ซุกกินีเป็นผักตระกูลแตง มีใยอาหารสูง ช่วยลดความดันโลหิต ป้าเจี๊ยบชอบกินมาก กินได้ทั้งแบบสดๆ ในสลัด หรือทำอาหารคาวอย่างลาซานญา สปาเกตตี ป้าเจี๊ยบชอบซุกกินีมากกว่าแตงกวา เพราะเนื้อกรอบนุ่ม ไม่กรอบแข็งแบบแตงกวา น้องแพรและแพทริกกินซุกกินีสดๆ กันได้ตั้งแต่เล็กๆ เพราะป้าเจี๊ยบจัดให้กินเป็นของว่างแทนขนมหวาน
สิบกว่าปีที่แล้วคนไทยยังไม่นิยมกินซุกกินี ป้าเจี๊ยบซื้อจากชาวเขาที่วางขายริมทางถุงละ 20 บาท มี 7-8 ผล เดี๋ยวนี้ซื้อในซูเปอร์มาร์เก็ตผลละไม่ต่ำกว่า 20 บาท! ป้าเจี๊ยบเป็นแฟนร้านโครงการหลวง ใกล้ที่ทำงานค่ะ จึงมีซุกกินีกินตลอด แถมยังได้แบบซื้อหนึ่งแถมหนึ่งแทบทุกครั้ง
วันก่อนซื้อซุกกินีมาหลายถุง ทำกินแบบเดิมๆ ก็ชักเบื่อ เลยลองเปิดอินเทอร์เน็ตสืบค้นดูว่าคนอื่นเอาซุกกินีไปทำอะไรกินกันบ้าง สะดุดตาที่พบว่ามีคนเอาไปทำของหวาน เอ๊ะ! ยังไง?
บราวนี่ทำจากซุกกินีค่ะ ป้าเจี๊ยบไม่รอช้า ลงมือทำตามทันที ผลปรากฏว่าหวานเจื้อยแจ้ว แต่เนื้อนุ่มชุ่มฉ่ำดี จำต้องปรับสูตรกันสักหน่อย
ถือโอกาสทดสอบสูตรใหม่กับเพื่อนๆ วัฒนาวิทยาลัย ซึ่งมีนัดสังสรรค์กันทุกเดือนเว้นเดือนที่บ้านป้าเจี๊ยบ ปรากฏว่ามีคนทำสถิติกินมากถึง 4 ชิ้น! อย่างนี้ถือว่าสอบผ่านฉลุย ไม่มีใครรู้เลยว่าทำจากซุกกินี จนป้าเจี๊ยบบอก อิอิ...
ต้องทำอีกสิคะ เพราะไม่กี่วันต่อมาก็เป็นรายการกินกันวันเสาร์ประจำครอบครัว ซึ่งจะเลี้ยงฉลองวันเกิดสมาชิก 3 คนพร้อมกัน ป้าเจี๊ยบทำบราวนี่ซุกกินีแทนเค้กซะเลย
เตรียมถาดอบเป็นอย่างแรกค่ะ ปูแผ่นอะลูมิเนียมฟอยล์ในถาดสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาด 11 × 7 นิ้ว ใช้แปรงจุ่มน้ำมันมะกอกนิดหน่อยทาบางๆ ให้ทั่วแผ่นฟอยล์ ใช้น้ำมันมะกอกประเภทที่ทำอาหารแบบอบ ผัดหรือทอดนะคะ ไม่ใช่แบบ Extra Virgin แล้ววางพักไว้
ถัดมาก็ขูดซุกกินีให้เป็นเส้นเล็กๆ ฝอยๆ จนได้ปริมาณซุกกินีฝอย 1 ถ้วยตวง แล้วเตรียมชามแห้ง มีแป้งสาลีอเนกประสงค์ 1 ถ้วยตวง โซดาไบคาร์บอเนต 3/4 ช้อนชา เกลือป่น 1/2 ช้อนชา ผงโกโก้ 1/4 ถ้วยตวง ใช้ตะกร้อมือคนให้ส่วนผสมเข้ากัน วางพักไว้เช่นกัน
ต่อมาทำชามเปียก มีน้ำมันมะกอก 1/4 ถ้วยตวง น้ำตาลทราย 1/2 ถ้วยตวง วานิลลา 1 ช้อนชา น้ำเปล่า 1 ช้อนโต๊ะ ใช้ตะกร้อมือตีจนน้ำตาลละลายหมด แล้วเทชามแห้งกับซุกกินีลงไป ใช้พายคนให้ส่วนผสมทั้งหมดเข้ากัน เทลงถาดอบที่เตรียมไว้ เกลี่ยให้เสมอกัน ยกเข้าเตาอบติ๊งติ๊งที่ตั้งปุ่มอุณหภูมิไว้ 350 องศาฟาเรนไฮต์/175 องศาเซลเซียส ปุ่มไฟบน-ล่าง ปุ่มเวลา 25 นาที
พอได้ยินเสียงติ๊ง! นำออกจากเตาอบมาวางพักไว้บนตะแกรงให้เย็น จากนั้นทำหน้าบราวนี่ด้วยการผสมน้ำตาลไอซิง 1 ถ้วยตวง ผงโกโก้ 2 ช้อนโต๊ะ เนยสด (อุณหภูมิห้อง) 2 ช้อนโต๊ะ นมสด 2 ช้อนโต๊ะ วานิลลา 1/2 ช้อนชา และดอกเกลือ 1/4 ช้อนชา เข้าด้วยกัน ระหว่างทำ เจมส์บอนด์ หลานหมายเลข 7 มาถึงบ้านพอดี เดินเข้าครัวมาขอช่วย ป้าเจี๊ยบส่งพายให้คนจนส่วนผสมทั้งหมดเนียนเป็นเนื้อเดียวกัน แล้วนำมาเทราดลงบนบราวนี่ เกลี่ยจนเรียบเสมอกัน ตกแต่งนิดหน่อยด้วยแมกคาเดเมีย วางพักไว้ให้หน้าขนมแห้งและอยู่ตัว
ก่อนลงมือทำบราวนี่ป้าเจี๊ยบทำกับข้าวต้มหลายอย่างสำหรับเลี้ยงสมาชิกครอบครัวค่ะ มียำกุ้งแห้ง ยำกุนเชียง ผักกาดดองผัดไข่ ผัดถั่วงอก เต้าหู้หมูสับ ถั่วลิสงกับปลาข้าวสารทอด ไก่แช่เหล้า ปีกไก่เทอริยากิ หมูแช่เหล้า หมูหวาน เคาหยก หัวไช้เท้าตุ๋น นับแล้ว 12 อย่าง! เยอะเหมือนกันนะเนี่ย หุหุ... กว่าสมาชิกจะกินกันเสร็จและพักผึ่งพุงกันอีกหน่อยบราวนี่ก็อยู่ตัวพอดี
น้องแพรจัดการหาเทียนมาปักบนบราวนี่ ยกจานแบ่งและช้อนของหวานมาเตรียมไว้ ป้าแจงเริ่มเป็นต้นเสียง Happy birthday to you…น้องแพรจุดเทียนให้ป้าอี๊ด แม่แก้ว และพี่โอ๋เป่าพร้อมกันเมื่อสมาชิกร้องเพลงครบ 3 รอบ
คนที่ชอบบราวนี่ซุกกินีมากที่สุดคือแม่แอน เพราะกินทีละนิดๆ แต่กินเรื่อยๆ แถมยังชวนพ่อจ้อยซึ่งไม่ชอบกินของหวานมากินด้วยกัน บอกว่า “ลองหน่อยนะ ไม่หวานมาก มีอะไรเค็มนิดๆ อร่อยมาก”
เค็มนิดๆ ที่ว่าอร่อยนั้นมาจากดอกเกลือค่ะ เคล็ดลับของป้าเจี๊ยบเอง อิอิ...
เอิ่ม...แล้วก็อีกเช่นกัน ถ้าไม่บอกว่าทำจากซุกกินีก็ไม่มีใครรู้
Tag :
ซุกกินี, บราวนี่
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น