ประเทศญี่ปุ่นในอดีตมีขนมหวานที่เรียกกันว่าวากาชิ (Wagashi) โดยส่วนผสมหลักจะมีถั่วแดงและแป้งข้าวเหนียว จนเมื่อศตวรรษที่ 16 ประเทศโปรตุเกสและสเปนได้เดินทางเข้ามาค้าขาย และได้นำขนมที่ทำด้วยแป้งสาลีและน้ำตาลเข้ามาด้วย ซึ่งเป็นของใหม่ที่ยังไม่ค่อยมีใครรู้จักและแพร่หลาย ต่อมาขนมนี้ก็มีอิทธิพลทำให้ขนมญี่ปุ่นแบบโบราณอย่างวากาชิเปลี่ยนแปลงและพัฒนาไปด้วย ในที่สุดเค้กประเภทสปันจ์เค้ก (Sponge Cake) ของญี่ปุ่นก็เนื้อเบาขึ้น
เค้กของญี่ปุ่นนี้ผู้เขียนชอบ Jiggly Fluffy Cake ที่สุด เป็นเค้กธรรมดาทั่วไปในญี่ปุ่นและมีขายกันในร้านสะดวกซื้อ หน้าตาเหมือนชีสเค้กแต่เนื้อนุ่มเบา เพราะมีไขมันและน้ำตาลน้อยกว่าพวกชีสเค้กทั่วไป เค้กนี้เมื่ออบเสร็จก็ตัดทานได้เลยไม่ต้องแช่เย็น โดยทั่วไปมักจะโรยหน้าด้วยไอซิง แต่ราดด้วยกูลี (Coulis) ซอสเนื้อเบานุ่มทำจากผลไม้โดยเฉพาะเบอร์รีจะอร่อยมาก
คนญี่ปุ่นชื่นชอบพวกขนมฝรั่งเศสมาก เมื่อมีโอกาสได้ไปเที่ยวยุโรปกว่า 10 ปีที่แล้ว คนญี่ปุ่นก็จะทานแทบทุกอย่าง จนมีคนเปรียบเทียบว่าทานทุกอย่างเหมือนกับคนอเมริกันชอบจังก์ฟู้ด (Junk Food) จนในชีวิตปกติจะชอบทานขนมเป็นพิเศษ เมื่อมีงานก็จะฉลองกันด้วยขนม แต่เพราะน้อยบ้านจะมีเตาอบ จึงต้องซื้อจากร้าน ทำให้ร้านขนมเกิดขึ้นทั่วไป ร้านขนมชื่อดังของฝรั่งเศส เช่น Pierre Hermé เปิดร้านแรกในกรุงโตเกียวในปี ค.ศ. 1998 François Pralus และ Jean-Paul Hévin คนทำขนมชื่อดังของฝรั่งเศสก็ไปเปิดร้านในญี่ปุ่น ส่วนพวกฝรั่งเศสเองก็แสวงหาส่วนผสมแปลกๆ จากญี่ปุ่นมาผสมผสานกับของที่มีอยู่ เปิดร้านขนมญี่ปุ่นในฝรั่งเศส เช่น Tomo และ Toraya
ส่วน Jiggly Fluffy Japanese Cake นี้เป็นขนมญี่ปุ่นง่ายๆ ซึ่งทำได้เองที่บ้านอย่างไม่ยุ่งยาก
ส่วนผสม
- ไข่เบอร์0 6 ฟอง
- เนยละลาย 70 กรัม
- นมสด 65 กรัม
- น้ำตาลทราย 20+20 กรัม
- ผิวเลมอน 1 ผล
- น้ำเลมอน 1/2 ผล
- เกลือ 1 หยิบมือ
- แป้งสาลีอเนกประสงค์ 110 กรัม
อุปกรณ์ พิมพ์เส้นผ่าศูนย์กลาง 20 เซนติเมตร สูงอย่างน้อย 8 เซนติเมตร กรุกระดาษไขที่ก้นพิมพ์และรอบพิมพ์ให้เป็นทรงสูงขึ้นมา
วิธีทำ
- แยกไข่ขาวและไข่แดง เตรียมไว้
- เทเนยละลายใส่อ่างผสม เติมนม น้ำตาลทราย 20 กรัม ผิวเลมอน ตีด้วยตะกร้อมือให้เข้ากัน
- ร่อนแป้งลงในส่วนผสม ตีให้เข้ากัน
- ใส่ไข่แดง ตีผสมให้เข้ากันดี
- ตีไข่ขาวจนตั้งยอดอ่อน เติมน้ำเลมอนทีละน้อย เติมเกลือ และน้ำตาล 20 กรัม
- แบ่งไข่ขาว 1/3 ส่วนใส่ในส่วนผสมไข่แดง ตะล่อมให้เข้ากัน แล้วเทลงในไข่ขาว ตะล่อมให้เข้ากันดี เทใส่พิมพ์ เคาะบนโต๊ะ 2-3 ครั้งเพื่อไล่อากาศ
- อบด้วยวิธีหล่อน้ำ โดยใช้ถาดใส่น้ำร้อนและวางพิมพ์ลงในถาด นำเข้าเตาอบอุณหภูมิ 135-145 องศาเซลเซียส นาน 50 นาที
- นำออกจากเตาอบ เคาะบนโต๊ะ 2-3 ครั้งให้ขนมหลุดจากพิมพ์ พักบนผ้าประมาณ 20 นาที
Notes
- เค้กนี้ไม่สามารถใช้วิธีใช้ไม้จิ้มว่าสุกหรือไม่ ต้องทดลองทำดู
- วิธีทำ Coulis นำเบอร์รีที่ชอบใส่หม้อ ใส่น้ำตาลไอซิง ตั้งไฟจนเบอร์รีสุกนุ่ม นำมายีผ่านตะแกรงเนื้อซอสจะเนียน นำไปตั้งไฟอ่อนจนข้น จะใส่แป้งข้าวโพดเล็กน้อยเพื่อให้ข้นขึ้นก็ได้
Tag :
ชีสเค้ก, เบเกอรี
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น