ปัจจุบันคนรักสุขภาพมักจะมีแนวทางของตนเองโดยเปลี่ยนวิถีการกินเป็นหลัก ไม่เปลี่ยนอาหารที่กินก็ปรับเวลากินอย่างพวก IF ชาววีแกนก็เช่นเดียวกัน ไม่กินเนื้อสัตว์ ไม่ใช้ของที่ทำจากสัตว์เพราะมั่นใจว่าดีต่อตนเองและดีต่อโลกซึ่งอุณหภูมิร้อนขึ้นทุกวัน
แต่ไม่ว่าจะแนวทางสุขภาพใด สิ่งต้องห้ามมากที่สุดคือ “น้ำตาล” แต่จะให้ลดน้ำตาลชีวิตก็ดูจะหมดสีสัน ความกระชุ่มกระชวย เพราะน้ำตาลนี่เองที่ทำให้เรากระปรี้กระเปร่า แถมของหวานต่างๆ สีสันสวยงามชวนให้อดใจไม่ไหว
น้ำตาลกินมากแล้วเป็นเช่นไร? หลายคนคงรู้แล้วว่าถ้ากินมากเกินไปก็จะแปรเปลี่ยนเป็นไขมันแล้วเดินทางไปสะสมอยู่ที่หน้าท้อง หรือพุงของเรา เพราะน้ำตาลจัดอยู่ในกลุ่มสารจำพวกคาร์โบไฮเดรตสามารถดูดซึมง่าย เปลี่ยนเป็นไขมันได้อย่างรวดเร็ว นักโภชนาการจึงย้ำว่าวันหนึ่งควรกินน้ำตาลไม่เกิน 4-6 ช้อนชา แต่มีงานวิจัยว่าคนไทยทั่วไปกินวันละ 25 ช้อนชา/วัน มากกว่าที่กำหนดไว้ถึง 4 เท่า เครื่องดื่มที่มีน้ำตาลมากที่สุดคือเครื่องดื่มเย็น เช่น กาแฟเย็น ชาเขียวเย็น ชานมไข่มุก มีน้ำตาลถึง 12 ช้อนชา (เท่ากับกินเกินไปแล้ว 3 วัน)
คนรักสุขภาพทุกแนวทางไม่ใช่เฉพาะชาววีแกนเท่านั้นก็ไม่ได้ล้มเลิกการกินของหวาน แต่จะทำอย่างไรให้เป็นความหวานอย่างสุขภาพดี จนมีคนสร้างสรรค์เมนูอินทผลัมสอดไส้พีนัตบัตเตอร์และราสป์เบอร์รีแยม ของหวานง่ายๆ ที่แค่เห็นก็ชวนหยิบเข้าปากมาก
แม้ว่าอินทผลัมจะหวานจัดจนรู้สึกสดชื่นทันตาเห็น แต่มีประโยชน์มากมาย เช่น มีวิตามินเกือบทุกชนิด มีสารต้านอนุมูลอิสระ มีใยอาหารมาก ช่วยทำให้ระบบทางเดินอาหารดีขึ้น เมื่อไปจับคู่กับพีนัตบัตเตอร์ที่เรียกกันว่าเนยถั่ว ซึ่งทำจากถั่วลิสงที่เป็นถั่วสุขภาพดีมากกว่าที่หลายคนคิด เพราะเป็นถั่วที่มีไขมันไม่อิ่มตัวเป็นหลักใกล้เคียงกับถั่วเปลือกแข็ง เช่น อัลมอนด์ วอลนัต มีโปรตีนสูงถึง 22-30% ของน้ำหนัก แถมโปรตีนในถั่วลิสงมีกรดอะมิโนจำเป็นที่ร่างกายสร้างเองไม่ได้ ต้องได้จากอาหารเท่านั้น นักโภชนาการยังจัดให้เป็นอาหารที่มีค่าดัชนีน้ำตาลต่ำ คือกินแล้วไม่ทำให้ระดับน้ำตาลสูงขึ้นด้วย
อินทผลัมสีน้ำตาลเข้มสอดไส้พีนัตบัตเตอร์สีน้ำตาลก็ดูสีเอิร์ธโทนไปนิด ไม่เชิญชวนเป็นของหวานเท่าไร เมนูนี้จึงหยอดแยมราสป์เบอร์รีสีแดงสดใสบนหน้า สีแดงของราสป์เบอร์รีไม่ใช่แค่ทำให้ชวนกินเท่านั้นแต่มีสารต้านอนุมูลอิสระอยู่เต็มเปี่ยม และยังช่วยการไหลเวียนของโลหิตด้วย รสเปรี้ยวๆ ยังช่วยตัดรสหวานๆ มันๆ เพิ่มรสเปรี้ยวจี๊ดๆ ได้อย่างสดชื่น แยมราสป์เบอร์รีก็ทำเองได้ง่ายๆ แถมผสมเมล็ดเจีย (Chia Seeds) ธัญพืชเมล็ดเล็กๆ ที่อุดมไปด้วยวิตามิน ไขมันต่างๆ ซูเปอร์ฟู้ดของคนรักสุขภาพเข้าไปอีกนิด ก่อนเสิร์ฟก็โรยหน้าด้วยโกโก้นิบส์สีน้ำตาลให้ทั่ว เวลาเคี้ยวจะได้เนื้อสัมผัสกรุบๆ และรสสัมผัสที่เข้มข้นขึ้น
นอกจากจะเป็นของหวานสุขภาพดีแล้ว ยังชวนทำขึ้นไปอีกเพราะทำง่ายมาก ทุกอย่างไม่ต้องผ่านความร้อน (ยกเว้นทำแยม) เมนูนี้จึงไม่ใช่เฉพาะชาววีแกนเท่านั้นที่กินได้อย่างไม่ผิดหลักการ แต่ยังสร้างความหวังให้สายสุขภาพที่หมดหวังหรือกำลังมองหาของหวานสุขภาพเก๋ๆ มาช่วยสร้างความสดชื่นได้อย่างดี
อินทผลัมสอดไส้พีนัตบัตเตอร์และราสป์เบอร์รีแยม
ส่วนผสม
- อินทผลัม 10 เม็ด
- เนยถั่ว (รสจืด)
- แยมราสป์เบอร์รี
- โกโก้นิบส์
วิธีทำ กรีดเม็ดอินทผลัมออก ตักเนยถั่วใส่ หยอดหน้าด้วยแยมราสป์เบอร์รี จัดใส่จานให้สวยงาม โรยโกโก้นิบส์ เสิร์ฟพร้อมชาร้อนๆ ที่หอมกรุ่น
ส่วนผสมแยมราสป์เบอร์รี
- ราสป์เบอร์รีสดหรือแช่แข็ง 1 ถ้วย
- น้ำตาลดอกมะพร้าวน้ำหอม 1 ช้อนโต๊ะ
- เมล็ดเจีย 1 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ ผสมราสป์เบอร์รีและน้ำตาลตั้งไฟสักครู่ ใส่เมล็ดเจีย ตั้งไฟอ่อนจนข้นขึ้น
Notes
- จะใส่น้ำตาลทรายก็ได้ แต่น้ำตาลดอกมะพร้าวจะมีกลิ่นหอมกว่า และหาชนิดออร์แกนิกได้
- สามารถเก็บแช่ตู้เย็นได้ จะทำให้อร่อยขึ้น
Tag :
ของหวาน, วีแกน, อินทผลัม
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น