เชฟอ้อม-สุจิรา พงษ์มอญ พาร้านสวรรค์ (Saawaan) ร้านอาหารไทยไฟน์ไดนนิงเข้าสู่คู่มือสุดยอดร้านอาหารจนได้รับรางวัลมิชลิน 1 ดาวมาครองได้เป็นคนแรกของประเทศไทยในปี พ.ศ. 2564 และรางวัล MICHELIN Guide Young Chef Award Presented By Blancpain ถือเป็นรางวัลให้กับเชฟรุ่นใหม่ที่มีความสามารถโดดเด่น ไฟแรง มีใจรักในการทำอาหาร จนเธอได้รับการขนานนามว่าเป็น “หญิงแกร่งแห่งวงการอาหาร!”
ปฐมบทใหม่เรื่องเล่าของอาหารใต้ในฉบับของ เชฟอ้อม-สุจิรา พงษ์มอญ สู่ร้าน ยุ้งข้าวหอม ร้านอาหารใต้ที่ผสมผสานวัฒนธรรมไทย-จีนและมุสลิมเข้าไว้ด้วยกันได้อย่างลงตัว การันตีความอร่อยจากรางวัลมิชลิน ไกด์ถึง 5 ปีซ้อน (2019-2023) G&C ชวนเธอมานั่งพูดคุยและเล่าเรื่องราวกว่าจะมาถึงจุดนี้
“หลังจากสถานการณ์โควิด-19 เชฟมองวิกฤตให้เป็นโอกาส ประจวบกับทางร้านอยากจะรีแบรนด์ หาแนวว่าจะไปในแนวไหน พอสรุปได้ว่าเป็น ‘อาหารใต้’ จึงใช้ช่วงเวลานี้ทำการบ้านและบินลงใต้ ศึกษาเกี่ยวกับวัฒนธรรมการกินของคนภาคใต้ว่าจริงๆ แล้วคนท้องถิ่นเขากินอยู่กันแบบไหน? เพื่อเข้าถึงรสชาติแบบออริจินอล เช่น เมนูแกงส้มใต้ บางจังหวัดจะเน้นรสหวาน บางท้องถิ่นเน้นเผ็ด บางที่น้ำใสไม่ก็ขุ่น นี่แหละคือความหลากหลายที่เชฟมองว่าเป็นเรื่องสนุกจึงอยากนำมาเสนอที่ร้านยุ้งข้าวหอม”
ทำไมต้องอาหารใต้? เชฟตอบว่า “เริ่มจากความชอบ เพราะเป็นคนกินรสจัด แล้วพบว่าอาหารใต้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว รวบรวมวัฒนธรรมอาหารที่หลากหลาย มีรสชาติเค็ม หวาน เผ็ดโดด ไม่เหมือนกับรสชาติอาหารของคนภาคกลาง เช่น เมนูกุ้งหวานทำไมถึงต้องหวาน? เพราะคนใต้มีไว้กินแนมกับแกงที่มีรสชาติเผ็ดจัด กินคู่กับผักเหนาะไว้ช่วยเบรกรสชาติกัน”
ทั้งหมดที่พูดมาคือ “ยุ้งข้าวหอม” จากร้านอาหารใต้ที่เกาะสมุย เชฟอ้อมได้ถอดสูตรของ “ป้าเล็ก” (แม่ครัวประจำร้านข้าวหอม) ปรุงแต่งเพิ่มความเป็นตัวเองผสมผสานกับอาหารจากวัฒนธรรมอื่นๆ ที่หากินได้ยากชนิดที่เรียกได้ว่าต้องไปถึงถิ่นจริงๆ จึงจะได้กิน แต่วันนี้ไม่ต้องบินลงใต้ก็ได้ลองชิมเหมือนกัน
ร้านยุ้งข้าวหอมที่กรุงเทพฯ เราจึงเห็นเมนูโอวต้าว ผัดหมี่ฮกเกี้ยน หมูผัดกะปิ (สไตล์ยุ้งข้าวหอม) และเมนูอื่นๆ ที่หากินได้ยากเสิร์ฟอยู่ในร้าน รวมถึงเมนู ปลาหมึกผัดน้ำดำ ผัดหมึกสีดำเข้มที่หลายคนไม่คุ้นเคย แต่เชฟยืนยันว่าเป็นเมนูท้องถิ่นที่อร่อย เชฟนำหมึกมาต้มกับเครื่องต้มยำ บีบมะนาวเล็กน้อยในตอนท้ายเพื่อให้รสชาติเข้มข้นขึ้น เทคนิคของจานนี้อยู่ที่การเลือกใช้หมึก จะต้องเป็นหมึกของปลาหมึกหอม กลิ่นคาวจะน้อยและได้สีที่ดำกว่าปลาหมึกชนิดอื่น เสิร์ฟในถ้วยแบบง่ายๆ ให้เหมือนกินข้าวกับครอบครัว ได้อารมณ์เหมือนคุณแม่จากจังหวัดภาคใต้มาทำให้เรากิน
เป็นเมนูที่เห็นถึงความเอาใจใส่ เพราะเพียงเพิ่มเครื่องปรุงอีกนิดก็อร่อยอย่างโดดเด่น
Stir Fried Squid Ink ปลาหมึกผัดน้ำดำ
ส่วนผสม (สำหรับ 2-3 ที่)
- หมึกกล้วยหั่นชิ้นพอดีคำ 200 กรัม
- หมึกดำ (ดีหมึก) 1 ช้อนโต๊ะ
- ตะไคร้บุบหั่นท่อน 1 ต้น
- ใบมะกรูดฉีก 3 -4 ใบ
- หอมแดงไทยบุบ 4-5 หัว
- พริกจินดาแดงหรือพริกขี้หนูบุบพอแหลก 5-6 เม็ด
- กระเทียมไทยสับ 1 ช้อนโต๊ะ
- มะนาวผ่าซีก 1/2 ผล
- น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
- ซอสหอยนางรม 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลทราย 2 ช้อนชา
- น้ำเปล่าหรือน้ำสต๊อก 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมันรำข้าว 2 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ
- ตั้งกระทะใช้ไฟปานกลางใส่น้ำมัน ใส่หมึกหั่นชิ้น ผัดให้สุกประมาณ 50% ตักขึ้น พักไว้
- ใส่น้ำมันลงในกระทะ ใช้ไฟปานกลาง ใส่กระเทียมสับและพริกลงผัดให้มีกลิ่นหอม ใส่ตะไคร้ ใบมะกรูด และหอมแดง ผัดต่อสักครู่แล้วใส่หมึกที่ผัดไว้
- ใส่ดีหมึก ผัดให้เข้ากัน ปรุงรสด้วยซอสหอยนางรม น้ำตาลทราย น้ำปลา เติมน้ำสต๊อก
- ผัดให้เข้ากัน ชิมรส ปิดไฟแล้วบีบมะนาวเล็กน้อย คนให้เข้ากัน ตักใส่จานเสิร์ฟคู่กับข้าว
ขอขอบคุณ
ร้านยุ้งข้าวหอม สาขาโครงการแอมพาร์ค
ถนนเจริญเมือง แขวงวังใหม่ เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ
โทร. 06-3465-6565
Notes
- วิธีเลือกซื้อหมึกสดให้เลือกเนื้อใส หัวต้องติดกับลำตัว เพราะจะไม่มีกลิ่นคาว
- ใช้หมึกดำของหมึกหอม จะมีรสชาติดี กลิ่นหอม และสีดำเข้ม
- สูตรดั้งเดิมผัดหมึกดำจะไม่ใส่มะนาว แต่สูตรเชฟจะใส่มะนาวเพื่อเพิ่มรสชาติให้มีความเปรี้ยวกลมกล่อมมากยิ่งขึ้น
Tag :
ซีฟู๊ด, ปลาหมึก, อาหารใต้
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น