มีเพื่อนป่วยต้องไปฉายแสงแล้วอ่อนเพลียอย่างมากแต่อยากกินสายบัวต้มกะทิ เราไปปรึกษาหมอทางเลือกที่พนัสนิคม หมอแนะนำว่าให้ต้มกับปลาสลิดและใส่มะพร้าวอ่อน ส่วนกะทิให้คั้นจากมะพร้าวทึนทึกที่กำลังจะหาผัวได้ (ทึนทึกปลายทางกำลังจะแก่) ข้อนี้ถ้าพูดกับคนอื่นอาจมีเจ็บคอ แต่มาพูดกับเจ้าแม่สวนมะพร้าวเข้าใจในทันที เป็นทึนทึกที่เขย่าแล้วมีเสียงน้ำมะพร้าวกระฉอกชัดเจน จัดมา 1 ลูก ทำได้เลย
ส่วนผสม
- สายบัว 500 กรัม
- ปลาสลิด 2 ตัว
- ปลาทูนึ่ง 2 ตัว
- น้ำซุปกระดูกหมู 4 ถ้วย
- มะพร้าวอ่อน 1-2 ผล
- มะพร้าวทึนทึก (แก่) 1 ผล (ใช้กะทิธรรมดาก็ได้)
- น้ำตาลปี๊บ 65 กรัม
- ตะลิงปลิง (ไม่ใส่ก็ได้)
- ดอกเกลือ น้ำมะขามเปียก และน้ำปลาสำหรับปรุงรส
ส่วนผสมเครื่องแกง
- หอมแดงขนาดกลาง 5 หัว
- กะปิดี 2 ช้อนชา |
- เมล็ดพริกไทย 1 ช้อนชา |
- รากผักชี (อวบ) 1 ราก
วิธีทำ
- แช่ปลาสลิดในน้ำส้มสายชู 30 นาทีเพื่อฆ่าสารแปลกปลอม เสร็จแล้วล้างน้ำ ซับให้แห้ง นำไปอบหรือย่างพอให้สุกมีกลิ่นหอม
- โขลกเครื่องแกงเตรียมไว้
- ต่อยมะพร้าวทึนทึก ถ้าไม่มีที่ขูดมะพร้าวให้ใช้ตีนแมวขูดออกมา หรือต่อยเอาเปลือกออกแล้วใช้มีดปาดส่วนที่เป็นสีน้ำตาลออกให้หมด ใส่เนื้อมะพร้าวขาวลงในเครื่องปั่น ใส่น้ำมะพร้าวลงไปทั้งลูก ปั่นจนละเอียด เทใส่ผ้าขาวบาง คั้นน้ำกะทิออกมาให้หมด ตั้งทิ้งไว้ พอมันลอยหน้าก็ช้อนแยกหัวและหางกะทิ (ถ้าใช้มะพร้าวแก่ก็ซื้อจากตลาดได้เลย หรือใช้กะทิกล่องก็ได้)
- เฉาะมะพร้าวอ่อน ตักเนื้อมะพร้าวไว้แกง ถ้ามะพร้าวแก่ตักไม่ไหวใช้มีดหั่นเป็นเส้น
- ผสมน้ำซุปกระดูกหมูกับหางกะทิ ตั้งไฟ ใส่เครื่องแกงลงไปต้มให้เดือด
- ใส่ปลาสลิด ปลาทูนึ่ง และตะลิงปลิง ต้มให้เดือด ลดไฟอ่อน ต้มต่อให้น้ำแกงเข้าเนื้อปลา ปรุงรสด้วยน้ำตาลปี๊บก่อน รอจนน้ำตาลละลายแล้วจึงใส่เกลือ น้ำมะขามเปียก และน้ำปลา ใส่สายบัวและเนื้อมะพร้าวอ่อน ต้มจนสุกก็เป็นอันกินได้
Notes
แกงนี้อร่อยด้วยรสมะพร้าวอ่อนกับปลาสลิดย่าง กะทิคั้นหวานมัน วันนี้เราโชคดีที่ได้มะพร้าวทึนทึกที่คั้นแล้วมีมัน ถ้าจะให้ปลอดภัยขอแนะนำให้เตรียมกะทิกล่องเล็กๆ ไว้ปิดจ็อบในกรณีที่มะพร้าวไม่มันนะคะ
Tag :
มะพร้าวอ่อน, สายบัว
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น