ในช่วงล็อกดาวน์ที่ผ่านมา หลายร้านไฟน์ไดนิ่งได้ปิดชั่วคราว รวมถึงร้านบลู บาย อลัง ดูคาส (Blue by Alain Ducasse) ร้านหนึ่งดาวมิชลินตั้งอยู่ที่ไอคอนสยาม ที่แม้ร้านจะปิดแต่เชฟของร้านก็ยังไม่หยุดคิดค้นเมนูใหม่ๆ เพื่อรอคอยร้านกลับมาเปิดอีกครั้ง
เชฟลิโจ จอร์จ (Lijo George) เอ็กเซ็กคูทีฟ ซูเชฟ ของร้านบลูฯ เป็นอีกหนึ่งกำลังสำคัญที่ช่วยคว้ารางวัล 1 ดาวมิชลินจากมิชลิน ไกด์ กรุงเทพฯ เชฟหนุ่มคนนี้เป็นชาวเมืองเกรละ (Kerala) ที่อยู่ทางตอนใต้ของประเทศอินเดีย พอเรียนจบการโรงแรมเขาได้สะสมประสบการณ์การทำอาหารแบบไฟน์ไดนิงจากเชฟชื่อดัง และทำงานในร้านระดับโลกอย่างเช่นห้องอาหาร 101 Dining Lounge & Bar ร้าน IDAM ร้าน Spoon by Alain Ducasse และ ร้าน Rech by Alain Ducasse
แน่นอนว่าเมื่อร้านบลู บาย อลังดูคาส เปิดตัวที่กรุงเทพฯ จะขาดเชฟฝีมือดีอย่างเชฟลิโจไปไม่ได้ โดยเขามารับตำแหน่งเอ็กเซ็กคูทีฟ ซูเชฟ รับผิดชอบดูแลจัดการงานครัวให้ราบรื่นเรียบร้อย เขามีหน้าที่บริหารจัดการ ฝึกฝน และประเมินทีมงานครัวทั้งหมด และทำงานร่วมกับเอ็กเซ็กคูทีฟเชฟในการสร้างสรรค์เมนูอาหารฝรั่งเศสร่วมสมัย
เชฟลิโจบอกว่าช่วงล็อกดาวน์ร้านไฟน์ไดนิงไม่เหมาะจะทำอาหารเดลิเวอรี ช่วงเวลานี้เขาเลยมีเวลาคิดเมนูใหม่ๆ อย่างเช่นจานพิเศษในฉบับนี้ที่ได้แรงบันดาลใจจาก “แกงปู” ซึ่งเป็นอาหารท้องถิ่นบ้านเกิดของเชฟ ในแกงนี้จะใส่มะม่วงและใบกะหรี่ เชฟนำมาปรับเป็นล็อบสเตอร์แทนเนื้อปู ซอสรสเข้มข้นเคี่ยวจากเปลือกล็อบสเตอร์โดยใช้เทคนิคการปรุงอาหารสไตล์ฝรั่งเศส แต่เพิ่มกลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์ของใบกะหรี่ (Curry Leaves) โดยทำเป็นน้ำมันสีเขียวมีกลิ่นหอม
รสชาติหวานของล็อบสเตอร์กับซอสที่เคี่ยวจากเปลือกของล็อบสเตอร์ ใส่ผงกะหรี่ และมะม่วง หยดด้วยน้ำมันใบกะหรี่เล็กน้อย ตกแต่งจานอย่างประณีตสวยงามด้วยมะม่วงย่าง แตงกวาม้วน ใบเซเลรี หอมแดงดอง และดอกไม้กินได้ดอกเล็กๆ น่ารัก ทำให้จานนี้เป็นส่วนผสมที่ละเมียดละไมลงตัว
เป็นการผสมผสานเทคนิคการทำอาหารฝรั่งเศสให้เข้ากับเครื่องเทศจากบ้านเกิดของเชฟได้เป็นอย่างดี
บลูล็อบสเตอร์กับมะม่วง และน้ำมันใบกะหรี่ (Poached Blue Lobster with Mango Curry Leaves Oil)
ส่วนผสมสำหรับเสิร์ฟและตกแต่งจาน
- ล็อบสเตอร์ลวก ล็อบสเตอร์มิกซ์ มะม่วงรมควัน น้ำมันใบกะหรี่ ใบกะหรี่ทอดและดอกไม้กินได้สำหรับตกแต่ง มะม่วงดิบ ซอสล็อบสเตอร์ ผิวมะม่วงสุกป่น
วิธีเตรียมล็อบสเตอร์
- เลือกล็อบสเตอร์สด ตัดหาง และก้ามออก เสียบด้วยไม้ปลายแหลมที่หางเพื่อให้ตัวตั้งตรง ลวกในน้ำเดือดนาน 2 นาที ตักขึ้นใส่น้ำเย็นจัด แกะเปลือกออก ใส่ตู้เย็นพักไว้ ก้ามล็อบสเตอร์นำไปต้มในน้ำเดือดโดยก้ามเล็กต้มประมาณ 5 นาที และก้ามใหญ่ต้มนาน 7 นาที ตักขึ้นใส่น้ำเย็นจัด พักไว้
การจัดจานเพื่อเสิร์ฟ
- อุ่นล็อบสเตอร์ในเตาอบไอน้ำที่อุณหภูมิ 54 องศาเซลเซียส นาน 8 นาที
- อุ่นล็อบสเตอร์มิกซ์ และตักใส่พิมพ์รูปวงรี
- จี่เนื้อมะม่วงสุกจนเป็นสีน้ำตาลสวย และวางบนล็อบสเตอร์มิกซ์
- หั่นเนื้อล็อบสเตอร์ ทาด้วยเนย ปรุงรสด้วยดอกเกลือ (Fleur de Sel) และพริกไทยบด วางบนจาน วางเนื้อมะม่วงสไลซ์ ตกแต่งด้วยผักและดอกไม้ให้สวยงาม ราดน้ำมันใบกะหรี่ เสิร์ฟเคียงกับซอสล็อบสเตอร์ และส่วนผสมสำหรับตกแต่งจานทั้งหมด
ส่วนผสมและวิธีทำล็อบสเตอร์มิกซ์
- เปลือกล็อบสเตอร์หั่นเป็นชิ้น 25 กรัม
- หัวหอมกงฟี 5 กรัม
- มะม่วงดิบหั่นลูกเต๋า 10 กรัม
- แครอตหั่นลูกเต๋า 10 กรัม
- เนื้อมะพร้าวอ่อนหั่นลูกเต๋า 10 กรัม
- ซอสล็อบสเตอร์ 10 กรัม
- กระเทียมกงฟี 1 ชิ้น
- ใบกระหรี่ทอด 5 ใบ
- หอมแดงดองหั่น 3 กรัม
- มะพร้าวฝอยอบ 2 กรัม
- น้ำสต๊อกไก่เล็กน้อย ไทม์ เกลือ และพริกไทยอย่างละเล็กน้อย
- ใช้กรรไกรตัดก้าม และข้อต่อออกจากเปลือก หั่นให้เป็นชิ้นเท่าๆ กัน พักไว้ จี่เนื้อมะม่วงดิบในกระทะให้พอมีสีสวย พักไว้ ผัดแครอตกับไทม์ และกระเทียมกงฟี ปรุงรสด้วยเกลือและพริกไทย ใส่น้ำสต๊อกไก่ลงไปเล็กน้อย ผัดจนส่วนผสมนุ่ม ใส่ส่วนผสมทั้งหมดลงในชามผสม ชิม และปรุงรส
ส่วนผสมและวิธีทำมะม่วงรมควัน
- มะม่วงหั่นชิ้นหนา 1 ชิ้น
- ซอสล็อบสเตอร์ 10 กรัม
- กะทิ 5 กรัม
- เกลือและพริกไทยสำหรับปรุงรส
- หั่นมะม่วงสุกเป็นชิ้นหนา ปรุงรสด้วยเกลือ และพริกไทย นำใส่ถุงสุญญากาศพร้อมกับส่วนผสมทั้งหมด นำไปอบในเตา 5 นาที และแช่ในน้ำเย็นจนส่วนผสมเย็น ตัดมะม่วงด้วยพิมพ์สเตนเลสให้เป็นขนาดตามต้องการ นำไปรมควันด้วยควันเย็น จี่มะม่วงในกระทะเคลือบไม่ต้องใช้น้ำมัน จนกระทั่งเป็นสีน้ำตาลทอง ตักขึ้นพักไว้
ส่วนผสมและวิธีทำน้ำมันใบกะหรี่
- ใบกะหรี่ 50 กรัม
- พริกเขียว 10 กรัม
- น้ำมันพืช 100 กรัม
- ผงกะหรี่มาดราส (Madras Curry Powder) 1 กรัม
- เกลือสำหรับปรุงรส
- ทอดใบกะหรี่ในน้ำมัน และนำส่วนผสมทั้งหมดปั่นในเครื่องผสมอาหารนาน 5 นาที กรองด้วยผ้าขาวบาง เทใส่ขวดสำหรับบีบซอส
ส่วนผสมและวิธีทำซอสล็อบสเตอร์
- เปลือกล็อบสเตอร์ 2 กิโลกรัม
- หอมแดงหัวยาว (Shallot Banana) 2 หัว
- เซเลรี 100 กรัม
- เฟนเนล 100 กรัม
- แครอต 100 กรัม
- มะเขือเทศบดเข้มข้น (Tomato Paste) 100 กรัม
- ผงกะหรี่ 2 กรัม
- เนย 50 กรัม
- น้ำมันมะกอก 50 กรัม
- บรั่นดี 75 กรัม
- ไวน์ขาว 75 กรัม
- เม็ดพริกไทยขาว 10 เม็ด
- เม็ดเฟนเนล 1 ช้อนโต๊ะ
- เม็ดผักชี 1 ช้อนโต๊ะ
- ใบโหระพา 5 กรัม
- ล็อบสเตอร์สต็อก 2 ลิตร และพริกเอสเปอเล็ตต์ (Espelette Pepper)
- ทอดเปลือกล็อบสเตอร์ให้เป็นสีน้ำตาลด้วยน้ำมันมะกอก ใส่เนยผัดให้สีสวยเสมอกัน ใส่บรั่นดี ผัดจนแอลกอฮอล์ระเหย พักไว้
- ตักเปลือกล็อบสเตอร์ออกจากหม้อ ใส่หอมแดง เซเลรี เฟนเนล และแครอต ผัดให้สุกนุ่มประมาณ 5 นาที ใส่มะเขือเทศบดเข้มข้น และผงกะหรี่ ตั้งไฟต่ออีก 5 นาที
- ใส่ไวน์ขาว เคี่ยวจนงวดลง เติมล็อบสเตอร์สต๊อก ใช้ไฟอ่อนต้มต่ออีก 35 นาที กรอง
- เมื่อเคี่ยวจนงวดแล้ว ชิมและปรุงรส ปรับความข้นของซอสด้วยเนย และเติมรสเปรี้ยวด้วยเลมอน ใส่พริกเอสเปอเล็ตต์เล็กน้อย
Notes
เอื้อเฟื้อสถานที่สำหรับถ่ายภาพ : The Athenee Hotel, a Luxury Collection Hotel, Bangkok
Tag :
Chef’s signature dish, ล็อบสเตอร์
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น