ตลอดเดือนกรกฎาคมถึงสิงหาคมที่ผ่านมา ร้านอาหารทุกแห่งปิดชั่วคราวเพื่อความปลอดภัยไม่ให้มีการรับประทานอาหารในร้านเพื่อลดการแพร่เชื้อโควิด-19 ดังนั้น ร้านอาหารต่างๆ ต่างปรับตัวด้วยการทำอาหารส่งตรงถึงบ้านแบบเดลิเวอรี
โรงแรมใจกลางเมืองอย่าง แบงค็อกแมริออท เดอะ สุรวงศ์ ก็ปรับตัวกับสถานการณ์นี้เช่นกัน นอกจากทำเดลิเวอรีเหมือนร้านอื่นๆ แล้ว ยังทำ Food Truck (ฟู้ดทรัค) หรือร้านขายอาหารเคลื่อนที่ จอดทำอาหารหน้าโรงแรม และยังขับไปจอดหน้าคอนโดฯ และหน้าหมู่บ้านเพื่อบริการชุมชนละแวกนั้นเป็นประจำอีกด้วย
ผู้อยู่เบื้องหลังรถครัวเคลื่อนที่นี้คือเชฟมากประสบการณ์ เอ็กซ์-อรรถพล ไนโต ถังทอง เอ็กเซ็กคิวทีฟเชฟหนุ่มที่ปรับเมนูหรูระดับโรงแรมจับลงกล่องให้เราพร้อมได้อร่อยที่บ้าน เชฟเอ็กซ์บอกว่า ตั้งแต่มีโรคระบาดทางโรงแรมปรับตัวตลอดเวลา หลังจากปลดล็อกดาวน์รอบแรกเชฟก็ทำบุฟเฟต์แบบสั่งได้ไม่อั้น ลูกค้าไม่ต้องลุกไปตักที่ไลน์บุฟเฟต์ ซึ่งได้ผลลัพธ์ดีมาก พอมาล็อกดาวน์รอบนี้มีข้อจำกัดมากขึ้นคือไม่ให้นั่งกินในร้าน จึงจอดรถฟู้ดทรัคบริการหน้าโรงแรม ลูกค้าไม่ต้องเดินผ่านโรงแรมเพื่อเข้าไปสั่งอาหาร มั่นใจได้ในความสะอาดตามมาตรฐาน
เมื่อมาทำอาหารเดลิเวอรี เชฟบอกว่าต้องเป็นเมนูที่คนทั่วไปรู้จัก เข้าถึงได้ง่าย กินได้ทุกวัน แต่ใช้ของพรีเมียมเป็นตัวชูโรง เช่น ทรัฟเฟิล วากิว ล็อบสเตอร์ ซึ่งโรงแรมมีข้อได้เปรียบ เพราะสามารถสั่งวัตถุดิบพรีเมียมเหล่านี้ได้ในราคาดี เมนูที่ขายเดลิเวอรีต้องแตกต่างกว่าเมนูธรรมดาคือ เมื่อปรุงแล้วพอเก็บไว้ประมาณ 2 ชั่วโมงยังต้องอร่อยอยู่ เชฟจึงลองปรุงแล้วใส่กล่องจับเวลาไว้ ชิมดู ลองอยู่หลายครั้ง จนมั่นใจว่าเมื่ออาหารเย็นลงแล้วก็ยังมีรสชาติดีอยู่ เทคนิคคือปรุงอาหารให้รสจัดขึ้นอีกนิด
เมนูจะจัดอย่างสวยงามใส่ภาชนะสำหรับอุ่นในไมโครเวฟ ส่วนใหญ่เป็นเมนูที่เราคุ้นเคยได้แก่ เกี๊ยวหม่าล่า ก๋วยเตี๋ยวเส้นสดซอสเสฉวนหมูสับ บะหมี่ฮ่องกงจักรพรรดิเสิร์ฟพร้อมหมูกรอบ หมูแดง เป็ดย่าง สปาเกตตีคาร์โบนาราใส่คอหมูย่าง สปาเกตตีแซลมอนย่างซอสครีมไข่กุ้ง สปาเกตตีผัดขี้เมาทรัฟเฟิลเสิร์ฟพร้อมเนื้อวากิว เป็นต้น
พอพูดถึงเรื่องการปรับตัว เชฟเอ็กซ์เล่าว่า ทุกปีจะถูกเชิญไปเป็นเชฟพิเศษที่ต่างประเทศ แต่ปีนี้ต้องทำอาหารที่เมืองไทย แล้วส่งสัญญาณภาพแบบออนไลน์ไปยังอีกมุมหนึ่งของโลก เชฟท้องถิ่นของประเทศนั้นจะปรุงอาหารตามสูตรของเชฟเพื่อเสิร์ฟลูกค้า ทำให้ลูกค้าได้อรรถรสเหมือนว่าเชฟเอ็กซ์ไปเสิร์ฟอาหารด้วยตัวเอง
นี่คงเป็นอีก New Normal ที่ทั้งเราและเชฟต้องปรับตัวให้ทัน
สปาเกตตีกุ้งมังกรซอสครีมไข่กุ้ง (Spaghetti Ebiko Sauce with Lobster)
ส่วนผสม (สำหรับ 1 ที่)
ล็อบสเตอร์ 1/2 ตัว
สปาเกตตีต้มสุก 150 กรัม
วิปปิงครีม 200 กรัม
ซอสพริกศรีราชา 50 กรัม
ซอสทาบาสโก 10 กรัม
หอมหัวใหญ่สับ 10 กรัม
ชีสพาร์เมซานขูด 10 กรัม
ไข่กุ้ง 10 กรัม
เกลือป่นและพริกไทยป่นสำหรับปรุงรส
สาหร่ายโนริหั่นเส้นสำหรับโรยหน้า
น้ำมันมะกอกสำหรับผัดเล็กน้อย
วิธีทำ
ย่างล็อบสเตอร์บนกระทะจนมีสีสวย นำไปอบต่อในเตาอบประมาณ 6 นาที จนสุกดี
ผัดหอมหัวใหญ่กับน้ำมันมะกอกเล็กน้อย จนสุกนุ่ม ใส่วิปปิงครีม ซอสพริกศรีราชา และทาบาสโก
ต้มจนซอสข้น ใส่เส้น และปรุงรสด้วยเกลือ และพริกไทย
ใส่ไข่กุ้ง และชีส ปิดไฟ
ตักใส่จาน วางกุ้งล็อบสเตอร์ แต่งหน้าด้วยสาหร่าย และไข่กุ้ง