พูดคุยกับเชฟ Carlo Valenziano แห่งห้องอาหารเมดิเตอร์เรเนียน ALATi พร้อมแจกสูตร Lobster Ravioli

วันที่ 14 มีนาคม 2566  1,325 Views (0 รีวิว)

หมวดหมู่อาหาร : ซีฟู้ด

นิตยสาร Gourmet & Cuisine ฉบับที่ 272 เดือนมีนาคม 2566

หากใครเคยไปท่องเที่ยวประเทศที่ติดกับแถบชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียน คงไม่พลาดลิ้มลองอาหารที่ถูกยกย่องว่าเป็นอาหารเพื่อสุขภาพ ซึ่งโดดเด่นในเรื่องของวัตถุดิบที่มีสีสัน หน้าตาของอาหารจึงทั้งชวนมองและชวนลอง ฉบับนี้ G&C พามาลิ้มลองที่ห้องอาหาร ALATi (อลาตี้) โรงแรมสยามเคมปินสกี้ กรุงเทพฯ พร้อมพูดคุยกับเชฟชาวอิตาเลียนฝีมือดีอย่างเชฟคาร์โล วาเลนเซียโน (Carlo Valenziano) เอ็กเซ็กคูทีฟเชฟผู้อยู่เบื้องหลังอาหารเมดิเตอร์เรเนียนนี้

พูดคุยกับเชฟ Carlo Valenziano แห่งห้องอาหารเมดิเตอร์เรเนียน ALATi พร้อมแจกสูตร Lobster Ravioli

แรกเริ่มกว่าจะมาถึงจุดนี้เชฟคาร์โลเมื่อตอนอายุ 14 ปีรู้ตัวมาตลอดว่าชอบทำอาหาร จึงได้ใช้เวลาในช่วงปิดเทอมศึกษาเกี่ยวกับการทำอาหารอย่างจริงจัง พอโตขึ้นจึงเข้าโรงเรียนสอนทำอาหารที่เมืองเวนิส เพื่อสานฝันและทำตามแพสชันที่ตั้งไว้แต่เด็ก เมื่อจบมาก็ทำงานในร้านอาหารหลายแห่งเพื่อเพิ่มทักษะและสั่งสมประสบการณ์ให้กับตนเอง

เมื่อการเข้าครัวถึงจุดอิ่มตัว เชฟเล่าว่า “ผมอยากหาความรู้เพิ่มจึงเข้าทำงานที่ร้านแล่เนื้อ (Butchery) ผมได้รู้จักเนื้อส่วนต่างๆ พร้อมวิธีการแล่อย่างชำนาญ เมื่อทำไปได้สักระยะหนึ่งจึงเปลี่ยนแนวไปทำงานที่ร้านไอศกรีมหรือเจลาโต (ยิ้ม) เพราะเป็นความต่างกันอย่างสิ้นเชิง และเมื่อทำได้ประมาณหนึ่งเดือนผมก็ได้ออกท่องเที่ยวพร้อมกับทำงานไปด้วย เพราะถือคติว่าผมจะไม่โฟกัสศาสตร์การทำครัวเพียงแค่อย่างเดียว ต้องคอยตักตวงความรู้เพิ่มเติมให้กับตนเองอยู่เสมอ เพื่อให้ผมมีความรู้หลากหลายด้าน เปรียบเสมือนเครื่องมือหรืออาวุธที่พร้อมรบ เพราะสิ่งสำคัญในอาชีพครัวนั้นคุณต้องทำให้เป็นทุกอย่าง และต้องคอยพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ”

ส่วนการมาประเทศไทยก็เป็นที่แรกของการมาทำงานในโซนเอเชีย ซึ่งเขารู้สึกตื่นเต้นมาก ทั้งแสงสีและการใช้ชีวิตของคนในเมือง รวมไปถึงความหลากหลายของอาหาร จนได้เข้ามาทำงานที่ห้องอาหารนี้

ทำไมต้องอลาตี้? “ก่อนอื่นเลย ALATi ในภาษากรีกแปลว่าเกลือ ผมมาจากอิตาลีแล้วไม่ค่อยเห็นห้องอาหารเมดิเตอร์เรเนียนในเมืองไทยมากนัก ผมจึงศึกษาวิธีการกิน การใช้ชีวิต จากนั้นก็ผสมผสานอาหารกับความเป็นเมดิเตอร์เรเนียนผ่านมุมมองที่โมเดิร์นในสไตล์ของผม และการปรุงเพียงเล็กน้อยด้วย ‘เกลือ’ วัตถุดิบอันล้ำค่า เครื่องปรุงเม็ดเล็กๆ ที่ช่วยผสานรสชาติให้ลงตัว จึงเป็นที่มาของคอนเซ็ปต์”

พูดคุยกับเชฟ Carlo Valenziano แห่งห้องอาหารเมดิเตอร์เรเนียน ALATi พร้อมแจกสูตร Lobster Ravioli

เมื่อถามถึงเมนูที่เชฟทำในวันนี้ “Lobster Ravioli เมนูที่ขายดีที่สุดของห้องอาหารเรา เป็นเมนูคลาสสิกของอิตาลี เป็นราวิโอลีที่มีความพิเศษ เพราะแป้งจะใส่แซฟฟรอน เกสรดอกไม้ที่มีมูลค่า ทำให้แป้งมีสีเหลืองทอง ส่วนไส้เป็นชีสริคอตตาผสมกับผิวเลมอน เมื่อกินแล้วจะให้ความรู้สึกสดชื่น วางเรียงบนล็อบสเตอร์บิสก์ แล้วท็อปด้วยเนื้อกุ้งล็อบสเตอร์ วัตถุดิบที่ขึ้นชื่อในแถบเมดิเตอร์เรเนียน ก่อนเสิร์ฟบีบน้ำเลมอน พร้อมกับโรยพาร์สลีย์เล็กน้อยเพื่อความสดชื่นและสวยงาม”

จัดเสิร์ฟในพานทอง ให้ความรู้สึกถึงความเป็นเมดิเตอร์เรเนียนเฮอริเทจ

พูดคุยกับเชฟ Carlo Valenziano แห่งห้องอาหารเมดิเตอร์เรเนียน ALATi พร้อมแจกสูตร Lobster Ravioli

Lobster Ravioli
ส่วนผสมไส้ชีสริคอตตา (สำหรับ 4 ที่)

  • ชีสริคอตตา 400 กรัม
  • ผิวเลมอน 1 ผล
  • เกลือทะเล 5 กรัม
  • พริกไทยดำ 2 กรัม
  • น้ำมันมะกอก (Extra Virgin Olive Oil) 15 กรัม

วิธีทำ

  1. ยีชีสริคอตตาผ่านกระชอนตาถี่ให้เนื้อเนียน เตรียมไว้
  2. ปรุงรสด้วยเกลือทะเล พริกไทยดำ ผิวเลมอน และน้ำมันมะกอก ชิมรส ตักใส่ถุงบีบพักไว้ในตู้เย็น

ส่วนผสมแป้งพาสตาราวิโอลี

  • แป้งเซโมลินา 500 กรัม
  • น้ำอุ่น 250 กรัม
  • แซฟฟรอน 2 กรัม
  • เกลือ 2 กรัม

วิธีทำ

  1. ใส่แป้งเซโมลินาในชามผสม เติมน้ำอุ่น แซฟฟรอน และเกลือ แล้วค่อยๆ นวดให้เนื้อเนียนเข้าด้วยกัน
  2. คลุมแป้งโดด้วยพลาสติกสำหรับห่ออาหาร (Wrap) พักไว้ในตู้เย็น 1 ชั่วโมงก่อนนำออกมารีด
  3. รีดแป้งให้บางประมาณ 1 มิลลิเมตร (โรยแป้งได้เล็กน้อยเพื่อไม่ให้ติด) แล้วตัดเป็น 2 ส่วน ใส่ไส้ชีสริคอตตาที่บีบให้เป็นก้อนกลมขนาดพอดีคำ
  4. นำแป้งอีกส่วนมาประกบเข้ากัน คลึงให้เป็นก้อนกลมแล้วตัดให้เป็นรูปทรงตามต้องการ ตัดให้ได้ประมาณ 36 ชิ้น เตรียมไว้

ส่วนผสมล็อบสเตอร์บิสก์

  • เซเลรี แครอต หอมหัวใหญ่ ต้นกระเทียมใหญ่ (Leek) และยี่หร่าฝรั่ง (Fennel) สับรวมกัน (เมียร์ปัว-Mirepoix) ให้ได้  300 กรัม
  • เปลือกและหัวของกุ้งล็อบสเตอร์ 1 กิโลกรัม
  • เนื้อมะเขือเทศบดเข้มข้น 1 ช้อนโต๊ะ
  • ใบไทม์สด 5 กรัม
  • เหล้าคอนญัก 50 กรัม
  • ครีมสด 150 กรัม
  • น้ำมันมะกอก 30 กรัม
  • เกลือทะเลและพริกไทยสำหรับปรุงรสเล็กน้อย  

วิธีทำ

  1. เตรียมกุ้งล็อบสเตอร์โดยตั้งหม้อใบใหญ่ ใส่น้ำและเกลือเล็กน้อย ต้มให้เดือด ใส่กุ้งล็อบสเตอร์ทั้งตัว ต้มประมาณ 4 นาที แยกหัวและลำตัวออกจากกัน นำส่วนตัวต้มต่อประมาณ 2 นาที แล้วรีบนำมาแช่ลงในน้ำเย็น
  2. แกะเนื้อทุกส่วนออกจากเปลือก (เก็บเปลือกไว้) หั่นเป็นชิ้นพอดีคำสำหรับเสิร์ฟ เตรียมไว้
  3. ทำบิสก์โดยตั้งหม้อใส่น้ำมันมะกอก และเมียร์ปัวที่สับไว้ ผัดให้เป็นสีน้ำตาลเล็กน้อย ใส่เนื้อมะเขือเทศบดเข้มข้นและใบไทม์สด ผัดต่อประมาณ 3 นาที
  4. ใส่เปลือกกุ้งล็อบสเตอร์ที่เก็บไว้ ใส่เหล้าคอนญัก ต้มให้แอลกอฮอล์ระเหยออกจนหมด เติมน้ำแข็งเล็กน้อยและน้ำเปล่าให้พอท่วม ต้มต่อประมาณ 2 ชั่วโมง แล้วกรองออก
  5. เคี่ยวให้ได้ประมาณ 500 กรัม จากนั้นเติมครีมสด ปรุงด้วยเกลือและพริกไทย ชิมรส แล้วปิดไฟ

ส่วนผสมสำหรับจัดจาน

  • พาสตาราวิโอลี 9 ชิ้น
  • เนยจืด 5 กรัม
  • ล็อบสเตอร์บิสก์ 100 กรัม
  • เนื้อกุ้งล็อบสเตอร์ 120 กรัม
  • พาร์สลีย์สับ 5 กรัม
  • น้ำมันมะกอกสำหรับโรยหน้าเล็กน้อย

วิธีทำ

  1. ตั้งหม้อใส่น้ำและเกลือเล็กน้อย ลวกพาสตาในน้ำเดือดให้สุกตามชอบ
  2. อุ่นล็อบสเตอร์บิสก์รอไว้ แล้วใส่พาสตาที่ลวกแล้ว ใส่เนยเล็กน้อย ตักบิสก์ราดให้ทั่ว ใส่เนื้อกุ้งล็อบสเตอร์ จัดใส่จานบีบน้ำเลมอน แล้วราดโฟมล็อบสเตอร์บิสก์และน้ำมันมะกอกเล็กน้อย โรยพาร์สลีย์สับ เสิร์ฟทันที

Tag : Chef’s signature dish, ล็อบสเตอร์, อาหารอิตาเลียน

เรื่องโดย

คะแนนและรีวิว


0.0 จาก 5

ให้คะแนนและเขียนรีวิว

ยังไม่มีรีวิว

ความคิดเห็น

Editor’s Pick

Recent

Most Viewed