อาหารทอดโดยเฉพาะหมูสามชั้นทอดยังเป็นที่นิยมเสมอมา นำหมูสามชั้นมาหมักกับน้ำปลาดี ใส่แป้งเพื่อให้ทอดง่ายขึ้น น้ำมันจะไม่กระเด็น กินกับดิป 3 ชนิด อร่อยรสชาติแตกต่างกันดี   ส่วนผสม (สำหรับ 4 ที่) หมูสามชั้น 2 เส้น น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ แป้งทอดกรอบ 2-3 ช้อนโต๊ะ น้ำเย็นจัด 2-3 ช้อนโต๊ะ น้ำมันรำข้าวสำหรับทอด   ส่วนผสมและวิธีทำแจ่ว น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ น้ำมะนาว 3 ช้อนโต๊ะ น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา ข้าวคั่ว 1 ช้อนโต๊ะ พริกป่น 2-3 ช้อนชา ผักชีฝรั่งซอย 1 ช้อนโต๊ะ และหอมแดงซอย 1 ช้อนโต๊ะ ผสมทุกอย่างคนให้เข้ากัน   ส่วนผสมและวิธีทำกิมจิมาโย กิมจิสับหยาบ 2 ช้อนโต๊ะ มายองเนส 3/4 ถ้วย และน้ำตาลทราย 1 ช้อนชา ผสมทุกอย่างคนให้เข้ากัน   ส่วนผสมและวิธีทำซัลซา เนื้อมะเขือเทศหั่นสี่เหลี่ยมลูกเต๋าเล็ก 2 ผล ผักชีซอย 1 ช้อนโต๊ะ พริกขี้หนูสีเขียวสับ 1 ช้อนชา น้ำมะนาว 2 ช้อนชา น้ำตาลทรายและเกลือป่นเล็กน้อย ผสมทุกอย่างคนให้เข้ากัน   วิธีทำ ใช้มีดปลายแหลมหรือส้อมจิ้มหนังหมูให้ทั่ว หมักหมูสามชั้นกับน้ำปลาในอ่างผสมไว้นาน 1 ชั่วโมง ใส่แป้งทอดกรอบและน้ำเย็นจัดลงในอ่างผสม ขยำให้เข้ากันกับหมูสามชั้น ทอดในน้ำมันร้อนท่วมจนเหลืองกรอบทั้งชิ้น ตักขึ้น พักไว้ให้สะเด็ดน้ำมัน หั่นเป็นชิ้น เสิร์ฟพร้อมแจ่ว กิมจิมาโย และซัลซา

  หมูสามชั้นเนื้อนุ่มเพราะตุ๋นจนได้ที่ หอมกลิ่นเครื่องเทศเข้าเนื้อ มีรสหวานนิดๆ และเค็มหน่อยๆ จากซีอิ๊วขาวและซีอิ๊วดำ   ส่วนผสม (สำหรับ 4 ที่) หมูสามชั้น  2  กิโลกรัม กระเทียมบุบ 1/3 ถ้วย รากผักชีซอย  1/4 ถ้วย พริกไทยป่น 1 ช้อนโต๊ะ อบเชยป่น 1 ช้อนโต๊ะ โป๊ยกั๊กป่น  1 ช้อนโต๊ะ ซีอิ๊วดำหวาน 6 ช้อนโต๊ะ น้ำตาลมะพร้าว 2  ช้อนโต๊ะ น้ำสต๊อกไก่ 1  ลิตร ซีอิ๊วขาว 5 ช้อนโต๊ะ น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ   วิธีทำ หั่นเนื้อหมูสามชั้นเป็นชิ้นหนาขนาด 2 × 2 นิ้ว หมักกับกระเทียม รากผักชี พริกไทย อบเชย โป๊ยกั๊ก และซีอิ๊วดำหวาน หมักไว้ข้ามคืน ใส่หมูลงในหม้อ เติมน้ำสต๊อกไก่ให้พอท่วม ต้มไฟแรงจนเดือด จากนั้นลดไฟให้อ่อนลง ต้มจนงวดลง 1/4 เติมน้ำสต๊อกไก่ที่เหลือ ต้มนาน 1 1/2 ชั่วโมงจนหมูนุ่ม ปรุงรสด้วยน้ำตาลมะพร้าว น้ำตาลทราย และซีอิ๊วขาว คนให้น้ำตาลละลายและน้ำขลุกขลิก พร้อมเสิร์ฟ         

  โกกี่กระบี่มือหนึ่งเรื่องอาหารแห่งกระบี่ฝากปลาสีเสียดเค็มมาให้ต้มกับหมูสามชั้น บอกวิธีทำมาคร่าวๆ เราก็เอามาดัดแปลงนิดหน่อยตามนิสัย ก็เลยไม่สามารถจะอ้างว่าเป็นการต้มแบบไหหลำได้ แต่ก็อร่อยมากค่ะ ปลาเค็มเขาดี   ส่วนผสม หมูสามชั้นอย่างดี 400 กรัม (หั่นประมาณ 1 นิ้ว) (หมักหมูกับน้ำปลา เกลือ น้ำมันหอย อย่างละเล็กน้อย) ปลาสีเสียดเค็มแห้งสนิทประมาณ 100 กรัม (ใส่มากกว่านี้ได้ หั่นชิ้นกว้าง 1 นิ้ว) น้ำซุปหรือน้ำเปล่าปริมาณท่วมปลาและหมูอย่างเหมาะสม น้ำมันหอย 1  ช้อนชา ผงชูรส 1/4 ช้อนชา (ถ้าใช้น้ำซุปไม่ต้องใส่) เหล้ามิรินแท้ 1 1/2 ช้อนโต๊ะ (ถ้าไม่มีก็ไม่ต้องใส่แต่เติมน้ำตาลทรายลงไปแทนเล็กน้อย) ขิงยาวประมาณ 2 1/2 นิ้ว 1 แง่ง (หั่นเป็นแผ่นครึ่งหนึ่ง ซอยครึ่งหนึ่ง) มะเขือเทศท้อ 1 ผล (ผ่า 8) พริกแห้งทอด 4-5 เม็ด (ไม่ใส่ก็ได้) พริกไทยและผักชีสำหรับโรยหน้า   ส่วนผสมเครื่องตำ พริกไทยเม็ด 1 1/2 ช้อนชา กระเทียมไทย 10 กลีบ รากผักชี 2 ราก   วิธีทำ หั่นและหมักหมู สับปลาเค็มแล้วเอาไปย่างหรืออบให้เหลืองหอม ตำพริกไทย กระเทียม รากผักชีให้ละเอียด จี่หมูสามชั้นด้วยกระทะเทฟลอน ควรใช้กระทะอย่างดีนะคะเพราะเราใช้ไฟค่อนข้างแรง อย่ากลับหมูไปมา ทิ้งไว้ให้ไหม้นิดๆ จึงค่อยกลับข้าง จี่ให้ข้างนอกสุกก็ใช้ได้ ตั้งหม้อน้ำซุปให้เดือดพล่าน ใส่เครื่องที่ตำไว้ ใส่หมู ปลาเค็ม ขิงแผ่น พริกแห้ง เรามีรากผักชีเหลือก็เลยใส่ลงไปด้วย ใส่น้ำมันหอยและเหล้ามิริน ต้มไฟอ่อนต่ออีกประมาณ 45 นาที หมูเปื่อยกำลังดี ถ้าหมูแก่ต้องต้มนานกว่านี้ ชิมและปรับรสให้อร่อย ปลาที่ใช้วันนี้เค็มกำลังดี ไม่ได้เติมอะไรอีกเลย เราทดลองใส่มะเขือเทศลงไปต้มจนนุ่มปรากฏว่าอร่อยขึ้นและสีสวยด้วย สรุปว่าใส่มะเขือเทศตามลงไป ตักใส่ชามโรยด้วยขิงซอย พริกไทย ผักชี แอบโรยตะไคร้สดซอยลงไปด้วยก็หอมดีเหมือนกัน แต่ไม่จำเป็น เมนูนี้กินร้อนๆ อร่อยมาก

  เนื้อหมูส่วนติดกระดูกหรือพอร์กชอปเป็นส่วนที่นุ่มอร่อย นำมาหมักง่ายๆ แล้วย่างกินกับฟักทองบดที่แทนมันฝรั่งบดได้ เป็นอาหารจานเดียวง่ายๆ และอิ่มอร่อย   ส่วนผสม (สำหรับ 2 ที่) เนื้อหมูส่วนพอร์กชอป  2  ชิ้น เกลือทะเลและพริกไทยดำบดหยาบอย่างละ 1/4 ช้อนชา กระเทียมบุบ 4 กลีบ น้ำมันมะกอก 1/2 ช้อนโต๊ะ แอปเปิลเขียวหั่นแว่นย่าง 1 ผล   ส่วนผสมฟักทองบด ฟักทองญี่ปุ่นนึ่ง 200  กรัม บัตเตอร์นัตสควอชนึ่ง 100 กรัม เกลือทะเลและพริกไทยดำบดหยาบอย่างละ  1/4  ช้อนชา วิปปิงครีมและเนยจืดเล็กน้อย   ส่วนผสมซอส น้ำส้มสายชูไวน์แดง  2  ช้อนโต๊ะ น้ำสต๊อกไก่ 1/4 ถ้วย น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา เนยจืด 1 ช้อนโต๊ะ   วิธีทำ หมักหมูด้วยเกลือ พริกไทย กระเทียม และน้ำมันมะกอกนาน 30-45 นาที ย่างบนกระทะย่างจนมีลายสวย นำเข้าเตาอบที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียสประมาณ 10-15 นาทีจนสุก ใช้กระทะใบเดิมใส่น้ำสต๊อกไก่ น้ำส้มสายชูไวน์แดง น้ำตาล เทกระเทียมและน้ำที่เหลือจากการหมักหมูใส่ ต้มจนเดือดและกระเทียมนิ่ม ใส่เนย คนให้เข้ากัน ชิมรสและปรุงเพิ่มตามชอบ บดฟักทองและบัตเตอร์นัตสควอชนึ่งร้อนๆ ให้เนียน ใส่เกลือ พริกไทย วิปปิงครีม และเนย เสิร์ฟพอร์คชอปกับแอปเปิลย่าง ฟักทองบด ราดซอส

  วันนี้ทำอาหารไปเยี่ยมคนป่วย ต้มซุปแบบจีนโดยใช้ฟองเต้าหู้ตากแห้งแช่น้ำ ถ้าใครชอบฟองเต้าหู้สดก็ใช้ได้ค่ะ แต่ต้องตุ๋นกระดูกหมูก่อน   ส่วนผสม ฟองเต้าหู้ 1 ถุง (ลืมดูน้ำหนักแต่เป็นของที่มากหรือน้อยก็ไม่เสียหาย) กระดูกหมูอ่อน 1 กิโลกรัม หมูสามชั้นรมควัน 1 ก้อนเล็กๆ (ยาวประมาณ 2 นิ้ว) รากผักชี 3 ราก (ทุบพอแตก) กระเทียมจีน 2 หัว (ปอกเปลือก) พริกไทยเม็ด 1 1/2 ช้อนชา (ตำหยาบๆ) น้ำมันหอย 1 ช้อนโต๊ะ ซีอิ๊วจีนอย่างดี 2 ช้อนโต๊ะ เหล้ามิรินแท้ 3 ช้อนโต๊ะ ดอกเกลือสำหรับปรุงรส   วิธีทำ แช่ฟองเต้าหู้จนนิ่ม หั่นเป็นชิ้นพอดีคำ หมักกระดูกหมูกับเกลือและพริกไทยอย่างละเล็กน้อย ต้มกระดูกหมูกับน้ำเปล่าโดยใส่น้ำให้ท่วมขึ้นมาพอสมควร เติมเกลือลงไปประมาณ 1 ช้อนชา ต้มไฟแรง ช้อนฟองออกให้หมด ใส่ฟองเต้าหู้และเครื่องปรุงอื่นๆ ต้มไฟแรงต่อสักครู่ ให้น้ำเดือดๆ เข้าไปทำให้กลิ่นรสของเครื่องปรุงที่ใส่ออกมาเต็มที่ ตุ๋นไฟอ่อนสุดประมาณ 30 นาที ชิมรส ถ้าอ่อนเค็มให้เติมเกลือหรือซีอิ๊วขาว ถ้าต้องการเติมน้ำตาลให้เติมเหล้ามิรินแทน  ตุ๋นไปจนกระดูกหมูนุ่มก็ใช้ได้ ฟองเต้าหู้กับกระดูกหมูจะใช้เวลาตุ๋นใกล้เคียงกัน หมูสามชั้นรมควันช่วยให้น้ำซุปอร่อยขึ้น ถ้าไม่มีก็ไม่ต้องใส่ค่ะ

  เนื้อหมูกินกับผลไม้รสเปรี้ยวหวานได้อร่อยรวมทั้งเนกทารีนด้วย เนกทารีนมีผลคล้ายลูกพีชแต่ผิวเกลี้ยงเรียบ เมื่อนำมาย่างเนื้อจะนุ่มและหอมหวาน ก่อนเสิร์ฟโรยด้วยกอร์กอนโซลาบลูชีสรสเข้มข้น   ส่วนผสม (สำหรับ 2 ที่) หมูสันนอก 4  ชิ้น น้ำมันมะกอก 1/2  ช้อนโต๊ะ เนกทารีนและพีชหั่นเสี้ยว 2-3  ผล เกลือทะเลและพริกไทยดำบดหยาบเล็กน้อย ชีสกอร์กอนโซลาบิเป็นชิ้นเล็กๆ ตามชอบ   ส่วนผสมหอมหัวใหญ่คาราเมล หอมหัวใหญ่สีแดงสไลซ์บาง  4 ถ้วย น้ำมันมะกอก 1-1/2  ช้อนโต๊ะ น้ำส้มสายชูบัลซามิก 1 ช้อนโต๊ะ เกลือและพริกไทยเล็กน้อย   วิธีทำ ผัดหอมหัวใหญ่กับน้ำมันมะกอกในกระทะใช้ไฟปานกลางนานประมาณ 1 ชั่วโมงจนสุกนุ่มและเป็นคาราเมลสีน้ำตาล ใส่น้ำส้มบัลซามิก ผัดให้เข้ากัน ปรุงรสด้วยเกลือและพริกไทย ปิดไฟ พักไว้ ย่างเนกทารีนและพีชบนกระทะสำหรับย่างนาน 4-5 นาทีจนเป็นลายสวย พักไว้ หมักหมูด้วยเกลือ พริกไทย และน้ำมันมะกอก พักไว้สักครู่ จากนั้นย่างในกระทะย่างจนสุก ตักหมูใส่จาน ใส่หอมหัวใหญ่ผัด วางเนกทารีนและพีชย่าง โรยชีสตามชอบ

  ปีใหม่บำรุงกำลังด้วยหมูสามชั้นตุ๋นจนเปื่อยนุ่ม ใส่ชะเอมเทศช่วยให้หวานชุ่มคอ และใส่เหล้าจีน 2 ชนิดเพื่อทำให้มีกลิ่นหอม กินคู่กับหัวไช้เท้านุ่มๆ อร่อยเข้ากัน   ส่วนผสม (สำหรับ 4-6 ที่) หมูสามชั้น    1-2  กิโลกรัม เหล้าขาวจีนทำจากกุหลา 1,000     มิลลิลิตร ต้นหอมญี่ปุ่น   2-3  ต้น ซีอิ๊วขาว ซีอิ๊วดำ น้ำตาลกรวด และชะเอมเทศอย่างละเล็กน้อย น้ำสต๊อกหมูและไก่ หัวไช้เท้าหั่นแว่นหนา   วิธีทำ หั่นหมูสามชั้นเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมขนาด 3 × 3 นิ้ว ต้มหมูพร้อมกับส่วนผสมทั้งหมดในหม้อใบใหญ่ใช้ไฟอ่อนนาน 5 ชั่วโมงจนน้ำงวดเหลือครึ่งหนึ่งเก็บไว้เป็นซอส ชิมให้มีรสหวานนำ เค็มตาม ต้มหัวไช้เท้าในน้ำสต๊อกจนนิ่ม จัดใส่จาน วางหมูสามชั้น ราดซอส

คอหมูหมักเครื่องเทศจากเมืองตรัง ย่างจนได้กลิ่นหอมและเนื้อนุ่ม เสิร์ฟพร้อมซอสกะปิผัดและครีมข้าวโพดใส่กระชายกลิ่นหอม   ส่วนผสมคอหมูย่าง คอหมู   120 กรัม ผงเครื่องเทศจากตรัง 1 ช้อนชา เกลือ 1 ช้อนชา น้ำมันรำข้าว 1 ช้อนชา ส่วนผสมครีมข้าวโพด  ข้าวโพดหวานดิบ 2 ฝัก กระชายอ่อนซอย 4 ราก  มันเทศเหลือง 1 หัว  ส่วนผสมซอสกะปิผัด พริกจินดา 4 เม็ด หอมแดง 8 หัว กระเทียมไทย 3 กลีบ รากผักชี 1 ราก กะปิ 1/2 ช้อนชา น้ำตาลปี๊บ 1/2 ช้อนชา น้ำซุปไก่ 1 ถ้วย เหล้าจีน 1 ช้อนชา น้ำมะนาว  วิธีทำ หมักคอหมูกับเครื่องเทศ เกลือ และน้ำมันอย่างน้อย 2 ชั่วโมง ทำซอสกะปิผัดโดยโขลกพริกจินดา หอมแดง กระเทียม รากผักชี และกะปิเข้าด้วยกัน นำไปผัด ปรุงรสด้วยน้ำตาลปี๊บและเหล้าจีน ผัดจนเครื่องสุก ชิมรสให้ออกเค็มและหวาน ปั่นน้ำซุปและกะปิผัดให้เข้ากัน เทใส่หม้อ ต้มไฟปานกลางจนงวดเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลแก่ ปรุงรสด้วยน้ำมะนาว พักไว้ ทำครีมข้าวโพดโดยใช้เครื่องแยกกากคั้นน้ำข้าวโพดและกรอง ต้มมันเทศจนสุก ปั่นน้ำข้าวโพด มันเทศ และกระชายรวมกันจนเข้ากันดี ต้มไฟอ่อนจนน้ำข้าวโพดสุกและเหนียว นำหมูที่หมักไว้ไปย่างจนสุก หั่นใส่จาน ตักครีมข้าวโพดไว้ข้างๆ ราดซอสกะปิ

  เกี๊ยวหมูนึ่งซอสพริกเสฉวน (Pork Wonton with Schezwan Sauce) ส่วนผสม (สำหรับ 4 ที่) แป้งเกี๊ยวซ่าแผ่นกลม 20 แผ่น หมูสับหยาบ 2 ถ้วย กุยช่ายซอย 5 ต้น ไข่ไก่ 1 ฟอง ขิงสับหยาบ 1 ช้อนโต๊ะ ต้นหอมซอย 3 ต้น น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา เกลือป่น 1/4 ช้อนชา ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ น้ำมันงา 1 ช้อนโต๊ะ ส่วนผสมซอส น้ำพริกกุ้ยหลิน 1 ช้อนโต๊ะ น้ำมันหอย 1 ช้อนโต๊ะ น้ำซุปไก่ 1/2 ถ้วย ต้นหอมซอยเล็กน้อย   วิธีทำ ผสมส่วนผสมไส้ทุกอย่างให้เข้ากัน ตักใส่บนแป้งเกี๊ยวซ่า ทาน้ำที่ขอบแป้งแล้วพับครึ่ง จับริมทั้ง 2 ด้านจรดเข้าหากัน (ให้เหมือนรูปเกี๊ยว) ทาน้ำอีกครั้งเพื่อให้ติดกัน ทำจนแป้งหมด  เรียงเกี๊ยวบนเข่งติ่มซำ พรมน้ำเล็กน้อยเพื่อให้แป้งนุ่ม นึ่งนาน 10-15 นาทีจนสุก ทำซอสโดยผสมน้ำพริกกุ้ยหลิน น้ำมันหอย และน้ำซุปไก่ ต้มพอเดือด ชิมรส ตักเกี๊ยวนึ่งใส่จาน ราดซอสและโรยต้นหอมซอย รับประทานทันที

  วันก่อนไปตลาดซื้อถั่วแขกมา 10 บาท ได้มาประมาณ 2 ขีดกว่าๆ คุณภาพสดใหม่ใช้ได้ กลับมาทำเมนูที่เราชอบกินมาก ขั้นตอนวุ่นวายนิดหน่อยนะคะ แต่เทคนิคนี้ทำให้ถั่วเขียวสวย ส่วนผสม ถั่วแขกประมาณ 250 กรัม หนำเลี้ยบสับละเอียด 1 ช้อนโต๊ะ น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา หมูสับ (หมักกับน้ำมันหอย 1 ช้อนชา ซีอิ๊วขาว1/2 ช้อนชา และพริกไทยเล็กน้อย) 1/2  ถ้วย  กระเทียมสับ 1 ช้อนโต๊ะ พริกขี้หนูสวนซอย 1 เม็ด ต้นหอมซอยเล็กน้อย กุ้งเคยหรือกุ้งเสียบทอดกรอบเล็กน้อย (ไม่ใส่ก็ได้) วิธีทำ ดึงเส้นที่สันฝักถั่วออก ล้างให้สะอาด หั่นเป็นท่อนๆ ยาวสัก 2 1/2 นิ้ว (ในรูปทอดเป็นท่อนยาวเพื่อให้ดูสวยงามแต่กินไม่ถนัด) แช่ถั่วในน้ำเกลือรสอ่อนๆ ผสมน้ำเย็นๆ น้ำเกลือจะช่วยให้ถั่วเขียวสวย รสเค็มปะแล่มๆ ก็พอนะคะ ใส่น้ำมันหมูลงกระทะเล็กน้อย ใส่กระเทียมกับพริกลงไปผัดพร้อมๆ กัน พอกระเทียมเริ่มเหลืองใส่หนำเลี้ยบลงไปผัด ถ้ากระเทียมจะไหม้ให้ปิดไฟก่อน ผัดจนหนำเลี้ยบสุก  ใส่หมูสับที่หมักไว้ลงไปผัด (อย่าลืมเปิดไฟนะคะ) ผัดจนหมูสุก ปรุงรสด้วยน้ำตาล ผัดจนหมูร่วน แห้ง ชิมรสให้เค็มนำและมีหวานตาม ถ้าอ่อนเค็มก็เติมได้ค่ะ ใส่ต้นหอม โรยพริกไทย ตั้งกระทะใส่น้ำมันมากๆ ระหว่างที่รอให้น้ำมันร้อนก็เอาถั่วขึ้นมาใส่ตะแกรงให้สะเด็ดน้ำ พอน้ำมันร้อนจัดก็เทถั่วลงไป ใช้ตะหลิวคนไปมาแค่อึดใจสั้นๆ สังเกตว่าผิวถั่วพองนิดเดียวก็พอตักขึ้นมาพักบนตะแกรง คีบถั่วใส่จาน โรยด้วยหมูสับหนำเลี้ยบที่ผัดไว้ ตามด้วยกุ้งเคยหรือกุ้งเสียบทอดกรอบ เมนูนี้เป็นผัดแบบแห้งๆ นะคะ จะใช้ถั่วฝักยาวแทนก็ได้