เนื้อสันคอหมูติดหนังอบหรือหมูสามชั้นติดหนัง อบจนหนังพองฟูและกรอบ กินคู่กับซอสที่เคี่ยวจากน้ำอบหมูนำไปผสมกับเบียร์ดำเยอรมันทำให้ซอสเข้มข้นขึ้น เสิร์ฟกับมันฝรั่งบดสไตล์เยอรมันและสลัดเคราท์   ส่วนผสม เนื้อสันคอหมู (Boston Butt) หรือหมูสามชั้น 2 กิโลกรัม กระเทียม 4 กลีบ เมล็ดคาราเวย์ 2 ช้อนชา พริกไทยขาวป่น 1/4 ช้อนชา เกลือเล็กน้อย วิธีทำ อุ่นเตาอบไว้ที่อุณหภูมิ 200 องศาเซลเซียส บากหนังหมูด้วยคัตเตอร์ หรือ Carpet Knife ให้กว้าง 2 เซนติเมตร อย่ากรีดทะลุถึงเนื้อหรือไขมันด้านล่าง (ถ้ากรีดลึกเกินไป น้ำจากเนื้อจะออกมาระหว่างการอบ จะทำให้หนังหมูไม่กรอบ) ใส่กระเทียม พริกไทยขาว เกลือ และเมล็ดคาราเวย์ นวดให้ทั่วเนื้อหมู (ถ้ามีเวลาหมักไว้ 1 คืน) จากนั้นวางเนื้อหมูบนถาดอบหรือหม้ออบโดยหงายหนังหมูขึ้น นำเข้าเตาอบประมาณ 40 นาที ส่วนผสมซอส หัวหอมใหญ่ 2 หัว | แครอต 1 หัว | ต้นกระเทียม (Leek) 1 ต้น | เซเลรี 1 ต้น | ใบกระวาน 5 ใบ | ลูกจันทน์เทศ (Juniper Berry) 5 ผล | พริกไทยขาวเม็ด (ทุบหยาบๆ) 10 เม็ด | กานพลู 3 ดอก | ซอสมะเขือเทศเข้มข้น 4 ช้อนโต๊ะ | เบียร์ดำเยอรมัน 80 มิลลิลิตร (หรือเบียร์ข้าวสาลีดำเยอรมัน) | ไวน์แดงชนิดดราย (Dry Red Wine) 100 มิลลิลิตร   วิธีทำ ใส่ส่วนผสมซอสลงในถาดอบรอบๆ หมู แล้วอบต่ออีก 30 นาที หมั่นคนส่วนผสมเพื่อให้ผักมีสีน้ำตาลสวย ถ้าผักเริ่มไหม้เติมน้ำสต๊อกผัก เนื้อ หรือหมูได้ (แต่ควรใส่ให้น้อยที่สุด เพราะถ้ามีไอน้ำมากเกินไปในเตาอบจะทำให้หนังหมูไม่กรอบ) เมื่อหนังหมูกรอบตามที่ต้องการและอุณหภูมิด้านในเนื้อหมูถึง 70 องศาเซลเซียส นำออกจากเตาอบ คลุมด้วยผ้าแล้วพักไว้ 10 นาที โดยยังคงอยู่ในถาดพร้อมกับซอสและน้ำที่หยดออกมา (เพื่อให้เนื้อดูดซับน้ำกลับเข้าไป) จากนั้นเทน้ำที่ได้จากการอบใส่หม้อใบเล็ก เติมเมล็ดมัสตาร์ดเยอรมัน 1 ช้อนโต๊ะ น้ำตาลทรายและเกลือทะเลเล็กน้อย คนให้พอเดือดและข้น ชิมรสตามชอบ หั่นเนื้อหมูขนาดตามต้องการ วางบนจานเสิร์ฟพร้อมกับเครื่องเคียงต่างๆ และซอสที่เตรียมไว้  

เมนูหรูที่มักจะได้กินเมื่อถูกเชิญไปบ้านคนเยอรมัน เนื้อสันคอหมูอบในเตาอบ หั่นเป็นชิ้นเสิร์ฟกับมันฝรั่งคนูเดิล (Knödel หรือ Dumplings) กินคู่กับซอสเกรวีและสลัดเคราท์   ส่วนผสม เนื้อสันคอหมูประมาณ 2 กิโลกรัม | แครอตหั่นเต๋าใหญ่ 1 ถ้วย | ต้นกระเทียม (Leek) 1 ถ้วย | เซเลรีหั่นท่อน 1 ถ้วย | หอมหัวใหญ่ 1 หัว | กระเทียม 1 หัว | เนยและน้ำมันมะกอกสำหรับทอดหมูเล็กน้อย | เกลือทะเลและพริกไทยดำสำหรับปรุงรส   วิธีทำ ล้างเนื้อสันคอหมูด้วยน้ำเกลือ นำไปหมักกับเกลือและพริกไทย ทอดหมูกับเนยและน้ำมันมะกอกให้เหลืองทุกด้าน เตรียมไว้ ผัดผักต่างๆ ให้มีสีเหลืองสวยงาม ตักเนื้อหมูที่ทอดเตรียมไว้ใส่หม้อ Dutch Oven วางผักลงบนเนื้อหมู นำเข้าเตาอบอุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส นาน 1 ชั่วโมง ปิดไฟ พักไว้ 20 นาที จากนั้นหั่นเนื้อหมูเป็นชิ้นเตรียมเสิร์ฟ บดผักอบด้วยกระชอน เตรียมไว้ กรองน้ำที่ได้จากการอบเนื้อหมู ใส่รวมกันในหม้อใบเล็ก ใส่แป้งข้าวโพด 1 ช้อนโต๊ะ ตั้งไฟแล้วเคี่ยวให้เดือดและข้นเล็กน้อย พักไว้ ส่วนผสมและวิธีทำ Knödel มันฝรั่งต้มสุก 500 กรัม | แป้งข้าวโพด 100 กรัม | เนยจืด 10 กรัม | ไข่แดง 1 ฟอง | เบคอนสับ 2 ชิ้น | ผักชีสับเล็กน้อย | ผงลูกจันทน์เทศ (Nutmeg) ตามชอบ บดมันฝรั่งให้พอหยาบๆ ใส่ส่วนผสมทั้งหมดแล้วปั้นเป็นก้อนให้ได้ขนาดตามต้องการ ต้มในน้ำเดือด รอให้มันฝรั่งลอยขึ้น ตักขึ้น เตรียมไว้ ส่วนผสมและวิธีทำ Krautsalat กะหล่ำปลี 1 หัว | เกลือทะเล 2 ช้อนชา | น้ำตาลทราย 3 ช้อนชา | น้ำส้มสายชู 2 ช้อนโต๊ะ | น้ำมันดอกทานตะวัน 4 ช้อนโต๊ะ | เมล็ดคาราเวย์ 1 ช้อนชา ซอยกะหล่ำปลีบางๆ ตามขวาง ใส่ส่วนผสมทั้งหมดแล้วขยำเบาๆ ให้เข้ากันประมาณ 4-5 นาที พักไว้ในตู้เย็น 2 ชั่วโมง วางเนื้อหมู Knödel และสปาเกตตี ราดซอสเกรวี ตกแต่งด้วยพาร์สลีย์ให้สวยงามเสิร์ฟพร้อมสลัดเคราท์

อีกเมนูที่ไปสเปนแล้วต้องไม่พลาด ลูกหมูตัวเล็กทอดจนหนังบางและกรอบกินได้ทั้งชิ้น เสิร์ฟพร้อมพริกสเปนชุบแป้งทอด มันฝรั่งสไลซ์ราดซอสชีมีชูรีและซอสเดมิกลาซรสเข้มข้น   ส่วนผสมแป้งชุบทอดพริก (สำหรับ 1-2 ที่) แป้งสาลีอเนกประสงค์ 120 กรัม | แป้งขนมปัง 40 กรัม | ผงไตรซอล (Trisol) 40 กรัม | ยีสต์แห้ง 7 กรัม | เกลือทะเล 5 กรัม | น้ำตาลทราย 7 กรัม | พริกสเปน (Piparra Pepper) 2-3 เม็ด | น้ำเย็นจัดเล็กน้อย   วิธีทำ ผสมส่วนผสมทั้งหมดเข้าด้วยกันในชามผสมที่รองด้วยน้ำแข็ง ค่อยๆ ใส่น้ำเย็นทีละน้อย ผสมให้ได้เนื้อแป้งไม่ข้นไม่เหลวจนเกินไป ใส่พริกสเปนลงชุบแล้วทอดจนสีเหลืองสวย ส่วนผสม Suckling Pig (สำหรับ 6 ที่) ลูกหมูตัวเล็ก 1 ตัว | ใบกระวาน 2 ใบ | โรสแมรี่ ใบไทม์ กระเทียม พริกไทยดำ และน้ำมันมะกอก อย่างละเล็กน้อย | พริกไทยเสฉวน ต้นหอม และเดมิกลาซ สำหรับเสิร์ฟและตกแต่งเล็กน้อย   วิธีทำ เตรียมหมูโดยเราะกระดูกออกแล้วหั่นให้ได้ 6 ชิ้น นำใส่ถุงซูวีดพร้อมกับน้ำมันมะกอก พริกไทยดำ ใบกระวาน โรสแมรี่ ใบไทม์ และกระเทียม นำไปซูวีดด้วยอุณหภูมิ 65 องศาเซลเซียส นาน 24 ชั่วโมง นำเนื้อหมูออกจากถุงซูวีดแล้วทอดด้วยไฟอ่อนสักครู่ พอเนื้อหมูเริ่มขึ้นสีสวยให้เพิ่มเป็นไฟแรง เพื่อให้หมูกรอบและไม่อมน้ำมัน พักไว้ ส่วนผสมและวิธีทำซอสชีมีชูรี กระเทียมสับ 100 กรัม | ออริกาโน 10 กรัม | ใบพาร์สลีย์ 20 กรัม | ผงปาปริกา 25 กรัม | น้ำเลมอน 160 กรัม | เกลือ 4 กรัม | พริกไทยดำ 4 กรัม | น้ำส้มสายชูหมักจากไวน์ขาว 40 กรัม | น้ำมันมะกอก 150 กรัม | พริกสด 150 กรัม ปั่นส่วนผสมทั้งหมดเข้าด้วยกัน ชิมรส ปรุงตามชอบ เตรียมไว้ ส่วนผสมและวิธีทำมันฝรั่ง มันฝรั่ง 4-5 หัว | น้ำมันมะกอก | ใบไทม์ | โรสแมรี่สับ | เกลือทะเลสำหรับปรุงรสเล็กน้อย สไลซ์มันฝรั่งให้เป็นแผ่นบาง เรียงใส่ถาด ราดน้ำมันมะกอก ใบไทม์ โรสแมรี่ และเกลืออย่างเล็กน้อย นำเข้าเตาอบอุณหภูมิ 190 องศาเซลเซียส นาน 1 ชั่วโมง หรือจนมันฝรั่งมีสีเหลืองสวย พักไว้ให้หายร้อน จากนั้นหั่นให้เป็นชิ้นสี่เหลี่ยมพอคำ นำไปทอดให้กรอบและมีสีน้ำตาลทองสวย วิธีจัดจาน วางมันฝรั่งทอด ราดซอสชีมีชูรี วางเนื้อหมูแล้วโรยด้วยพริกไทยเสฉวนและต้นหอมเล็กน้อย วางพริกสเปนทอดแล้วราดด้วยซอสเดมิกลาซ เสิร์ฟทันที

สันคอหมูคลุกฝุ่น กรุบกรอบและหอมด้วยข้าวคั่ว เสิร์ฟมากับน้ำจิ้มแจ่วเทอริยากิ ตัวเนื้อหมูหมักด้วยโชยุเล็กน้อยเพื่อให้ได้กลิ่นอายแบบญี่ปุ่น   ส่วนผสม สันคอหมู 500 กรัม น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ โชยุ 1 ช้อนโต๊ะ น้ำตาลทราย 1/2 ช้อนชา ไข่ขาว 1 ฟอง ข้าวคั่ว 1/2 ถ้วย น้ำมันพืชสำหรับทอด แตงกวาสำหรับเสิร์ฟ พริกทอดสำหรับเสิร์ฟ ข้าวเหนียวนึ่งสำหรับเสิร์ฟ ซอสแจ่วเทอริยากิ น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ โชยุ 1 ช้อนโต๊ะ มะขามเปียก 2 ช้อนโต๊ะ น้ำตาลทรายแดง 50 กรัม แป้งข้าวโพด 1/2 ช้อนชา น้ำสะอาด 2 ช้อนชา พริกป่น 1 ช้อนชา ต้นหอม (ซอย) สำหรับเสิร์ฟ วิธีทำ ทุบคอหมูให้บางลงเล็กน้อย แล้วหมักกับน้ำปลา โชยุ และน้ำตาลทราย พักในตู้เย็น 1 ชั่วโมง เคล้าชิ้นหมูกับไข่ขาว แล้วคลุกกับข้าวคั่ว นำลงทอดที่อุณหภูมิ 170 องศาเซลเซียสจนสุกดี สะเด็ดน้ำมันพักไว้ ทำซอสแจ่วเทอริยากิโดยนำน้ำปลา โชยุ มะขามเปียก และน้ำตาลทรายแดงใส่หม้อตั้งไฟ เคี่ยวประมาณ 2 นาที ละลายแป้งข้าวโพดกับน้ำสะอาด ใส่ลงไปในซอส คนให้ข้นขึ้น ยกออกจากเตา ใส่พริกป่น และต้นหอม หั่นหมูทอดที่พักไว้ เสิร์ฟกับซอสแจ่วเทอริยากิ ข้าวเหนียวนึ่ง พริกทอด และแตงกวา

หมูสามชั้นสอดไส้ผักโขม เห็ด และเกาลัด รสเค็มมันครีมมี่ ม้วนและอบจนหนังพองเหลืองกรอบ เสิร์ฟคู่กับซอสดาร์กช็อกโกแลตรสเข้มข้น หอมกลิ่นโกโก้ และไวน์แดง รสชาติเข้ากันได้ดีกับหมูอบ ส่วนผสม (สำหรับ 4-6 ที่) หมูสามชั้นชิ้นใหญ่น้ำหนักประมาณ 1.4 กิโลกรัม กระเทียมต้น (Leek) หั่นครึ่ง 3-4 ต้น เบบี้แครอตหั่นครึ่ง 3-4 หัว ส่วนผสมไส้ผักโขม กระเทียมสับ 2 กลีบ เห็ดแชมปิญองสับ 8-10 ดอก ผักโขมแช่แข็งสับ 2 ถ้วย หอมหัวใหญ่สับ 1/2 ถ้วย เนื้อเกาลัดสับ 1/2 ถ้วย วิปปิงครีม 1/2 ถ้วย อบเชยป่น 1 ช้อนชา เกลือทะเลและพริกไทยดำบดหยาบสำหรับปรุงรส น้ำมันมะกอกสำหรับผัด ส่วนผสมซอสช็อกโกแลต หอมหัวใหญ่สับ กระเทียมต้น (Leek) สับ เซเลรีสับ และแครอตสับอย่างละ 1/3 ถ้วย ไวน์แดง 1/2 ถ้วย น้ำสต๊อกเนื้อ 1 ถ้วย ดาร์กช็อกโกแลต 70% 1/3 ถ้วย เนยจืดเย็น 1 ช้อนโต๊ะ ผงเกรวี 1 ช้อนโต๊ะ น้ำมันมะกอกสำหรับผัดเล็กน้อย วิธีทำ ทำไส้ผักโขมโดยตั้งกระทะใส่น้ำมัน กระเทียม หอมหัวใหญ่ และเห็ด ผัดจนสุก ใส่ผักโขม เนื้อเกาลัด อบเชยป่น ผัดให้เข้ากัน ใส่วิปปิงครีม ปรุงรสด้วยเกลือและพริกไทย ชิมรส ปิดไฟ พักไว้ให้เย็น เลาะเนื้อหมูออกเล็กน้อย โรยเกลือให้ทั่วทั้ง 2 ด้าน หงายด้านเนื้อขึ้น ตักไส้ที่เตรียมไว้ใส่ลงไป เกลี่ยให้ทั่วชิ้น จากนั้นม้วนให้แน่น มัดด้วยเชือกให้มีระยะห่างกันประมาณ 1 นิ้ว ใส่ตะแกรงแล้วนำไปตากลมหรือตากแดดให้หนังแห้งสนิท นำเข้าเตาอบที่อุณหภูมิ 250 องศาเซลเซียส ประมาณ 30-45 นาทีจนหนังพองกรอบ ยกออกจากเตา ทำซอสโดยตั้งหม้อใส่น้ำมัน เซเลรี แครอต หอมหัวใหญ่ กระเทียมต้น ผัดเข้าด้วยกัน พอสุกใส่ไวน์แดง ต้มต่อให้ไวน์งวดลงครึ่งหนึ่ง ใส่น้ำสต๊อกเนื้อ ผงเกรวี และดาร์กช็อกโกแลตสับ ต้มให้เดือดประมาณ 5-8 นาที ปรุงและชิมรส ปิดไฟแล้วกรอง ใส่เนย คนให้เนยละลาย ย่างเบบี้แครอตและกระเทียมต้น ปรุงรสด้วยเกลือเล็กน้อย ย่างให้สุก ใส่ถาดสำหรับเสิร์ฟ สไลซ์หมูอบให้เป็นชิ้น วางบนถาดเสิร์ฟ เสิร์ฟพร้อมซอสดาร์กช็อกโกแลต

หมูแผ่นรสหวานเป็นหนึ่งในวัตถุดิบที่ใส่ในยำสามกรอบ แต่สูตรนี้ทำไว้กินกับข้าวต้มร้อนๆ หรือนำมายำกินกับข้าวสวยร้อนๆ ก็อร่อย และยังทำเก็บไว้กินได้ ส่วนผสม เนื้อหมูสันคอหั่นชิ้นเล็ก 500 กรัม น้ำตาลทราย 1/2 ถ้วย ซีอิ๊วขาว 3 ช้อนโต๊ะ เกลือป่น 1 ช้อนชา พริกไทยป่น 1 ช้อนชา ผงพะโล้ 1 ช้อนชา น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ วิธีทำ ใส่เนื้อหมูลงในเครื่องบด ใส่น้ำตาลทราย ซีอิ๊วขาว เกลือ พริกไทย และผงพะโล้ บดให้เข้ากันจนละเอียด ตักหมูบดใส่ชามผสม ใส่น้ำมันพืช คลุกเบาๆ พอให้น้ำมันเคลือบผิวไว้ พักไว้ 1-2 ชั่วโมง เตรียมถุงพลาสติกใบใหญ่ ตักส่วนผสมหมูบดใส่ เกลี่ยให้แบนๆ วางบนแผ่นพลาสติก แล้วนำแผ่นพลาสติกอีกแผ่นมาปิด ใช้มือกดให้หมูแผ่ออก รีดหมูให้หนาสม่ำเสมอประมาณ 0.5 เซนติเมตร ตกแต่งขอบให้สวยงาม ใส่ถาด ดึงแผ่นพลาสติด้านบนออก นำไปตากด้วยลมร้อนในเตาอบที่อุณหภูมิ 60 องศาเซลเซียส เวลา 1 ชั่วโมง กลับด้าน นำพลาสติกออกแล้วตากต่อ 1 ชั่วโมงจนผิวด้านนอกตึง จัดเสิร์ฟโดยตัดหมูแผ่นเป็นชิ้น ตั้งกระทะใส่น้ำมันเล็กน้อย ใส่หมูแผ่นลงทอดจนสุก จัดใส่จานกินกับข้าวต้ม

  พอร์กชอปเนื้อนุ่มกับซอสกาแฟรสเข้มข้น ให้กลิ่นหอม รสเปรี้ยวละมุนกลมกล่อมจากน้ำส้มสายชูบัลซามิก และกลิ่นหอมสดชื่นจากไทม์   ส่วนผสม (สำหรับ 2 ที่) พอร์กชอป 2 ชิ้น เครื่องเคียง เช่น ถั่วแขก มะเขือเทศเชอร์รี และหอมหัวใหญ่ขนาดเล็ก ผัดกับน้ำมันมะกอก ส่วนผสมซอสกาแฟ กาแฟเอสเปรสโซ ตราเซกาเฟรโด ซาเนตติ อินเตอร์เมซโซ่ พักให้เย็น 350 มิลลิลิตร น้ำเชื่อมน้ำตาลทรายแดง 4 ช้อนโต๊ะ น้ำส้มสายชูบัลซามิก 3 ช้อนโต๊ะ ดิจองมัสตาร์ด 1 ช้อนโต๊ะ กระเทียมสับ 2 กลีบ ใบไทม์สด 1 ช้อนชา เกลือทะเล 1 1/2 ช้อนชา พริกไทยดำบดหยาบ 1/2 ช้อนชา วิธีทำ ทำซอสโดยผสมกาแฟเอสเปรสโซกับน้ำเชื่อม น้ำส้มสายชูบัลซามิก ดิจองมัสตาร์ด กระเทียมสับ ไทม์ เกลือ และพริกไทย หมักกับพอร์กชอป ใส่ถุงหรือกล่องปิดฝาแช่ตู้เย็นไว้ 3-4 ชั่วโมง ย่างพอร์กชอปในกระทะให้สุกเป็นสีน้ำตาลสวย ใส่จาน พักไว้ เทซอสที่ใช้หมักใส่หม้อ ยกขึ้นตั้งไฟอ่อนให้เดือดและงวด ชิมรส เสิร์ฟพอร์กชอปพร้อมเครื่องเคียง ราดด้วยซอสกาแฟ และตกแต่งด้วยกิ่งไทม์

  กะหล่ำปลีม้วนไส้หมูสับที่คนญี่ปุ่นนิยมกินกัน เมนูนี้เพิ่มรสอร่อยด้วยซอสมะเขือเทศ ใส่น้ำซุปดาชิเข้มข้นและเห็ดหอม ให้ทั้งกลิ่นหอมและรสอูมามิ โรยเนื้อปูรสหวานอร่อยเข้ากัน   ส่วนผสม (สำหรับ 2 ที่) กะหล่ำปลีม้วน 4-6 ชิ้น มะเขือเทศกระป๋องสับ 300 กรัม น้ำซุปดาชิเข้มข้น 1/4 ถ้วย                  น้ำเปล่า 1 ถ้วย      มิริน 1 ช้อนโต๊ะ เห็ดหอมสดหั่นเต๋า 3 ดอก เนื้อปู และต้นหอมซอยสำหรับโรยหน้า วิธีทำ ต้มน้ำเปล่ากับน้ำซุปดาชิ และมะเขือเทศกระป๋องสับรวมกันจนเดือด ใส่เห็ดหอมสด มิริน และกะหล่ำปลีม้วน ต้มจนเดือดและทั้งหมดสุกนุ่ม ตักใส่ชาม โรยเนื้อปูและต้นหอมซอย

  กรุบๆกรอบๆ ไปกับ หมูสามชั้นทอด ที่นำมาปรุงรสให้จัดจ้านด้วย พริกและข้าวคั่ว เมนูกินเล่นที่ทำขายก็ดีทำกินเองก็อร่อย   ส่วนผสม (สำหรับ 3-4 ที่) หมูสามชั้นแล่เอาหนังออก 650 กรัม น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ ข้าวคั่ว 1 ช้อนโต๊ะ พริกป่น 1 ช้อนโต๊ะ น้ำตาลทราย 2 ช้อนชา แป้งทอดกรอบ 1/2 ถ้วย ใบมะกรูดทอดกรอบ 10 ใบ พริกขี้หนูแห้งทอด 10 เม็ด       น้ำมันพืชสำหรับทอด วิธีทำ หั่นหมูสามชั้นเป็นชิ้นใหญ่ ใส่ชามผสม พักไว้ ใส่น้ำปลา ข้าวคั่ว พริกป่น และน้ำตาลลงในชามหมูสามชั้น คลุกให้เข้ากัน ใส่ผักชีซอย แป้งทอดกรอบ คลุกให้เข้ากัน ตั้งกระทะใส่น้ำมัน ใช้ไฟปานกลางให้ร้อน ใส่หมูลงทอดจนสุกเหลืองกรอบ ตักขึ้นให้สะเด็ดน้ำมัน จัดหมูทอดใส่จาน โรยใบมะกรูดและพริกแห้งทอด

  เปลี่ยนจากหมูสามชั้นต้มสำหรับไหว้เป็นหมูต้มสไตล์เกาหลี ใส่โชจูดับกลิ่นคาว เพิ่มรสหอมหวานด้วยแอปเปิลและหอมหัวใหญ่ กินคู่กับผักสด และซอสซัมจัง เต้าเจี้ยวเกาหลีปรุงรส อร่อยเข้ากัน   ส่วนผสม (สำหรับ 4-6 ที่) หมูสามชั้นส่วนหัวไหล่หรือส่วนสะโพก 1 กิโลกรัม แอปเปิลแดง 1 ผล หอมหัวใหญ่ 1/2-1 หัว ขิงหั่นแว่น 5-6 แว่น ต้นหอมญี่ปุ่น 1 ต้น โชจู 1/2 ถ้วย ซีอิ๊วเกาหลี 2 ช้อนโต๊ะ กระเทียมบุบ 5 กลีบ เต้าเจี้ยวเกาหลี 1/4 ถ้วย เกลือทะเลเล็กน้อย ผักสลัด ใบงา (ใบชิโซะ) กระเทียมสด พริกชี้ฟ้า กิมจิ และซอสซัมจัง (Ssamjang) สำหรับเสิร์ฟ วิธีทำ ใส่หมูและส่วนผสมทั้งหมดลงในหม้อ ใส่น้ำให้พอท่วมหมู ปิดฝาต้มด้วยไฟแรงจนเดือด จากนั้นลดไฟอ่อน ต้มต่อประมาณ 45-60 นาทีจนหมูสุกนุ่ม ตักหมูขึ้นพักสักครู่ หั่นเป็นชิ้น เสิร์ฟหมูกับเครื่องเคียงผักสลัด ใบงา กระเทียมสด พริกชี้ฟ้า กิมจิ และซอสซัมจัง

  หมูปิ้งทำเองง่ายสุดๆ แค่ปรุงรสให้เข้มข้น หมักทิ้งไว้ 1 คืน ก็ได้เมนูสตรีทฟู้ดยอดฮิต สำหรับกินยามเช้าแล้ว   ส่วนผสม (สำหรับ 25-30 ไม้) เนื้อหมูสันคอหั่นชิ้นเล็ก 600 กรัม กระเทียม 4 กลีบใหญ่ รากผักชี 2 ราก ตะไคร้ซอย 1 ต้น นมข้นจืด 2 ช้อนโต๊ะ น้ำตาลทราย 2 1/2 ช้อนโต๊ะ พริกป่น 3 ช้อนชา ซอสปรุงรส 3 ช้อนโต๊ะ ซอสหอยนางรม 2 1/2 ช้อนโต๊ะ แป้งมัน 1 1/2 ช้อนโต๊ะ วิธีทำ ปรุงรสเนื้อหมูด้วยเครื่องตำละเอียด (กระเทียม รากผักชี ตะไคร้) นมข้นจืด น้ำตาล พริกป่น ซอสปรุงรส ซอสหอยนางรม และแป้งมัน คลุกให้เข้ากัน หมักไว้ 1 คืน  นำเนื้อหมูมาเสียบไม้ เรียงไว้ในกล่องหรือถาด เตรียมไว้ ย่างเนื้อหมูให้สุกหอม จัดใส่จาน เสิร์ฟกับน้ำจิ้มและข้าวเหนียว

  ซี่โครงหมูบาร์บีคิว เมนูอร่อยสำหรับครอบครัว เนื้อหมูนุ่ม เข้ากับซอสรสเปรี้ยวเค็มกลมกล่อม แม้จะใช้เวลาเตรียมและหมักนาน แต่ผลลัพธ์ก็ออกมาอร่อยคุ้มค่า   ส่วนผสม (สำหรับ 4-6 ที่) ซี่โครงหมู (น้ำหนัก 500-700 กรัม) 2 ชิ้น เกลือทะเล 1 ช้อนโต๊ะ พริกไทยดำบด 1 ช้อนโต๊ะ กระเทียมบุบ 6 กลีบ                              โรสแมรี่แห้ง 1 ช้อนโต๊ะ น้ำมันพืช 4 ช้อนโต๊ะ พาร์สลีย์สับสำหรับโรยหน้า มันฝรั่งทอดสำหรับเสิร์ฟ ส่วนผสมซอสบาร์บีคิว ซอสมะเขือเทศ (เคตชัพ) 1 ถ้วย ซอสพริก 1/4 ถ้วย หอมหัวใหญ่สับ 1/4 ถ้วย น้ำตาลทรายแดง 2 ช้อนโต๊ะ น้ำส้มสายชูหมัก 3 ช้อนโต๊ะ เกลือทะเล 1 ช้อนชา พริกไทยดำบด 1 ช้อนชา น้ำต้มหมู 1/2 ถ้วย วิธีทำ หมักซี่โครงหมูกับเกลือ พริกไทย กระเทียมบุบ โรสแมรี่ และน้ำมันพืชไว้ประมาณ 2 ชั่วโมง จากนั้นย่างบนกระทะให้เป็นสีน้ำตาลสวย ใส่ซี่โครงหมูลงในหม้อ ใส่น้ำให้พอท่วม ต้มต่อ 2 ชั่วโมงจนนุ่ม (เติมน้ำได้เป็นระยะ) ผสมซอสบาร์บีคิว นำหมูที่ต้มแล้วลงหมัก แช่ตู้เย็นไว้ 1คืน วางซี่โครงหมูบนถาดอบ นำเข้าเตาอบอุณหภูมิ 250 องศาเซลเซียส ประมาณ 20-25 นาทีจนมีสีสวย จัดใส่จาน โรยพาร์สลีย์สับ เสิร์ฟพร้อมซอสหมักที่เคี่ยวแล้ว และมันฝรั่งทอด

  นอกจากผักดองต่างๆแล้ว เนื้อหมูอย่างสามชั้นก็ดองได้ เป็นการถนอมอาหารอีกอย่างหนึ่งให้เนื้อสัตว์เก็บไว้กินได้ เมื่อดองครบกำหนดแล้ว นำมาคลุกกับเครื่องเทศเสริมรสชาติให้อร่อยขึ้นและสามารถเก็บไว้ในช่องแช่แข็งได้นานนับเดือน   ส่วนผสม หมูสามชั้นหั่นชิ้นใหญ่ 3 ชิ้น  700 กรัม เกลือป่น 1/4 ถ้วย กระเทียม 5 กลีบ น้ำเปล่า 500 มิลลิลิตร พริกไทยดำ 1/2 ช้อนชา ออลสไปซ์ 1/2 ช้อนชา ใบกระวาน 3 ใบ  ลูกผักชี 1/2 ช้อนชา ปาปริกา 2 ช้อนชา ลูกผักชีป่น 2 1/2 ช้อนชา ยี่หร่าป่น 2 ช้อนชา วิธีทำ ล้างหมูสามชั้นซับน้ำให้แห้ง ต้มน้ำใส่เกลือ พริกไทยดำ ออลสไปซ์ ใบกระวาน และลูกผักชี ต้มให้เดือด ยกลง คนให้คลายความร้อน   ซอยกระเทียมตามขวางใส่ลงในขวด เรียงหมูสามชั้นใส่สลับกับกระเทียมจนเต็มโหล เทน้ำเกลือร้อนใส่ให้ทั่ว ปิดฝา พักไว้ให้เย็น นำไปแช่ตู้เย็นประมาณ 5 วัน นำหมูออกจากขวด ซับน้ำดองให้แห้ง พักไว้ ผสมปาปริกา ลูกผักชีป่น และยี่หร่าป่นคนให้เข้ากัน ทาเนื้อหมูด้วยเครื่องปรุงให้ทั่วแล้วห่อด้วยกระดาษไข มัดด้วยเชือก แช่ช่องแข็ง 1 คืน วิธีรับประทาน นำเนื้อหมูมาหั่นเป็นชิ้นบาง ทอดให้สุก หรือทานสดกับเครื่องเคียงผลมะกอกดอง แตงกวาดอง และชีสตามชอบ

  อยู่บ้านมาทำอาหารอร่อยๆ กินกัน อย่าง “หมูกรอบหนังฟู” ยังเก็บไว้มาทำเมนูได้หลากหลาย ใครมีหม้อทอดไร้น้ำมันก็ใช้ได้ หรือสะดวกหน่อยก็ตั้งกระทะทอดได้   ส่วนผสม หมูสามชั้น (น้ำหนัก 1 กิโลกรัม) 1 ชิ้น เกลือป่น 2 ช้อนโต๊ะ เกลือป่นสำหรับทาหนังหมู 2 ช้อนชา น้ำส้มสายชู 4 ช้อนโต๊ะ น้ำเปล่า 6 ถ้วย น้ำมันสำหรับทอดหมู 2 ถ้วย หมูกรอบพริกเกลือ หมูกรอบหั่นชิ้นพอคำ 2 ถ้วย กระเทียมสับ 1/4 ถ้วย พริกชี้ฟ้าแดงกับพริกขี้หนูแดงสับ 1/4 ถ้วย ต้นหอมซอย 1 ต้น เกลือป่น 1/2 ช้อนชา น้ำตาลทราย 2 ช้อนชา น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ วิธีทำ ตั้งหม้อน้ำใส่เกลือ น้ำส้มสายชู 2 ช้อนโต๊ะ พอน้ำเดือด ใส่หมูสามชั้นลงต้มประมาณ 1 ชั่วโมง ใช้ไฟกลางค่อนข้างอ่อนจนหมูสุก หนังหมูใสและนุ่ม ตักหมูสามชั้นขึ้นพักไว้ พอให้คลายความร้อน ใช้ส้อมจิ้มหนังหมูให้ทั่วๆ โรยเกลือ และราดน้ำส้มสายชูที่เหลือให้ทั่วหนังหมู นำไปตากแดดจัดๆ หรืออบในเตาอบใช้อุณหภูมิต่ำสุดประมาณ 5 ชั่วโมง หรือจนกว่าหนังหมูจะแห้งใส  ตั้งกระทะใส่น้ำมัน ใส่หมูสามชั้นลงทอดโดยเอาด้านหนังลง ปิดฝา ใช้ไฟกลางทอดจนฟูเหลืองกรอบ กลับด้านทอดต่อจนเหลืองกรอบ ตักขึ้นพักให้สะเด็ดน้ำมัน นำหมูกรอบมาหั่นเป็นชิ้นพอคำ ตั้งกระทะ ใส่น้ำมันให้ร้อน ใส่หมูกรอบลงผัดให้เหลือง ตักขึ้น ใส่กระเทียมลงเจียวให้เหลือง ใส่พริกชี้ฟ้าแดงผัดให้เข้ากัน ปรุงรสด้วยเกลือ และน้ำตาล ผัดให้ทั่ว ใส่หมูกรอบ ต้นหอม ผัดให้ทั่ว ตักใส่จานเสิร์ฟกับข้าวสวยร้อนๆ

  หมูสามชั้นทอดผัดกับกะปิเคย รสเค็มเผ็ดเข้มข้น เสิร์ฟพร้อมส้มจี๊ดผลเล็กรสเปรี้ยวจัด น้ำส้มจี๊ดช่วยตัดรสและทำให้จานนี้หอมสดชื่นขึ้น           ส่วนผสม (สำหรับ 2 ที่) หมูสามชั้น 200 กรัม เครื่องแกงกะปิ 100 กรัม หอมแขก 1 ช้อนโต๊ะ พริกชี้ฟ้าแดง 1 ช้อนชา พริกชี้ฟ้าเขียว 1 ช้อนชา ตะไคร้ 1 ช้อนชา ใบมะกรูด  1 ช้อนชา มะนาว 1 ผล น้ำส้มจี๊ด 5 ผล น้ำตาลมะพร้าว 1 ช้อนชา น้ำปลา 1 ช้อนชา กระเทียมโทน หอมแดงไทย พริกจินดาแดง พริกชี้ฟ้าแดงส้ม ใบมะกรูดซอย ส้มจี๊ด และผักชีอย่างละเล็กน้อยสำหรับโรยหน้า ส่วนผสมและวิธีทำเครื่องแกงกะปิ                                              พริกขี้หนูสวน 2 ช้อนโต๊ะ พริกจินดาแดง 1 ช้อนโต๊ะ กระเทียมไทย 2 ช้อนโต๊ะ กะปิ 2 ช้อนโต๊ะ โขลกรวมกันให้ละเอียด วิธีทำ ทอดหมูสามชั้นหั่นชิ้นเล็กจนเหลือง ตักขึ้น พักไว้ ใส่น้ำมันในกระทะ ใส่เครื่องแกงกะปิลงผัดให้มีกลิ่นหอม ใส่หมูสามชั้นที่ทอดแล้วลงผัดให้เข้ากัน ปรุงรสด้วยน้ำตาลมะพร้าว น้ำปลา ใส่หอมแขก พริกชี้ฟ้าเขียวแดง ตะไคร้ และใบมะกรูด ผัดให้เข้ากัน ปิดไฟ ใส่น้ำมะนาวและน้ำส้มจี๊ด ตักใส่จาน ตกแต่งด้วยกระเทียมโทน หอมแดง พริกจินดาแดง พริกชี้ฟ้า ใบมะกรูดซอย ส้มจี๊ด และผักชี

  เมนูกินเล่นเรียกน้ำย่อยที่เสิร์ฟขาหมูเยอรมันทอดจนหนังกรอบกับเครื่องเมี่ยงที่มีพืชผักสมุนไพรครบครัน ห่อด้วยผักครบรสอร่อยในคำเดียว   ส่วนผสม (สำหรับ 4-6 ที่) ขาหมูเยอรมัน 1 ขา น้ำมันพืชสำหรับทอด เครื่องเมี่ยง : มะนาว หอมแดง ขิง (หั่นเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมเล็กให้เท่ากัน) ถั่วลิสงคั่ว กระเทียมกลีบเล็ก พริกขี้หนู สำหรับเสิร์ฟ : น้ำจิ้มซีฟู้ด ผักกาดคอส และผักสลัดบัตเตอร์เฮด   วิธีทำ ตั้งกระทะ ใส่น้ำมันพอร้อน ใส่ขาหมูลงทอดให้สุกเหลืองทั่ว ตักขึ้น พักไว้ให้สะเด็ดน้ำมัน หั่นเป็นชิ้นพอดีคำ จัดขาหมูใส่จานใบใหญ่พร้อมเครื่องเมี่ยงที่หั่นไว้ เสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้มซีฟู้ด ผักกาดคอส และบัตเตอร์เฮด 

  หมูย่างเนื้อนุ่มมีกลิ่นหอมของโรสแมรี่และน้ำมันมะกอก กินกับมันฝรั่งย่างทั้งเปลือกนุ่มเหนียว เข้าคู่กันได้เป็นอย่างดี   ส่วนผสม (สำหรับ 4 ที่) มันฝรั่งทั้งเปลือกหั่นชิ้นใหญ่พอดีคำ 4 หัว หมูสันคอและหมูสันนอกหั่นชิ้นสี่เหลี่ยมพอดีคำรวมกัน 500 กรัม กระเทียมบุบ 5 กลีบ น้ำมันมะกอก 1/4 ถ้วย โรสแมรี่ 3 กิ่ง เกลือทะเลและพริกไทยดำบดหยาบอย่างละ 1 ช้อนชา พริกคาเยนป่น หรือพริกป่น 1/2 ช้อนชา วิธีทำ ผสมกระเทียม น้ำมันมะกอก โรสแมรี่ เกลือ พริกไทย และพริกคาเยนรวมกัน ใส่เนื้อหมูลงหมักนานประมาณ 1 ชั่วโมง หรือมากกว่า ต้มมันฝรั่งทั้งเปลือกให้สุกประมาณ 80 % พักไว้ให้เย็น เสียบมันฝรั่งกับไม้สลับกับเนื้อหมู ย่างบนเตาถ่านด้วยไฟแรงปานกลางจนหมูสุกและมีกลิ่นหอม

  เรามาทำหมูกรอบผัดกับซอสที่อร่อยมากกันเลยดีกว่า   ส่วนผสม หมูกรอบ 175-200 กรัม (หั่นชิ้นพอดีคำ) น้ำมันหมู 1 ช้อนโต๊ะ เครื่องตำ 4 สหาย 1 ช้อนโต๊ะ (พริกไทย 1/2 ช้อนชา กระเทียมไทย 6 กลีบ รากผักชี 2 ราก ตะไคร้ 1/2 ต้น) หัวกะทิ 1-2 ช้อนโต๊ะ น้ำตาลทราย 1/2 ช้อนชา ซีอิ๊วจีนฉูปัง 1/2 ช้อนโต๊ะ (ใช้ซอสปรุงรสแทนได้) น้ำมันหอย 2 ช้อนชา เครื่องโปรย ต้นหอม ผักชี พริกขี้หนูแดง ตะไคร้อ่อน กระเทียมเจียว และพริกทอดกรอบ วิธีทำ ตั้งกระทะ ใส่น้ำมันมากพอสมควร รอจนน้ำมันร้อน (แต่ใช้ไฟกลาง) ใส่หมูกรอบที่หั่นไว้ลงทอดจนหนังฟูกรอบ ทอดนานเหมือนกัน หมูจะกรอบมาก แต่อย่าให้ไหม้ ตักขึ้น พักไว้ให้สะเด็ดน้ำมัน  เอาน้ำมันหมูใส่กระทะ ใส่ 4 สหายที่ตำไว้ลงผัดจนสุกส่งกลิ่นหอม ใส่ซีอิ๊วจีน น้ำมันหอย หัวกะทิ และน้ำตาล ผัดให้เข้ากัน หรี่ไฟอ่อน ชิมรสสักหน่อยก็ได้ รสชาติจะจัดและกลมกล่อม ใส่หมูกรอบที่ทอดไว้ลงคลุกให้ทั่วถึง ตักใส่จาน โปรยปรายด้วยต้นหอม ผักชี ตะไคร้ กระเทียมเจียว พริกขี้หนูแดง และพริกทอดกรอบ อย่างหลังนี้ถ้าไม่มีก็ไม่จำเป็นนะคะ เป็นหมูกรอบผัดที่รสชาติกลมกล่อมมาก เคี้ยวไปเจอตะไคร้ที่ปลูกเองยิ่งหอมชื่นใจ

  จะกินหมูกรอบก็ต้องเริ่มต้นที่การทำหมูกรอบ แต่สำหรับท่านที่ไม่อยากเสียเวลาตรงนี้ ข้ามไปอ่านวิธีทำหมูกรอบผัดตะไคร้ได้เลยนะคะ เนื่องจากหมูกรอบใช้เวลาทำนานมาก เรามักจะทำครั้งละ 1-2 กิโลกรัม บ้านเราทำแบบไม่ตากแดด แต่ใช้ฝาครอบเทอร์โบแทนค่ะ   ส่วนผสม หมูสามชั้นวัยละอ่อน หนังบาง มันน้อย 1-2 กิโลกรัม เกลือพอสมควร น้ำปลาประมาณ 2-3 ช้อนโต๊ะ (แล้วแต่ปริมาณหมู) น้ำมันหอย 1 ช้อนโต๊ะ ผงพะโล้ 1 ช้อนโต๊ะ (ถ้าไม่ชอบก็ละได้) น้ำส้มสายชูเล็กน้อย วิธีทำ ล้างหมูสามชั้นให้สะอาด ตัดเป็นชิ้นเท่าๆ กัน อาจจะยาวประมาณ 3 นิ้ว ต้มในหม้อ ใส่ตั้งแต่น้ำเย็น พอน้ำเดือดเติมเกลือ ชิมให้ได้รสเค็มพอเหมาะ คอยช้อนฟอง ต้มนานเท่าที่จำเป็น ถ้าหมูวัยกระเตาะก็ต้มแค่ 20 นาที ถ้าหมูแก่หน่อยก็ต้ม 40 นาที ถ้าหมูวัยกลางสุกรก็ปล่อยไว้ที่เขียง อย่าพาเข้าบ้าน ตักชิ้นหมูขึ้นมา ส่วนน้ำต้มหมูเอาไปทำแกงจืดได้ บั้งหนังหมูเป็นลายข้าวหลามตัด บั้งให้ถี่ ห่างแค่ 3 มิลลิเมตร บั้งลึกเท่าความหนาของหนัง (อันนี้สำคัญนะคะ บั้งบางไปจะหนืด บั้งลึกไปจะไม่สวย) ทาเนื้อหมูด้วยเกลือ น้ำปลา น้ำมันหอย และผงพะโล้ ทาหนังหมูด้วยน้ำส้มสายชู จัดใส่กล่องให้ด้านหนังโผล่ขึ้นมา ไม่ต้องปิดเพื่อให้หนังแห้ง แช่ตู้เย็นไว้อย่างน้อย 1 คืน วันรุ่งขึ้น เอาหมูวางเรียงในหม้อ ปิดอบด้วยฝาครอบเทอร์โบ ตั้งอุณหภูมิแค่ 125 องศาฟาเรนไฮต์ อบจนหนังหมูแห้งใสประมาณ 90-120 นาที หรือพอขอบๆ เริ่มเปลี่ยนสี เอาออกมาวางผึ่งให้เย็น ตั้งกระทะแบบจีน ใส่น้ำมันกะแค่พอท่วมหนังหมู รอจนน้ำมันร้อน เอาหมูอบที่เย็นสนิทแล้วใส่ตะแกรง วางด้านหนังลงหาน้ำมัน หย่อนตะแกรงลงให้หนังหมูโดนน้ำมัน จะได้ยินเสียงหนังหมูแตกตัวอย่างไพเราะ แต่น้ำมันไม่กระเด็นเลย ทอดรอบละ 3-4 นาที หนังหมูก็จะฟู อย่าให้เหลืองจัด เพราะเราจะทอดอีกครั้ง พักไว้ให้เย็น หยิบออกมาเท่าที่จะใช้ผัด ที่เหลือเก็บไว้ในตู้เย็นช่องธรรมดา เวลาจะกินค่อยทอดอีกครั้ง ยิ่งเก็บไว้นานจะยิ่งกรอบ ไม่ต้องปิดฝากล่องนะคะ หมูจะแห้งไปเรื่อยๆ และเดี๋ยวเรามาดูกันว่าหมูกรอบที่ทำเก็บไว้นั้นจะสามารถนำไปทำอาหารจานอร่อยอื่นๆ อะไรได้อีก...

  เมนูนี้เหมือนข้าวหน้าเนื้อ เมนูประจำบ้านชาวญี่ปุ่นที่ทำง่ายและอร่อย แต่สูตรนี้ใช้หมูสามชั้นสไลซ์บางแทน ผัดกับซอสโชยุผสมสาเกและมิริน น้ำขลุกขลิก หอมกลิ่นขิงอ่อนๆ ราดข้าว กินกับขิงดอง   ส่วนผสม (สำหรับ 1-2 ที่) หมูสามชั้นสไลซ์บาง 300 กรัม น้ำเปล่า 3 ช้อนโต๊ะ สาเก 1 ช้อนโต๊ะ โชยุ 1 ช้อนโต๊ะ มิริน 1 ช้อนโต๊ะ หอมหัวใหญ่ขนาดกลางซอยบาง 1 หัว กระเทียมสไลซ์ 2-3 กลีบ ขิงขูด 1 ช้อนโต๊ะ ข้าวญี่ปุ่นและขิงดองเค็มสำหรับเสิร์ฟ น้ำมันพืชเล็กน้อย วิธีทำ หั่นหมูสามชั้นเป็นชิ้นขนาด 1-2 นิ้ว ผัดในกระทะสักครู่ (ไม่ต้องใส่น้ำมัน) ตักขึ้น พักไว้ ผสมน้ำ สาเก โชยุ และมิรินเข้าด้วยกัน เตรียมไว้ เจียวกระเทียมกับน้ำมันพอหอม ใส่หอมหัวใหญ่ลงผัดให้สุกใสเป็นสีน้ำตาล ใส่หมูสามชั้นที่ผัดไว้และส่วนผสมโชยุ ผัดสักครู่ให้มีน้ำขลุกขลิก ชิมรส (เพิ่มรสได้ตามชอบ) ใส่ขิงขูด ผัดให้เข้ากัน ปิดไฟทันที ตักราดข้าว เสิร์ฟพร้อมขิงดอง